ภาพรวมของโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ ช่วยวิเคราะห์ผลประกอบการณ์ รู้กำไรขาดทุน

ตัวช่วยวิเคราะห์ข้อมูลบัญชี เห็นผลกำไร ขาดทุน บริหารธุรกิจได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ระบบวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพออนไลน์ PEAK Board เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการบริหารธุรกิจภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยสามารถเก็บข้อมูลของรายการซื้อขายเสนอราคามาวิเคราะห์กำไรขาดทุนรายสาขา โครงการ หรือหน่วยธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีรายงานสำหรับผู้บริหารที่สามารถรายงานผลของกิจการตามอัตราส่วนทางการเงินเป็นรายเดือน ไตรมาส หรือรายปีเหมือนกับเรามีนักวิเคราะห์ด้านการเงินมืออาชีพอยู่ในกิจการ

24,000 บริษัท
วางใจใช้งาน PEAK

30,000

บริษัท

วางใจใช้งาน PEAK

1,400 พันธมิตรสำนักงานบัญชี

1,400

พันธมิตร

PEAK Family Partner

4  ล้านธุรกรรมต่อเดือน บน PEAK

4

ล้านธุรกรรม/เดือน

ธุรกรรมบน PEAK ต่อเดือน

40,000 ล้าน บาท/เดือน

40,000

ล้าน บาท/เดือน

มูลค่ารายการค้าต่อเดือน

จุดเด่นและฟังก์ชันของ PEAK Board โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพ

เปรียบเทียบกำไร - ขาดทุน

เปรียบเทียบกำไร – ขาดทุน

สามารถรู้กำไรเป็นราย โครงการ สาขา หน่วยธุรกิจ บริหารต้นทุน ค่าใช้จ่าย แต่ละโครงการได้

รายงานสำหรับผู้บริหาร

รายงานสำหรับผู้บริหาร

รายงานสรุปข้อมูลที่สำคัญในการทำธุรกิจ เหมือนมีนักวิเคราะห์ด้านการเงินมืออาชีพอยู่ในกิจการ

ปรับแต่งข้อมูลรายงานได้

ปรับแต่งข้อมูลรายงานได้

ปรับแต่งรายงานได้อยากอิสระตามความต้องการ เช่น รายงานยอดขายตามพนักงาน สินค้า ช่องทางการขาย

PEAK Board เหมาะกับใคร?
ระบบวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพที่ตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด

ผู้ประกอบการใช้ PEAK board วิเคราะห์ธุรกิจ SME

ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการเครื่องมือด้านการวิเคราะห์ธุรกิจ

รับรู้กำไรขาดทุนในแต่ละสาขา โครงการ หน่วยงาน รู้ยอดขายตามแผนก พนักงานขายรายบุคคล หรือภูมิภาค มีรายงานสรุปตัวเลขที่สำหรับสำหรับธรุกิจ

PEAK board ใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานโดยฝ่ายบุคคลและนักบัญชี

ตัวช่วยในการวิเคราะห์ธุรกิจ สำหรับผู้จัดการการเงินและนักบัญชี

สร้างรายงานได้ตรงตามความต้องการของผู้บริหารวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินให้อัตโนมัติปรับแต่งรายงานได้หลากหลายรูปแบบ

มารู้จัก PEAK Payroll โปรแกรมเงินเดือน
ออนไลน์ภายใน 3 นาที

มาเรียนรู้และเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมคำนวณเงินเดือน
ออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพด้วยวิดีโอสอนการใช้งาน
ครบทุกเมนู เพื่อให้คุณเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมเงินเดือน
ออนไลน์ PEAK Payroll ได้อย่างมืออาชีพ

บริหารธุรกิจได้ดีกว่าเดิม วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างตรงจุด เมื่อเชื่อมต่อระบบ PEAK Board กับ PEAK Account

วิเคราะห์ข้อมูลบัญชี รายงานการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท/เดือน โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ PEAK Board

