ปิดงบการเงิน

ทั้งหมด

บัญชี

ภาษี

ธุรกิจ

การใช้งานโปรแกรม

ข่าวสาร

31 ม.ค. 2025

PEAK Account

11 min

Audit คืออะไร? สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้เพื่อเตรียมพร้อม

คำว่า ‘Audit’ คำนี้หลายคนคงได้ยินกันบ่อย ๆ และมีความสำคัญกับธุรกิจอย่างมาก เพราะการ Audit คือ การตรวจสอบและประเมินข้อมูลบัญชีทางการเงินว่ามีความถูกต้องหรือไม่ และประเมินว่าพนักงานและบริษัทได้ทำตามกฎระเบียบขององค์กรและกฎหมายจริง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญอิสระ ซึ่งการ Audit นั้นจะมีความสำคัญกับธุรกิจอย่างไร ทำไมธุรกิจต้องตรวจสอบบัญชีเราไปดูกัน  Audit คืออะไร สำคัญสำหรับธุรกิจอย่างไร Audit คือกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้การทำธุรกิจโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ โดยมีบทบาทสำคัญในหลายด้าน ทั้งการสร้างความน่าเชื่อถือ การทำตามกฎหมาย การป้องกันการทุจริต และการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ การตรวจสอบบัญชี หรือ Audit คือสิ่งสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ การตรวจสอบบัญชี หรือ Audit คือกลไกในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร โดยผู้ตรวจสอบอิสระที่มีความเชี่ยวชาญ จะทำให้งบการเงินของบริษัทน่าเชื่อถือมากขึ้น จนนักลงทุนและสถาบันการเงินมั่นใจในการลงทุนหรือร่วมงานกับองค์กร นอกจากนี้ ยังช่วยทำให้ธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาคนทั่วไป ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ Audit เป็นตัวช่วยให้องค์กรและคนทั่วไปมั่นใจว่าบริษัททำตามข้อบังคับและกฎหมายจริง ๆ ทั้งด้านการเงินและภาษี เพื่อช่วยป้องกันการถูกปรับจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงการการทำงานต่าง ๆ ได้สอดคล้องกับข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างทันท่วงที ป้องกันการทุจริตและข้อผิดพลาด Audit เป็นกระบวนการที่ช่วยค้นหาข้อผิดพลาดในการทำธุรกิจ และป้องกันปัญหาทุจริตที่อาจจะเกิดจขึ้น ผ่านการตรวจสอบภายในและรายการต่าง ๆ อย่างละเอียด ซึ่งถ้าบริษัทมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ธุรกิจสามารถรู้จุดอ่อนของตัวเอง และปรับปรุงได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหายรุนแรง เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ Audit เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะการตรวจสอบงบการเงินที่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือจากนักลงทุนและจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ยังช่วยให้การวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจ จากข้อมูลทางการเงินที่มีความถูกต้องได้ง่ายและรอบคอบมากขึ้น อาชีพ Audit คือ อะไร มีกี่ประเภท อาชีพ Audit หรือการสอบบัญชี เป็นการตรวจสอบและประเมินข้อมูลทางการเงินและกระบวนการต่าง ๆ ขององค์กร เพื่อให้แน่ใจว่ามีความถูกต้อง ครบถ้วน และปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง การสอบบัญชีช่วยให้ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ และนักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังช่วยในการตรวจสอบความมีประสิทธิภาพของระบบการควบคุมภายในองค์กรและการป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ เราจึงจะขอพาไปทำความรู้จักกับอาชีพ Audit ว่ามีประเภทอะไรบ้าง และมีหน้าที่ตรวจสอบธุรกิจส่วนไหน เพื่อให้เจ้าของธุรกิจ พนักงานบัญชี และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถเตรียมพร้อมรับการตรวจสอบได้อย่างราบรื่น Financial Audit คือ Financial Audit คือการตรวจสอบรายงานทางการเงินที่จัดทำขึ้นโดยองค์กรหรือธุรกิจ โดยผู้สอบบัญชีอิสระ (External Auditor) เพื่อให้ความมั่นใจว่าข้อมูลทางการเงินมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ตามมาตรฐานการบัญชีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เช่น มาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (IFRS) หรือมาตรฐานการบัญชีของประเทศนั้น ๆ ซึ่งการตรวจสอบนี้มีเป้าหมายหลักในการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับรายงานทางการเงินที่ใช้ประกอบการตัดสินใจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของผู้บริหาร นักลงทุน หรือเจ้าหนี้ การตรวจสอบ Financial Audit จะครอบคลุมการตรวจสอบรายการบัญชีทั้งหมด รวมถึงเอกสารประกอบต่าง ๆ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี รายการรายได้และค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคารและการเคลื่อนไหวของเงินสดในบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการบิดเบือนข้อมูลหรือการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักการบัญชี การสอบบัญชีการเงินมักจะดำเนินการในช่วงเวลาสิ้นปีหรือตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ข้อมูลทางการเงินที่ออกมาในรายงานการเงินมีความถูกต้องและสามารถนำไปใช้งานได้ โดยผู้สอบบัญชีจะทำการวิเคราะห์ ตรวจสอบ เรียกเก็บข้อมูล และสอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้องในองค์กร เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าองค์กรนั้นมีการจัดทำบัญชีและการรายงานทางการเงินอย่างถูกต้องหรือไม่ Internal Audit Internal Audit คือการตรวจสอบภายในที่ดำเนินการโดยพนักงานขององค์กรเอง ซึ่งมักจะเป็นแผนกหรือทีมงานที่มีความเป็นอิสระจากหน่วยงานปฏิบัติงานในองค์กร การตรวจสอบนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อประเมินประสิทธิภาพในการดำเนินงานของระบบต่าง ๆ ภายในองค์กร รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงในกระบวนการทำธุรกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายขององค์กร บทบาทของ Internal Audit มีความสำคัญในการช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ การตรวจสอบนี้ครอบคลุมหลายด้าน เช่น การตรวจสอบการควบคุมภายใน (Internal Controls) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการกระทำผิดกฎหมาย การทุจริต หรือความผิดพลาดในระบบการทำงาน รวมไปถึงการตรวจสอบการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ และการประเมินความเสี่ยงที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ทีมงาน Internal Audit จะทำการประเมินผลกระทบของการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ตรงตามเป้าหมายที่กำหนด IT Audit IT Audit คือการตรวจสอบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กร โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อประเมินและตรวจสอบความปลอดภัยของระบบข้อมูล เทคโนโลยีที่ใช้ และการปฏิบัติตามนโยบายด้านความปลอดภัยของข้อมูล การตรวจสอบนี้ช่วยให้มั่นใจว่าองค์กรมีการควบคุมระบบ IT ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยจากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์ การรั่วไหลของข้อมูล หรือการใช้ระบบที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน การตรวจสอบใน IT Audit จะครอบคลุมหลายด้าน เช่น การเข้าถึงข้อมูล (Access Control) ว่าผู้ใช้งานได้รับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลอย่างเหมาะสมหรือไม่, การป้องกันข้อมูลจากการสูญหายหรือการถูกโจรกรรม (Data Protection) และการตรวจสอบกระบวนการในการป้องกันภัยคุกคามทางเทคโนโลยี (Cybersecurity Measures) เช่น การใช้ไฟร์วอลล์ (Firewall) หรือระบบการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ที่มีมาตรฐาน การตรวจสอบบัญชี หรือ Audit เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท ผู้ประกอบการจึงต้องมีการตรวจสอบบัญชีเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างมั่นคง โดย PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เราพร้อมช่วยผู้ประกอบการจัดการเรื่องภาษีและบัญชีได้อย่างถูกต้องรองรับการเติบโต ช่วยให้ธุรกิจก้าวไปสู่ความสำเร็จ ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

13 มิ.ย. 2024

PEAK Account

10 min

ปิดงบการเงินเสร็จแล้ว…ต้องขอเอกสารอะไรบ้างจากสำนักงานบัญชี?

การปิดงบการเงินถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนการปิดงบของงานบัญชี แต่ยังมีเอกสารสำคัญอีกหลายรายการที่ผู้ประกอบการควรขอคืนจากสำนักงานบัญชีเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ดังนั้นในบทความนี้จะพาผู้ประกอบการมาเช็กลิสต์เอกสารที่ต้องขอคืนจากสำนักงานบัญชีมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย ทำไมต้องขอเอกสารคืนจากสำนักงานบัญชี? โดยทั่วไป การปิดงบการเงินจะดำเนินการโดยการจ้างสำนักงานบัญชีหรือนักบัญชีที่รับทําบัญชีปิดงบ ซึ่งจะทำการบันทึกรายการธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดในช่วงรอบบัญชี ปรับปรุงบัญชี ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และจัดทำงบการเงิน  แต่หลังจากปิดงบแล้ว ผู้ประกอบการควรขอเอกสารคืนด้วย การขอเอกสารคืนจากสำนักงานบัญชีหลังปิดงบ มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการหลายประการ ช่วยให้มีหลักฐานครบถ้วน ป้องกันความเสี่ยง และประกอบการทำธุรกรรมอื่นๆ ได้สะดวก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรเก็บเอกสารทางบัญชีไว้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี เพื่อป้องกันความเสี่ยงและเพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบในอนาคต นอกจากเอกสารที่ระบุข้างต้นแล้ว ผู้ประกอบการยังสามารถขอเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมจากสำนักงานบัญชีได้ตามความต้องการ 1. เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เอกสารทางบัญชีเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้ประกอบการตรวจสอบภาษี หรือใช้ประกอบธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ 2. เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางบัญชี เปรียบเทียบกับเอกสารต้นฉบับ เผื่อมีข้อผิดพลาด 3. เพื่อประกอบการวิเคราะห์ ข้อมูลในเอกสารทางบัญชีสามารถนำมาวิเคราะห์ ประเมินผลการดำเนินงาน วางแผนธุรกิจ และติดตามความก้าวหน้า 4. เพื่อป้องกันกรณีเกิดข้อพิพาท เอกสารทางบัญชีสามารถใช้เป็นหลักฐานในกรณีเกิดข้อพิพาททางการเงิน เอกสารที่ต้องขอคืนจากสำนักงานบัญชีหลังจากปิดงบการเงิน เอกสารที่ต้องขอคืนจากสำนักงานบัญชีหลังปิดงบ บริษัท มีความสำคัญต่อทั้งทางบัญชีและภาษี การเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้เป็นหลักฐานจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เอกสารที่ต้องขอคืนจากสำนักงานบัญชีหลังปิดงบการเงิน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้ 1. เอกสารประกอบการบันทึกบัญชี 1.1 สมุดรายวัน (JV)  สมุดรายวัน เป็นเอกสารที่ใช้บันทึกรายการค้าทุกอย่างของกิจการ มีทั้งหมด 5 เล่ม ประกอบด้วย 1.2 บัญชีแยกประเภท(GL)  บัญชีแยกประเภท คือ บัญชีที่รวบรวมการบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นไว้เป็นหมวดหมู่ หลังจากการบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันทั่วไป