บริหารธุรกิจ บัญชี การเงิน
และจัดการเงินเดือนได้ครบวงจร

เริ่มต้นเพียง 1,200 บาท/เดือน

รู้จัก PEAK Board โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ ใน 3 นาที

วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจด้วย Dashboard โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ - PEAK Board

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ PEAK Board

การสร้างกลุ่มจัดประเภทเพื่อให้เหมาะกับกิจการบนโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) ไม่ใช่เรื่องสำหรับมือใหม่ เพียงแค่คุณมีกลุ่มที่ต้องต้องการแยกรายได้ ค่าใช้จ่ายของกิจการในใจแล้วเช่น ต้องการแยกรายได้ ค่าใช้จ่าย ตามแผนก คุณสามารถ List รายชื่อแผนกต่างๆของบริษัทออกมาก่อนจากนั้นนำรายชื่อแผนกไปสร้างกลุ่มจัดประเภทตามคู่มือนี้ได้เลย 

เมื่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถแยกเอกสารรายรับ รายจ่ายตามแผนกที่ต้องการได้เลยค่ะ นอกจากแผนกแล้วคุณยังสามารถแยกกลุ่มได้หลากหลายตามมุมมองที่กิจการต้องการมองเห็นผ่าน โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) เช่น โครงการ , ยอดขายรายสาขา หรืออื่นๆ 

PEAK Board คืออะไรและช่วยธุรกิจคุณได้อย่างอย่างไรคลิกอ่านที่นี่

เมื่อคุณได้มีการสร้างกลุ่มจัดประเภทตามมุมมองที่กิจการต้องการแล้ว สามารถนำกลุ่มจัดประเภทมาระบุบนเอกสารตามคู่มือนี้ได้เลย  เมื่อติดกลุ่มจัดประเภทบนเอกสารเรียบร้อยแล้วท่านจะสามารถเข้าไปดูตัวเลขของแต่ละกลุ่มผ่านโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) เพื่อให้ประกอบการตัดสินใจด้านธุรกิจได้อย่างเร็วรวด

วิธีการดูรายงานผ่านโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board)จะแบ่งเป็น 2 รายการคือ

  1. รายงานที่ดึงข้อมูลจากการหน้าเอกสารรายรับ-รายจ่าย ที่มีการระบุกลุ่มจัดประเภทเอาไว้ วิธีการพิมพ์รายงานคลิกอ่านที่นี่  (รายงานนี้จะดึงข้อมูลมาแสดงเฉพาะเอกสารที่มีการบันทึกบัญชีรายได้หมวด4 และค่าใช้จ่ายหมวด5)
  2. รายงานวิเคราะห์ธุรกิจสำหรับผู้บริหาร / Executive Summary วิธีการพิมพ์รายงานคลิกอ่านที่นี่

สำหรับการระบุกลุ่มจัดประเภทบนเอกสาร จะไม่มีผลต่อบัญชีแยกประเภท (GL) ของกิจการ จะเป็นการแสดงผลเพียงบนโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) เพียงเท่านั้น 

ผลิตภัณฑ์ของ PEAK

PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Payroll
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Board
โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Asset
โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Tax
โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Line @PEAKConnect
ใช้งานโปรแกรมผ่านไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

Update Function PEAK 07/05/2025 Cover

PEAK Account

3

min

Update Function 07/05/2025

PEAK with the new function designed to enhance efficiency. ✨ 1.  Reduce errors! Tax invoice date now adjusts automatically based on document issue date. 📢 The system now adjusts the “Tax Invoice Date” field to automatically follow the document’s “Issue Date,” so users don’t have to manually correct it—helping reduce errors from incorrect entries. This invoice date adjustment applies to both document creation and editing pages, providing convenience and accuracy for tax invoice records. ✨ 2. Easier tax filing date entry in PEAK Tax! Auto-suggest filing date based on calendar, with new “Filed Already” option for retroactive entries. 📢 For PEAK Tax users, the system adds convenience when entering data on the “Tax Filing” page by auto-setting the default filing date according to the Revenue Department calendar. This helps reduce redundant data entry and prevents mistakes caused by forgetting to update the filing date. Also added: a “Filed Already” option for users who have already submitted tax forms through other channels and are just recording them in the system—no need to download the file again while still maintaining accurate records. ✨ 3. View dashboard data up to 5 years back, with added arrow buttons for easier navigation. 📢 Users can now view dashboard data in each menu going back up to 5 years. This enables easier historical analysis and performance comparison. Dashboards with extended history include: In addition, left-right arrow buttons have been added on dashboard pages (Home / Revenue / Expense) for easier navigation between months. ✨ 4. Change status of multiple Quotation and Purchase Order documents with a single click! 📢 For businesses managing many Quotations (QO) and Purchase Orders (PO), the system now allows selecting multiple documents and changing their statuses all at once. Users can choose to update statuses based on system rules or mark them all as “Fully Issued” in one go. This helps manage documents faster, saves time, and reduces errors from updating documents one by one. Example of alert when the document does not meet the condition for “Fully Issued” status ✨ 5. Purchase Request (PR) documents no longer require contact name input. 📢 For Premium package users needing flexibility in creating PR documents, the “Contact” field is no longer mandatory. Users may leave it blank if the contact is not yet known or not needed during the request stage. If a Purchase Order (PO) is created from a PR and a contact name has been entered, the system will retain that name to ensure accuracy for the next step. ✨ 6. Redesigned Check In/Check Out screen—easier to use, with reports that match on-screen display. 📢 Users can now manage received and issued checks more easily with a new display aligned with standard document lists. Check statuses are more visible and easier to search. The printed check report is also improved—print results will follow the open tab and match the on-screen sorting. A new “Paid Out” column is added in the check payment report for clearer and more accurate tracking. ✨ 7. Print stock balance report showing SKU, platform, and Barcode. 📢 For e-commerce businesses, users can now print stock balance reports with additional product codes: SKU numbers by platform and Barcodes. Simply check the ‘Show other product codes’ option in the report print window to include these columns in the product/service report. Even if SKU codes are disabled, the system will still display the selected data. This enhances stock management and integration with online sales platforms, making it more accurate and convenient. Additionally, the report layout has been updated to match receipt/payment documents, and users can select the report type and title as needed. Example: Stock Balance Report