เรียบร้อยแล้ว จัดเรียงลำดับผังบัญชีของกิจการ เช่น บัญชีเงินสด เป็นบัญชีที่รวบรวมรายการค้าที่เกี่ยวกับเงินสด บัญชีลูกหนี้ เป็นบัญชีที่รวบรวม รายการค้าที่เกี่ยวกับลูกหนี้ การบันทึกรายการในแต่ละบัญชี จะบันทึกไม่ปะปนกันเพื่อให้ตรงตามข้อเท็จจริง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสะดวก ในการค้นหาหรือแก้ไขข้อผิดพลาด 1.3 งบทดลอง(TB)  งบทดลอง คือ รายงานที่สรุปยอดคงเหลือของแต่ละบัญชี ใช้สำหรับตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปจัดทำงบการเงิน เป็นเอกสารที่แสดงภาพรวมของสถานะทางการเงิน ณ สิ้นงวด 1.4 งบการเงิน งบการเงิน เอกสารสำคัญที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท ประกอบด้วย งบฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ งบกระแสเงินสด(ถ้ามี) และหมายเหตุประกอบงบการเงิน 1.5 หน้ารายงานผู้สอบบัญชี หน้ารายงานผู้สอบบัญชี ผู้สอบจะแสดงความเห็นว่างบการเงินของกิจการถูกต้อง ผิดเฉพาะบางส่วน หรือไม่ถูกต้องเลย รายงานความเห็นผู้สอบบัญชีจึงเป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญที่แสดงไว้ในงบการเงิน เพื่อให้ผู้ใช้งบการเงินมั่นใจในความถูกต้องของข้อมูลตามมาตรการบัญชีที่รับรองทั่วไป 1.6 เอกสารรายรับ-รายจ่าย เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบแจ้งหนี้ รวมถึงสัญญาต่างๆ 1.7 รายละเอียดประกอบยอดสินทรัพย์ หนี้สินคงเหลือ เช่น ทะเบียนทรัพย์สิน ทะเบียนสินค้า รายละเอียดลูกหนี้ และเจ้าหนี้คงเหลือ 2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาษี 2.1 แบบนำส่งภาษี แบบนำส่งภาษี เป็นเอกสารที่ใช้สำหรับรายงานข้อมูลรายรับ-รายจ่าย และเสียภาษีเงินได้ต่อกรมสรรพากร มีหลายแบบสำหรับประเภทของภาษี เช่น ภ.ง.ด. 1, ภ.ง.ด. 3, ภ.ง.ด. 53 , ภ.ง.ด. 51, ภ.ง.ด.51, ภ.พ. 30 2.2 ใบแนบแบบภาษี  ใบแนบแบบภาษี คือ เอกสารเพิ่มเติมที่ใช้ประกอบแบบนำส่งภาษี เพื่อแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายได้ ค่าใช้จ่าย หรือข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณภาษี 2.3 ใบเสร็จรับเงินค่าภาษี นอกจากเอกสารที่ระบุไว้ข้างต้นแล้ว อาจมีเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมที่อาจจำเป็น ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจและความต้องการของผู้ใช้งาน ผู้ประกอบการ ควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากสำนักงานบัญชีที่รับผิดชอบ เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับเอกสารครบถ้วนและตรงตามความต้องการ จะเห็นว่ามีเอกสารบัญชีหลากหลายประเภทจนอาจสร้างความสับสนให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการจัดการด้วยตนเอง สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจัดการเอกสารบัญชีด้วยตนเอง ทาง PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เราพร้อมช่วยจัดการเอกสารธุรกิจได้ง่ายๆ ให้คุณทำธุรกิจ อย่างเป็นระบบ รองรับการเติบโตให้ธุรกิจของคุณก้าวไปสู่ความสำเร็จ

31 ม.ค. 2025

PEAK Account

11 min

Audit คืออะไร? สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้เพื่อเตรียมพร้อม

คำว่า ‘Audit’ คำนี้หลายคนคงได้ยินกันบ่อย ๆ และมีความสำคัญกับธุรกิจอย่างมาก เพราะการ Audit คือ การตรวจสอบและประเมินข้อมูลบัญชีทางการเงินว่ามีความถูกต้องหรือไม่ และประเมินว่าพนักงานและบริษัทได้ทำตามกฎระเบียบขององค์กรและกฎหมายจริง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญอิสระ ซึ่งการ Audit นั้นจะมีความสำคัญกับธุรกิจอย่างไร ทำไมธุรกิจต้องตรวจสอบบัญชีเราไปดูกัน  Audit คืออะไร สำคัญสำหรับธุรกิจอย่างไร Audit คือกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้การทำธุรกิจโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ โดยมีบทบาทสำคัญในหลายด้าน ทั้งการสร้างความน่าเชื่อถือ การทำตามกฎหมาย การป้องกันการทุจริต และการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ การตรวจสอบบัญชี หรือ Audit คือสิ่งสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ การตรวจสอบบัญชี หรือ Audit คือกลไกในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร โดยผู้ตรวจสอบอิสระที่มีความเชี่ยวชาญ จะทำให้งบการเงินของบริษัทน่าเชื่อถือมากขึ้น จนนักลงทุนและสถาบันการเงินมั่นใจในการลงทุนหรือร่วมงานกับองค์กร นอกจากนี้ ยังช่วยทำให้ธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาคนทั่วไป ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ Audit เป็นตัวช่วยให้องค์กรและคนทั่วไปมั่นใจว่าบริษัททำตามข้อบังคับและกฎหมายจริง ๆ ทั้งด้านการเงินและภาษี เพื่อช่วยป้องกันการถูกปรับจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงการการทำงานต่าง ๆ ได้สอดคล้องกับข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างทันท่วงที ป้องกันการทุจริตและข้อผิดพลาด Audit เป็นกระบวนการที่ช่วยค้นหาข้อผิดพลาดในการทำธุรกิจ และป้องกันปัญหาทุจริตที่อาจจะเกิดจขึ้น ผ่านการตรวจสอบภายในและรายการต่าง ๆ อย่างละเอียด ซึ่งถ้าบริษัทมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ธุรกิจสามารถรู้จุดอ่อนของตัวเอง และปรับปรุงได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหายรุนแรง เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ Audit เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะการตรวจสอบงบการเงินที่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือจากนักลงทุนและจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ยังช่วยให้การวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจ จากข้อมูลทางการเงินที่มีความถูกต้องได้ง่ายและรอบคอบมากขึ้น อาชีพ Audit คือ อะไร มีกี่ประเภท อาชีพ Audit หรือการสอบบัญชี เป็นการตรวจสอบและประเมินข้อมูลทางการเงินและกระบวนการต่าง ๆ ขององค์กร เพื่อให้แน่ใจว่ามีความถูกต้อง ครบถ้วน และปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง การสอบบัญชีช่วยให้ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ และนักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังช่วยในการตรวจสอบความมีประสิทธิภาพของระบบการควบคุมภายในองค์กรและการป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ เราจึงจะขอพาไปทำความรู้จักกับอาชีพ Audit ว่ามีประเภทอะไรบ้าง และมีหน้าที่ตรวจสอบธุรกิจส่วนไหน เพื่อให้เจ้าของธุรกิจ พนักงานบัญชี และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถเตรียมพร้อมรับการตรวจสอบได้อย่างราบรื่น Financial Audit คือ Financial Audit คือการตรวจสอบรายงานทางการเงินที่จัดทำขึ้นโดยองค์กรหรือธุรกิจ โดยผู้สอบบัญชีอิสระ (External Auditor) เพื่อให้ความมั่นใจว่าข้อมูลทางการเงินมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ตามมาตรฐานการบัญชีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เช่น มาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (IFRS) หรือมาตรฐานการบัญชีของประเทศนั้น