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

อัปเดตฟังก์ชั่น PEAK 07/05/2025 Cover

PEAK Account

8

min

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 07/05/2025

เอาใจผู้ใช้งานโปรแกรม PEAK ด้วยฟังก์ชันใหม่ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✨ 1. ลดโอกาสผิดพลาด! วันที่ใบกำกับภาษีปรับตามวันที่ออกเอกสารอัตโนมัติ 📢 ระบบปรับให้ช่อง “วันที่ใบกำกับภาษี” เปลี่ยนตาม “วันที่ออก” เอกสารอัตโนมัติ ผู้ใช้งานไม่ต้องคอยแก้ไขเอง ช่วยลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลผิด โดยการปรับวันที่ใบกำกับภาษีนี้ ระบบรองรับทั้งในหน้าสร้างและแก้ไขเอกสาร เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกและช่วยให้ทุกกิจการบันทึกข้อมูลใบกำกับภาษีได้แม่นยำยิ่งขึ้น ✨ 2. บันทึกวันที่ยื่นภาษีง่ายขึ้นที่ PEAK Tax! แนะนำวันที่ยื่นอัตโนมัติตามปฏิทิน พร้อมเพิ่มตัวเลือก “ยื่นแบบแล้ว” กรณีสร้างแบบยื่นภาษีย้อนหลัง 📢 สำหรับผู้ใช้งาน PEAK TAX ระบบเพิ่มความสะดวกในการกรอกข้อมูลบนหน้า “ยื่นภาษี” โดย กำหนดค่าเริ่มต้นวันที่ยื่นแบบให้ตรงตามปฏิทินกรมสรรพากร ช่วยลดการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อนและป้องกันความผิดพลาดจากการลืมเปลี่ยนวันที่ยื่นแบบ นอกจากนี้ระบบเพิ่มตัวเลือก “ยื่นแบบแล้ว” สำหรับผู้ที่ยื่นแบบภาษีผ่านช่องทางอื่นมาแล้วและเพิ่งมาบันทึกในระบบ ช่วยให้ไม่ต้องดาวน์โหลดไฟล์อีกครั้งและสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ✨ 3. ย้อนดูข้อมูล Dashboard ย้อนหลังได้สูงสุด 5 ปี พร้อมปุ่มลูกศรดูข้อมูลได้สะดวกขึ้น 📢 ระบบปรับให้ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูล Dashboard ย้อนหลังในแต่ละเมนูได้สูงสุดถึง 5 ปี เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังและเปรียบเทียบผลได้ง่ายยิ่งขึ้น โดย Dashboard ที่ระบบเพิ่มให้ดูข้อมูลย้อนหลัง มีดังนี้ นอกจากนี้ ระบบเพิ่มปุ่มลูกศรซ้าย-ขวาบนหน้า Dashboard (หน้าหลัก / รายรับ / รายจ่าย) เพื่อให้ผู้ใช้งานเลื่อนดูข้อมูลเดือนก่อน-เดือนถัดไปได้สะดวกยิ่งขึ้น ✨ 4. เปลี่ยนสถานะเอกสารใบเสนอราคาและใบสั่งซื้อได้หลายรายการในคลิกเดียว! 📢 สำหรับทุกกิจการที่ต้องจัดการใบเสนอราคา (QO) และใบสั่งซื้อ (PO) จำนวนมาก ระบบเพิ่มฟีเจอร์ให้สามารถเลือกเอกสารหลายรายการและเปลี่ยนสถานะพร้อมกันได้ทันที โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเปลี่ยนสถานะตามเงื่อนไขของระบบหรือเปลี่ยนให้เป็น “ออกครบแล้ว” ทั้งหมดในครั้งเดียว ช่วยให้จัดการเอกสารได้รวดเร็ว ประหยัดเวลา และลดข้อผิดพลาดจากการเปลี่ยนทีละใบ ตัวอย่างการแจ้งเตือนกรณีเอกสารไม่ตรงกับเงื่อนไขสถานะออกครบแล้ว ✨ 5. ปรับเอกสารใบขอซื้อ (PR) ไม่จำเป็นต้องกรอกชื่อผู้ติดต่ออีกต่อไป 📢 สำหรับแพ็กเกจ Premium ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดทำเอกสารใบขอซื้อ (PR) ระบบปรับให้ช่อง “ผู้ติดต่อ” ไม่บังคับให้ระบุเมื่อสร้างเอกสารอีกต่อไป โดยผู้ใช้งานสามารถเว้นว่างไว้ได้หากยังไม่ทราบข้อมูล หรือยังไม่จำเป็นต้องระบุในขั้นตอนการขอซื้อ ทั้งนี้ หากใบสั่งซื้อ (PO) ถูกสร้างต่อจาก ใบสั่งซื้อ (PR) และมีการระบุชื่อผู้ติดต่อไว้ ระบบจะยังคงล็อกชื่อผู้ติดต่อดังกล่าวไว้เช่นเดิม เพื่อความแม่นยำในการดำเนินการขั้นถัดไป ✨ 6. ปรับดีไซน์หน้าเช็ครับ-จ่ายใหม่ ใช้ง่ายกว่าเดิม พร้อมรายงานที่ตรงตามการแสดงผลในระบบ 📢 ผู้ใช้งานสามารถจัดการเช็ครับและเช็คจ่ายได้ง่ายขึ้น ด้วยหน้าแสดงผลใหม่ที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับหน้ารายการเอกสารทั่วไป มองเห็นสถานะเช็คได้ชัดเจน และค้นหาง่ายขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ การพิมพ์รายงานเช็คก็ถูกปรับให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น — พิมพ์รายงานตามแถบสถานะที่เปิดอยู่ และเรียงลำดับตามที่แสดงในระบบจริง พร้อมเพิ่มคอลัมน์ “จ่ายเงินออก” ในรายงานเช็คจ่าย เพื่อให้การติดตามข้อมูลชัดเจนและตรงจุดยิ่งขึ้น ✨ 7. พิมพ์​รายงานสินค้าคงเหลือแสดงเลข SKU แพลตฟอร์มและ Barcode ได้แล้ว 📢 สำหรับธุรกิจ e-commerce ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์รายงานสินค้าคงเหลือ ให้แสดงข้อมูลรหัสสินค้าอื่น ได้แก่ เลข SKU แต่ละแพลตฟอร์มและ Barcode ได้แล้ว โดยเลือกติ๊กที่ช่อง “แสดงรหัสสินค้าอื่น” บนหน้าต่างพิมพ์รายงานเพื่อเพิ่มคอลัมน์แสดงข้อมูลเหล่านี้ในรายงานสินค้า/บริการ แม้จะปิดใช้งานรหัส SKU อยู่ ระบบก็ยังสามารถแสดงผลตามที่เลือกได้ เพื่อให้การบริหารจัดการสต๊อกสินค้าและการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มขายของออนไลน์แม่นยำและสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังมีการปรับรูปแบบการพิมพ์รายงานให้สอดคล้องกับเอกสารรับ-จ่าย และสามารถเลือกประเภทและหัวรายงานได้ตามต้องการ ตัวอย่างรายงานสินค้าคงเหลือ

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

PEAK Account

10

min

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 23/04/2025

เอาใจผู้ใช้งานโปรแกรม PEAK ด้วยการ ‘อัปเดตฟังก์ชัน PEAK’ ใหม่ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✨ 1. PEAK อัปเดตฟังก์ชัน ให้จัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax: e-WHT) ในเอกสารได้สะดวกขึ้น 📢ระบบเพิ่มการจัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax: e-WHT) ให้รองรับการทำงานแบบครบวงจรมากขึ้น โดยระบบปรับการแสดงข้อมูลและผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าข้อมูลได้ ดังนี้ โดยภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-WHT) นี้ระบบจะไม่ดึงข้อมูลไปที่ฟีเจอร์ PEAK Tax ช่วยให้จัดการเอกสารหัก ณ ที่จ่ายได้สะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น ตัวอย่างตัวเลือกการนำส่งภาษี e-WHT ตัวอย่างสถานะ e-WHT ตัวอย่างรายงานภาษีหัก ณ ที่ จ่าย ✨ 2. ส่งข้อมูลหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e-WHT) ง่ายขึ้น ด้วย Text File อัปโหลดธนาคาร 📢สำหรับกิจการแพ็กเกจ Premium ที่สร้าง Text File โอนเงินหลายรายการผ่านระบบธนาคาร ระบบเพิ่มการรองรับการส่งข้อมูล e-WHT ผ่าน Payment File แล้ว ผู้ใช้งานสามารถเลือกประเภทการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้เองในระบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบปกติหรือแบบ e-WHT โดยระบบจะบันทึกบัญชีให้อัตโนมัติตามรูปแบบที่เลือก และสามารถ export ข้อมูลในรูปแบบที่รองรับกับระบบของธนาคารได้ทันที ลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลเอง และช่วยให้จัดการการจ่ายเงินจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ✨ 3. นำเข้าเอกสารใบเสร็จรับเงินจากแพลตฟอร์มได้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น โดยเลือกวิธีบันทึกส่วนลดได้ตามนโยบายกิจการ 📢ระบบเพิ่มตัวเลือกการบันทึกส่วนลดในหน้านำเข้าเอกสารใบเสร็จรับเงินจากแพลตฟอร์ม โดยมี 2 ตัวเลือก ดังนี้ เพื่อช่วยให้การจัดทำบัญชีเป็นไปตามนโยบายกิจการ และตรวจสอบรายการได้ง่ายยิ่งขึ้น ✨ 4. สร้างใบวางบิล/ใบรวมจ่ายได้ทันทีจากหน้าเอกสาร ช่วยให้สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น 📢ระบบเพิ่มปุ่ม “สร้างใบวางบิล” และ “สร้างใบรวมจ่าย” ให้ใช้งานได้โดยตรงจากเอกสารรับและจ่าย โดยระบบจะดึงข้อมูลผู้ติดต่อ ประเภทเอกสาร และวันที่ออกมาให้อัตโนมัติจากเอกสารต้นทาง พร้อมเลือกเอกสารตั้งต้นไว้ให้ทันที ช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างเอกสารต่อเนื่องได้ง่ายขึ้น ✨ 5. ปรับปรุงการคำนวณเงินได้สะสมในสลิปเงินเดือน ด้วยการอ้างอิงวันครบกำหนดชำระ พร้อมอัปเดตหลายสลิปพร้อมกันในครั้งเดียว 📢สำหรับกิจการที่ใช้ PEAK Payroll ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการแสดงยอดเงินได้สะสมบนสลิปเงินเดือนได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยอัปเดตฟังก์ชัน PEAK ให้ระบบจะอ้างอิงการคำนวณจาก “วันที่ครบกำหนดชำระ” แทนการอ้างอิงจากวันที่ของเอกสาร ช่วยให้ผู้ใช้งานกำหนดช่วงเวลาการรวมยอดได้ตามจริงมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตข้อมูลเงินได้สะสมในหลายสลิปได้พร้อมกันในคลิกเดียว ไม่ต้องกดทีละใบอีกต่อไป ✨ 6. อัปเดตฟังก์ชัน PEAK ให้แก้ไขรายการสินค้าและกลุ่มจัดประเภทได้ แม้เอกสารจะกระทบยอดธนาคารไปแล้ว 📢ระบบเปิดให้สามารถแก้ไขรายการสินค้าและกลุ่มจัดประเภทได้แล้ว แม้ว่าเอกสารจะทำการกระทบยอดไปแล้วก็ตาม เพื่อลดการทำงานซ้ำและจัดการเอกสารได้ง่ายกว่าเดิม หมดปัญหากดกระทบยอดธนาคารไปก่อนแล้วเพิ่งเห็นว่ารายการสินค้าหรือกลุ่มจัดประเภทกรอกผิด ✨ 7. อัปเดตฟังก์ชัน PEAK ให้เลือกรายการจากหน้ากระทบยอดธนาคารมาสร้างเอกสาร ชำระเงิน หรือโอนเงินหลายๆรายการพร้อมกันได้ภายในคลิกเดียว 📢สำหรับนักบัญชีที่ใช้งานฟังก์ชันกระทบยอดธนาคาร ระบบเพิ่มปุ่ม “ทำรายการ” ที่หน้ากระทบยอดเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำหลายรายการจาก Statement มาทำรายการได้ ดังนี้ นอกจากนี้ยังสามารถคลิกขวาในแต่ละรายการ เพื่อทำรายการได้ เมื่อทำรายการเสร็จ ระบบจะทำการกระทบยอดธนาคารให้อัตโนมัติ ช่วยลดเวลาการทำงานและเพิ่มความแม่นยำในการจัดการธุรกรรมทางการเงินได้แบบมือโปร ✨ 8. อัปเดตฟังก์ชัน PEAK โดยตั้งวันที่ย้อนหลังในการสร้างเอกสารอัตโนมัติ (Recurring) ได้แล้ว ดูข้อมูลสะท้อนความเป็นจริงได้มากขึ้น 📢สำหรับกิจการที่มีการสร้างเอกสารอัตโนมัติ (Recurring) ระบบเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถระบุวันที่เริ่มต้นเป็นอดีตได้แล้ว โดยวันที่ที่เลือกในอดีตนั้น ระบบจะไม่สร้างเอกสารย้อนหลังให้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลในสัญญาที่ตกลงกับคู่ค้าและช่วยให้ข้อมูลในระบบสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น ✨ 9. ใช้เอกสารรับแจ้งหนี้ (IR) สร้างใบรวมจ่ายได้ พร้อมทั้งรองรับการกระทบยอด IR/GR ได้หลายครั้ง 📢สำหรับแพ็กเกจ Premium ที่ใช้เอกสารรับแจ้งหนี้ (IR) และเอกสารรับสินค้า/บริการ (GR) ระบบเพิ่มความยืดหยุ่นให้มากขึ้นในการใช้เอกสาร ดังนี้ เพื่อช่วยให้การจัดการเอกสารและยอดสินค้าเป็นระบบ สะดวกและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างหน้าเอกสารใบรวมจ่าย (Online View) 👉 ลองใช้ฟังก์ชันใหม่ของ PEAK วันนี้! แล้วสัมผัสประสบการณ์การทำงานที่สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