ๆ ซึ่งการตรวจสอบนี้มีเป้าหมายหลักในการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับรายงานทางการเงินที่ใช้ประกอบการตัดสินใจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของผู้บริหาร นักลงทุน หรือเจ้าหนี้ การตรวจสอบ Financial Audit จะครอบคลุมการตรวจสอบรายการบัญชีทั้งหมด รวมถึงเอกสารประกอบต่าง ๆ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี รายการรายได้และค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคารและการเคลื่อนไหวของเงินสดในบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการบิดเบือนข้อมูลหรือการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักการบัญชี การสอบบัญชีการเงินมักจะดำเนินการในช่วงเวลาสิ้นปีหรือตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ข้อมูลทางการเงินที่ออกมาในรายงานการเงินมีความถูกต้องและสามารถนำไปใช้งานได้ โดยผู้สอบบัญชีจะทำการวิเคราะห์ ตรวจสอบ เรียกเก็บข้อมูล และสอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้องในองค์กร เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าองค์กรนั้นมีการจัดทำบัญชีและการรายงานทางการเงินอย่างถูกต้องหรือไม่ Internal Audit Internal Audit คือการตรวจสอบภายในที่ดำเนินการโดยพนักงานขององค์กรเอง ซึ่งมักจะเป็นแผนกหรือทีมงานที่มีความเป็นอิสระจากหน่วยงานปฏิบัติงานในองค์กร การตรวจสอบนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อประเมินประสิทธิภาพในการดำเนินงานของระบบต่าง ๆ ภายในองค์กร รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงในกระบวนการทำธุรกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายขององค์กร บทบาทของ Internal Audit มีความสำคัญในการช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ การตรวจสอบนี้ครอบคลุมหลายด้าน เช่น การตรวจสอบการควบคุมภายใน (Internal Controls) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการกระทำผิดกฎหมาย การทุจริต หรือความผิดพลาดในระบบการทำงาน รวมไปถึงการตรวจสอบการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ และการประเมินความเสี่ยงที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ทีมงาน Internal Audit จะทำการประเมินผลกระทบของการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ตรงตามเป้าหมายที่กำหนด IT Audit IT Audit คือการตรวจสอบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กร โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อประเมินและตรวจสอบความปลอดภัยของระบบข้อมูล เทคโนโลยีที่ใช้ และการปฏิบัติตามนโยบายด้านความปลอดภัยของข้อมูล การตรวจสอบนี้ช่วยให้มั่นใจว่าองค์กรมีการควบคุมระบบ IT ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยจากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์ การรั่วไหลของข้อมูล หรือการใช้ระบบที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน การตรวจสอบใน IT Audit จะครอบคลุมหลายด้าน เช่น การเข้าถึงข้อมูล (Access Control) ว่าผู้ใช้งานได้รับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลอย่างเหมาะสมหรือไม่, การป้องกันข้อมูลจากการสูญหายหรือการถูกโจรกรรม (Data Protection) และการตรวจสอบกระบวนการในการป้องกันภัยคุกคามทางเทคโนโลยี (Cybersecurity Measures) เช่น การใช้ไฟร์วอลล์ (Firewall) หรือระบบการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ที่มีมาตรฐาน การตรวจสอบบัญชี หรือ Audit เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท ผู้ประกอบการจึงต้องมีการตรวจสอบบัญชีเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างมั่นคง โดย PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เราพร้อมช่วยผู้ประกอบการจัดการเรื่องภาษีและบัญชีได้อย่างถูกต้องรองรับการเติบโต ช่วยให้ธุรกิจก้าวไปสู่ความสำเร็จ ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

13 มิ.ย. 2024

PEAK Account

10 min

ปิดงบการเงินเสร็จแล้ว…ต้องขอเอกสารอะไรบ้างจากสำนักงานบัญชี?

การปิดงบการเงินถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนการปิดงบของงานบัญชี แต่ยังมีเอกสารสำคัญอีกหลายรายการที่ผู้ประกอบการควรขอคืนจากสำนักงานบัญชีเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ดังนั้นในบทความนี้จะพาผู้ประกอบการมาเช็กลิสต์เอกสารที่ต้องขอคืนจากสำนักงานบัญชีมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย ทำไมต้องขอเอกสารคืนจากสำนักงานบัญชี? โดยทั่วไป การปิดงบการเงินจะดำเนินการโดยการจ้างสำนักงานบัญชีหรือนักบัญชีที่รับทําบัญชีปิดงบ ซึ่งจะทำการบันทึกรายการธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดในช่วงรอบบัญชี ปรับปรุงบัญชี ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และจัดทำงบการเงิน  แต่หลังจากปิดงบแล้ว ผู้ประกอบการควรขอเอกสารคืนด้วย การขอเอกสารคืนจากสำนักงานบัญชีหลังปิดงบ มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการหลายประการ ช่วยให้มีหลักฐานครบถ้วน ป้องกันความเสี่ยง และประกอบการทำธุรกรรมอื่นๆ ได้สะดวก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรเก็บเอกสารทางบัญชีไว้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี เพื่อป้องกันความเสี่ยงและเพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบในอนาคต นอกจากเอกสารที่ระบุข้างต้นแล้ว ผู้ประกอบการยังสามารถขอเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมจากสำนักงานบัญชีได้ตามความต้องการ 1. เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เอกสารทางบัญชีเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้ประกอบการตรวจสอบภาษี หรือใช้ประกอบธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ 2. เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางบัญชี เปรียบเทียบกับเอกสารต้นฉบับ เผื่อมีข้อผิดพลาด 3. เพื่อประกอบการวิเคราะห์ ข้อมูลในเอกสารทางบัญชีสามารถนำมาวิเคราะห์ ประเมินผลการดำเนินงาน วางแผนธุรกิจ และติดตามความก้าวหน้า 4. เพื่อป้องกันกรณีเกิดข้อพิพาท เอกสารทางบัญชีสามารถใช้เป็นหลักฐานในกรณีเกิดข้อพิพาททางการเงิน เอกสารที่ต้องขอคืนจากสำนักงานบัญชีหลังจากปิดงบการเงิน เอกสารที่ต้องขอคืนจากสำนักงานบัญชีหลังปิดงบ บริษัท มีความสำคัญต่อทั้งทางบัญชีและภาษี การเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้เป็นหลักฐานจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เอกสารที่ต้องขอคืนจากสำนักงานบัญชีหลังปิดงบการเงิน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้ 1. เอกสารประกอบการบันทึกบัญชี 1.1 สมุดรายวัน (JV)  สมุดรายวัน เป็นเอกสารที่ใช้บันทึกรายการค้าทุกอย่างของกิจการ มีทั้งหมด 5 เล่ม ประกอบด้วย 1.2 บัญชีแยกประเภท(GL)  บัญชีแยกประเภท คือ บัญชีที่รวบรวมการบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นไว้เป็นหมวดหมู่ หลังจากการบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันทั่วไป เรียบร้อยแล้ว จัดเรียงลำดับผังบัญชีของกิจการ เช่น บัญชีเงินสด เป็นบัญชีที่รวบรวมรายการค้าที่เกี่ยวกับเงินสด บัญชีลูกหนี้ เป็นบัญชีที่รวบรวม รายการค้าที่เกี่ยวกับลูกหนี้ การบันทึกรายการในแต่ละบัญชี จะบันทึกไม่ปะปนกันเพื่อให้ตรงตามข้อเท็จจริง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสะดวก ในการค้นหาหรือแก้ไขข้อผิดพลาด 1.3 งบทดลอง(TB)  งบทดลอง คือ รายงานที่สรุปยอดคงเหลือของแต่ละบัญชี ใช้สำหรับตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปจัดทำงบการเงิน เป็นเอกสารที่แสดงภาพรวมของสถานะทางการเงิน ณ สิ้นงวด 1.4 งบการเงิน งบการเงิน เอกสารสำคัญที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท ประกอบด้วย งบฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ งบกระแสเงินสด(ถ้ามี) และหมายเหตุประกอบงบการเงิน 1.5 หน้ารายงานผู้สอบบัญชี หน้ารายงานผู้สอบบัญชี ผู้สอบจะแสดงความเห็นว่างบการเงินของกิจการถูกต้อง ผิดเฉพาะบางส่วน หรือไม่ถูกต้องเลย รายงานความเห็นผู้สอบบัญชีจึงเป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญที่แสดงไว้ในงบการเงิน เพื่อให้ผู้ใช้งบการเงินมั่นใจในความถูกต้องของข้อมูลตามมาตรการบัญชีที่รับรองทั่วไป 1.6 เอกสารรายรับ-รายจ่าย เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบแจ้งหนี้ รวมถึงสัญญาต่างๆ 1.7 รายละเอียดประกอบยอดสินทรัพย์ หนี้สินคงเหลือ เช่น ทะเบียนทรัพย์สิน ทะเบียนสินค้า รายละเอียดลูกหนี้ และเจ้าหนี้คงเหลือ 2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาษี 2.1 แบบนำส่งภาษี แบบนำส่งภาษี เป็นเอกสารที่ใช้สำหรับรายงานข้อมูลรายรับ-รายจ่าย และเสียภาษีเงินได้ต่อกรมสรรพากร มีหลายแบบสำหรับประเภทของภาษี เช่น ภ.ง.ด. 1, ภ.ง.ด. 3, ภ.ง.ด. 53 , ภ.ง.ด. 51, ภ.ง.ด.51, ภ.พ. 30 2.2 ใบแนบแบบภาษี  ใบแนบแบบภาษี คือ เอกสารเพิ่มเติมที่ใช้ประกอบแบบนำส่งภาษี เพื่อแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายได้ ค่าใช้จ่าย หรือข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณภาษี 2.3 ใบเสร็จรับเงินค่าภาษี นอกจากเอกสารที่ระบุไว้ข้างต้นแล้ว อาจมีเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมที่อาจจำเป็น ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจและความต้องการของผู้ใช้งาน ผู้ประกอบการ ควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากสำนักงานบัญชีที่รับผิดชอบ เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับเอกสารครบถ้วนและตรงตามความต้องการ จะเห็นว่ามีเอกสารบัญชีหลากหลายประเภทจนอาจสร้างความสับสนให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการจัดการด้วยตนเอง สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจัดการเอกสารบัญชีด้วยตนเอง ทาง PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เราพร้อมช่วยจัดการเอกสารธุรกิจได้ง่ายๆ ให้คุณทำธุรกิจ อย่างเป็นระบบ รองรับการเติบโตให้ธุรกิจของคุณก้าวไปสู่ความสำเร็จ