Update Function PEAK 07/05/2025 Cover

PEAK Account

3

min

Update Function 07/05/2025

PEAK with the new function designed to enhance efficiency. ✨ 1.  Reduce errors! Tax invoice date now adjusts automatically based on document issue date. 📢 The system now adjusts the “Tax Invoice Date” field to automatically follow the document’s “Issue Date,” so users don’t have to manually correct it—helping reduce errors from incorrect entries. This invoice date adjustment applies to both document creation and editing pages, providing convenience and accuracy for tax invoice records. ✨ 2. Easier tax filing date entry in PEAK Tax! Auto-suggest filing date based on calendar, with new “Filed Already” option for retroactive entries. 📢 For PEAK Tax users, the system adds convenience when entering data on the “Tax Filing” page by auto-setting the default filing date according to the Revenue Department calendar. This helps reduce redundant data entry and prevents mistakes caused by forgetting to update the filing date. Also added: a “Filed Already” option for users who have already submitted tax forms through other channels and are just recording them in the system—no need to download the file again while still maintaining accurate records. ✨ 3. View dashboard data up to 5 years back, with added arrow buttons for easier navigation. 📢 Users can now view dashboard data in each menu going back up to 5 years. This enables easier historical analysis and performance comparison. Dashboards with extended history include: In addition, left-right arrow buttons have been added on dashboard pages (Home / Revenue / Expense) for easier navigation between months. ✨ 4. Change status of multiple Quotation and Purchase Order documents with a single click! 📢 For businesses managing many Quotations (QO) and Purchase Orders (PO), the system now allows selecting multiple documents and changing their statuses all at once. Users can choose to update statuses based on system rules or mark them all as “Fully Issued” in one go. This helps manage documents faster, saves time, and reduces errors from updating documents one by one. Example of alert when the document does not meet the condition for “Fully Issued” status ✨ 5. Purchase Request (PR) documents no longer require contact name input. 📢 For Premium package users needing flexibility in creating PR documents, the “Contact” field is no longer mandatory. Users may leave it blank if the contact is not yet known or not needed during the request stage. If a Purchase Order (PO) is created from a PR and a contact name has been entered, the system will retain that name to ensure accuracy for the next step. ✨ 6. Redesigned Check In/Check Out screen—easier to use, with reports that match on-screen display. 📢 Users can now manage received and issued checks more easily with a new display aligned with standard document lists. Check statuses are more visible and easier to search. The printed check report is also improved—print results will follow the open tab and match the on-screen sorting. A new “Paid Out” column is added in the check payment report for clearer and more accurate tracking. ✨ 7. Print stock balance report showing SKU, platform, and Barcode. 📢 For e-commerce businesses, users can now print stock balance reports with additional product codes: SKU numbers by platform and Barcodes. Simply check the ‘Show other product codes’ option in the report print window to include these columns in the product/service report. Even if SKU codes are disabled, the system will still display the selected data. This enhances stock management and integration with online sales platforms, making it more accurate and convenient. Additionally, the report layout has been updated to match receipt/payment documents, and users can select the report type and title as needed. Example: Stock Balance Report

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน