โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่ช่วยให้คุณจัดการธุรกิจได้ดีขึ้น ให้ธุรกิจคุณเติบโตได้มากกว่าเดิม

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่มีครบทุกฟังก์ชันด้านบัญชี การจัดการงานเอกสารภายในธุรกิจ ช่วยให้คุณจัดการงานบัญชีได้มีประสิทธิภาพ เป็นระบบ และนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจได้

  • เอกสารรายรับ : ออกเอกสารในธุรกิจ ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบลดหนี้/เพิ่มหนี้ และใบวางบิล ในรูปแบบเอกสารที่สวยงาม ดูเป็นมืออาชีพ รองรับการรับชำระเงินบนใบแจ้งหนี้ และออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) อัตโนมัติ สามารถตั้งรอบการส่งเอกสารได้
  • เอกสารรายจ่าย : บันทึกค่าใช้จ่าย ออกใบหัก​ ณ ที่จ่าย ออกใบสั่งซื้อ และจัดการซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดายด้วย PEAK AI ที่ช่วยจดจำ และแนะนำบันทึกรายการ รวมไปถึงการออกหนังสือรับรองแทนใบเสร็จรับเงินช่วยให้คุณบันทึกค่าใช้จ่ายได้ครบถ้วน
  • ข้อมูลธุรกิจ : จัดเก็บและติดตามข้อมูลลูกค้า ประวัติการซื้อขาย ระยะเวลาเฉลี่ยที่ลูกค้าชำระเงิน สินค้า และต้นทุนขาย พร้อมรายงานการเคลื่อนไหวสินค้า รู้ว่าสินค้าไหนขายดี ลูกค้าแต่ละคนชอบอะไร
  • จัดการการเงินและบัญชี : สรุปผลประกอบการที่สำคัญได้ในแบบเรียลไทม์ รองรับงานบัญชีครบถ้วน เช่น สมุดบัญชีรายวัน รายงานแยกประเภท งบกำไรขาดทุน งบฐานะการเงิน และงบกระแสเงินสด ช่วยให้คุณจัดการการเงินในธุรกิจด้วยปฏิธินเงินเข้าออก พร้อม AI ที่ช่วยกระทบยอดเคลื่อนไหวธนาคารให้อัตโนมัติ
  • จัดการภาษี : ช่วยทำรายงาน และสรุปแบบภาษี ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ. 30 และภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.1, ภ.ง.ด.2, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.53 ให้คุณจัดการภาษีได้ง่ายอย่างเป็นระบบ มาพร้อม PEAK AI ที่ช่วยตรวจสอบแบบภาษีให้คุณอีกครั้งหนึ่งก่อนสร้างแบบด้วย

30,000+

กิจการ

วางใจใช้งาน PEAK

1,800

สำนักงานบัญชี

ที่ช่วยดูแลลูกค้าร่วมกับเรา

8

ล้านเอกสาร/เดือน

เอกสารที่สร้างจากระบบ

80,000

ล้านบาท/เดือน

มูลค่ารายการค้าต่อเดือน

ระบบต่างๆของโปรแกรมบัญชี PEAK

การจัดการด้านรายรับ

จัดการเอกสารธุรกิจได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และแม่นยำยิ่งขึ้นด้วย PEAK
PEAK ช่วยให้คุณออกใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษีได้อย่างครบถ้วน พร้อม AI อัจฉริยะ ที่จดจำรายการสินค้าและราคาขายเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละราย ลดเวลาทำงานเอกสาร และช่วยให้คุณดูแลลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ


ปรับแต่งเอกสารได้อย่างยืดหยุ่น ตามสไตล์ธุรกิจของคุณ
ไม่ว่าจะเป็นชื่อเอกสาร สี โลโก้ หรือการเปิด/ปิดข้อความ PEAK ให้คุณปรับแต่งเอกสารได้อย่างยืดหยุ่น นอกจากนี้ PEAK ยังรองรับ e-Tax Invoice และการส่งออกเอกสารได้หลายช่องทาง ทั้ง PDF, Email และลิงก์เข้าดูแบบปลอดภัย พร้อมตัวเลือกการรับชำระเงินที่ครบครัน ทั้ง QR Payment, บัตรเครดิต และการผ่อนชำระ เพื่อให้กระบวนการทางการเงินของคุณ เป็นระบบและไม่มีสะดุด


ลดงานซ้ำซ้อน ด้วยระบบอัตโนมัติและการเชื่อมต่อที่ทรงพลัง
สำหรับธุรกิจที่ต้องจัดการเอกสารจำนวนมาก PEAK มี ระบบ API อัตโนมัติ ที่ช่วยสร้างเอกสารนับล้านฉบับต่อเดือน ลดงานซ้ำซ้อน และรองรับการเชื่อมต่อ/การนำเข้าไฟล์รายงานกับแพลตฟอร์มชั้นนำ เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop และอีกมากมาย ไม่ว่าคุณจะเป็น SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่ PEAK พร้อมช่วยให้การจัดการเอกสารของคุณ ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงสุด ทดลองใช้เลย!

จุดเด่นของ PEAK

การสร้างเอกสาร : รองรับการสร้างเอกสารต่างๆฝั่งรายได้ ทั้ง ใบเสนอราคา ใบรับเงินมัดจำ ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ พร้อม AI ที่ช่วยจดจำสินค้า และราคาขายให้กับลูกคา้แต่ละรายได้

ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ : รองรับการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ทั้งแบบ Time Stamp (เดิม by Email) หรือแบบ e-Tax Invoice/e-Receipt

แก้ไขเอกสารได้ยืดหยุ่น : แก้ไขรูปแบบเอกสารได้หลากหลาย เช่น ชื่อเอกสาร สี คำเรียก ชื่อโครงการ ชื่อพนักงานขาย การเปิด/ปิดวันที่ ราคาแบบรวมหรือแยกภาษี ทำให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าของคุณ ให้ลูกค้าคุณสบายใจ

ส่งออกเอกสารได้หลายรูปแบบ : สามารถส่งออกเอกสารได้ทั้งในรูปแบบไฟล์ PDF ส่งอีเมล หรือลิงค์เอกสาร ที่สามารถกำหนดรหัสผ่านในการเข้าดู เปิด/ปิดการแสดงตราประทับ หรือลายเซ็น เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

รับชำระเงินบนเอกสาร : รองรับการรับชำระเงินบนใบแจ้งหนี้ ทั้งโอนเงินผ่าน QR Payment, Internet Banking การชำระผ่านบัตรเครดิต หรือแม้แต่ให้ลูกค้าผ่อนชำระเงินก็ได้ และสามารถกำหนดให้ระบบออกและส่งใบเสร็จฯให้ลูกค้าได้อัตโนมัติเมื่อการชำระเงินสำเร็จแล้ว

นำเข้าเอกสารได้ : รองรับการนำเข้าเอกสาร (Import) จากไฟล์ Excel ทำให้คุณสามารถนำเข้าจากระบบ POS หรือระบบการขายอื่นๆได้ รวมไปถึงไฟล์ Excel รายงานที่มาจากระบบการขายอื่นๆโดยตรง เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop, FoodStory, ZWIZ เป็นต้น

สร้างรายการอัตโนมัติผ่าน API : PEAK รองรับการเชื่อมต่อเพื่อสร้างรายการอัตโนมัติผ่าน API โดยในแต่ละเดือนมีเอกสารมากกว่าล้านฉบับที่ถูกสร้างอัตโนมัติ ทดแทนการทำงานของมนุษย์ สามารถเชื่อมต่อกับระบบที่พัฒนาขึ้นมาเอง หรือการเชื่อมต่อสำเร็จจากระบบต่อไปนี้ เช่น Shopee, Lazada, LINE Shopping, ZORT, Shipnity, JSTERP, SeniorSoft POS และอีกหลายระบบ

การจัดการด้านรายจ่าย

จัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจได้ง่ายขึ้น แม่นยำขึ้น และเป็นระบบมากขึ้น
หมดปัญหาการบันทึกค่าใช้จ่ายที่ยุ่งยาก ด้วย PEAK ที่ช่วยให้คุณสร้างและจัดการเอกสารรายจ่าย เช่น ใบสั่งซื้อ ใบสำคัญจ่าย บันทึกซื้อสินค้า และค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน พร้อม AI อัจฉริยะ ที่เรียนรู้พฤติกรรมของคุณ และแนะนำค่าใช้จ่ายที่คุณมีโอกาสบันทึกสูงสุด ช่วยลดเวลาการทำงานและลดข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล


ยืดหยุ่นและแม่นยำ ติดตามค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
PEAK ช่วยให้คุณจัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ตามโครงการ แผนก หรือประเภทค่าใช้จ่ายต้องห้าม เพื่อการควบคุมต้นทุนที่ดียิ่งขึ้น รองรับการตัดชำระจากช่องทางการเงินต่างๆ เช่น เงินสดย่อย ธนาคาร หรือเช็ค พร้อมฟังก์ชัน กระทบยอดค่าใช้จ่ายอัตโนมัติจาก Bank Statement และรองรับการบันทึกค่าใช้จ่ายหลายรายการพร้อมกัน รวมถึงการนำเข้าไฟล์ Excel ทำให้การทำงานรวดเร็วและแม่นยำขึ้น


ลดงานซ้ำซ้อน ด้วยระบบอัตโนมัติและการเก็บเอกสารออนไลน์
PEAK สามารถ สร้างบันทึกค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ สำหรับรายการที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าบริการต่างๆ พร้อมฟีเจอร์ OCR สแกนใบเสร็จ ผ่านแอปบนมือถือ ช่วยให้คุณบันทึกค่าใช้จ่ายได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเล็กหรือใหญ่ PEAK พร้อมช่วยให้การบริหารค่าใช้จ่าย ง่ายขึ้น ประหยัดเวลาขึ้น และแม่นยำมากขึ้น ทดลองใช้เลย!

จุดเด่นของ PEAK

จัดการเอกสารด้านซื้อ/ค่าใช้จ่าย : รองรับการสร้างเอกสารต่างๆฝั่งรายจ่าย ทั้งใบสั่งซื้อ ใบจ่ายเงินมัดจำ ใบสำคัญจ่าย บันทึกซื้อสินค้า บันทึกซื้อสินทรัพย์ บันทึกค่าใช้จ่าย รับใบลดหนี้ รับใบเพิ่มหนี้ รวมจ่ายเงิน เป็นต้น

มี AI ช่วยบันทึกรายการ : มี AI เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน และแนะนำค่าใช้จ่ายที่คุณมีโอกาสที่จะบันทึกสูง เพื่อช่วยให้คุณบันทึกรายการได้เร็วมากยิ่งขึ้น

บันทึกรายการที่ยืดหยุ่น : สามารถตัดชำระค่าใช้จ่ายได้ยืดหยุ่น ทั้งการตัดชำระเงินจากช่องทางการเงินต่างๆ ทั้งเงินสดย่อย ธนาคาร หรือเช็ค และยังปรับปรุงเพื่อเพิ่มค่าธรรมเนียม ตัดชำระกับเอกสารใบลดหนี้ที่รับมา หรือตัดกับบัญชีที่กำหนดได้ รองรับการบันทึกรายการค้าที่ยืดหยุ่น

จัดประเภทค่าใช้จ่าย : สามารถใช้กลุ่มจัดประเภทกำหนดประเภทของค่าใช้จ่ายตามโครงการ ตามแผนก เป็นค่าใช้จ่ายต้องห้าม หรือมิติต่างๆ ที่ใช้ติดตามได้ ให้คุณควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สร้างบันทึกค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ : สามารถกำหนดให้ระบบ PEAK สร้าง หรือร่างบันทึกค่าอัตโนมัติเป็นประจำทุกเดือน เหมาะสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าบริการซอฟท์แวร์ โดยคุณสามารถแก้ไขจำนวนเงินแต่ะเดือนได้ ช่วยให้ไม่ตกหล่นค่าใช่จ่ายประจำต่างๆ

บันทึกค่าใช้จ่ายหลายรายการพร้อมกัน : รองรับการนำเข้าเอกสาร (Import) จากไฟล์ Excel หรือจะสร้างบันทึกค่าใช้จ่ายหลายรายการ หลายใบกำกับภาษีซื้อพร้อมกันในหน้าก็ได้ เหมาะกับการคีย์เงินสดย่อย หรือรายการเล็กๆ จำนวนมาก

คลังเอกสารเก็บภาพถ่ายใบเสร็จ : คุณสามารถใช้แอป PEAK บนมือถือในการถ่ายรูปเอกสารใบเสร็จรับเงินที่คุณได้จ่ายไป ให้ระบบช่วยบันทึกรายการให้จาก OCR ​และ AI พร้อมทั้งเก็บไฟล์ใบเสร็จหลักฐานเพื่อง่ายในการตรวจสอบย้อนหลังได้

บันทึกค่าใช้จ่ายจาก Bank Statement : คุณสามารถอัพโหลดไฟล์รายการเคลื่อนไหวธนาคาร (Bank Statement) เข้าไปในระบบ แล้วสร้างบันทึกรายการที่เกิดขึ้นจากรายการเคลื่อนไหวธนาคารได้เลย โดยจะมี PEAK AI ช่วยบันทึกรายการ และระบบจะกระทบยอดธนาคารให้ด้วยอัตโนมัติ

การจัดการข้อมูลคู่ค้า (ลูกค้า/ผู้ขาย)

บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มยอดขายอย่างมั่นใจ ด้วย PEAK
จัดการข้อมูลลูกค้าแบบมืออาชีพ ด้วย ประวัติการซื้อขายย้อนหลัง ที่ช่วยให้คุณดูยอดขายรวม สินค้าหรือบริการที่ลูกค้าซื้อบ่อย และพฤติกรรมการชำระเงิน พร้อมรายงาน Aging AR เพื่อช่วยให้คุณบริหารลูกหนี้ได้แม่นยำขึ้น นอกจากนี้ PEAK ยังช่วย คำนวณวันรับเงินเฉลี่ย ทำให้คุณคาดการณ์กระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ควบคุมความเสี่ยงในการขายเชื่อได้ง่ายขึ้น
หมดกังวลเรื่องลูกค้าค้างชำระ ด้วยฟีเจอร์ กำหนดวงเงินขายเชื่อ และ เครดิตเทอมตามลูกค้า ที่ช่วยให้คุณบริหารความเสี่ยงได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดในระดับนโยบายสำหรับลูกค้าทุกราย หรือปรับเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล นอกจากนี้ คุณยังสามารถกำหนด บัญชีลูกหนี้-เจ้าหนี้รายตัว เพื่อให้ตรงกับลักษณะของธุรกิจ เช่น ลูกหนี้ในประเทศ ลูกหนี้ต่างประเทศ หรือบริษัทในเครือ


ติดตามลูกค้าได้ง่ายขึ้น พร้อมระบบควบคุมข้อมูลที่ปลอดภัย
PEAK ช่วยให้คุณ จัดกลุ่มคู่ค้า ตามพนักงานขาย เขตการขาย หรือประเภทของลูกค้าเพื่อการติดตามที่ง่ายขึ้น และยังให้คุณ ควบคุมการเข้าถึงข้อมูล ของผู้ใช้งานในระบบ กำหนดได้ว่าพนักงานแต่ละคนสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้า หรือผู้ขายรายใดได้บ้าง ทำให้ข้อมูลสำคัญของคุณ ปลอดภัยและเป็นระเบียบ ให้ระบบช่วยคุณจัดการลูกค้าด้วยความแม่นยำและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ทดลองใช้ได้แล้ววันนี้

จุดเด่นของ PEAK

ประวัติการซื้อขายกับคู่ค้า : ดูประวัติการซื้อขายย้อนหลังกับลูกค้าแต่ละราย พร้อมสรุปยอดขายรวมตลอด สรุปรายได้ที่ได้จากลูกค้ารายนี้ว่ามาจากสินค้า/บริการใดบ้าง พร้อมสรุปพฤติกรรมการชำระเงินของลูกค้า คำนวณวันรับเงินเฉลี่ยว่านานมั้ยกว่าลูกค้าจะจ่ายเงิน พร้อมสร้างรายงานลูกหนี้ตามอายุ (Aging AR report)

กำหนดวงเงินขายเชื่อตามลูกค้า : ป้องกันไม่ให้คุณขายเชื่อให้กับลูกค้ารายใดรายหนึ่งมากเกินไป คุณสามารถกำหนดวงเงินขายเชื่อได้ในระดับนโยบายครอบคลุมลูกค้าทุกราย หรือกำหนดวงเงินเฉพาะของลูกค้าแต่ละรายก็ได้

กำหนดเครดิตเทอมตามลูกค้า : คุณสามารถกำหนดเครดิตเทอมได้ทั้งในระดับนโยบายครอบคลุมลูกค้าทุกราย หรือกำหนดให้เครดิตเทอมเป็นการเฉพาะในแต่ละรายก็ได้ และกำหนดเครดิตเทอมได้ยืดหยุ่น ทั้งจำนวนวันหลังออกใบแจ้งหนี้ หรือเป็นวันที่เท่าไหร่ของเดือน หรือวันที่สิ้นเดือน เพื่อให้ตรงกับการทำงานจริงในการขายให้กับลูกค้าแต่ละราย

กำหนดบัญชีลูกหนี้ เจ้าหนี้รายตัว : คุณสามารถกำหนดบัญชีที่บันทึกลูกหนี้ หรือเจ้าหนี้สำหรับคู่ค้าแต่ละรายได้ เช่น ลูกหนี้ในประเทศ ลูกหนี้ต่างประเทศ ลูกหนี้บริษัทในเครือ หรือมิติอื่นๆนอกเหนือไปจากลูกหนี้การค้าปกติได้

จัดกลุ่มคู่ค้าได้ : การแบ่งลูกค้า หรือคู่ค้าเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้ง่ายในการติดตาม เช่น การแบ่งกลุ่มลูกค้าให้กับพนักงานขายแต่ละราย หรือแบ่งตามเขตการขาย ให้คุณติดตามกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น

ควบคุมการเข้าถึงรายชื่อลูกค้าได้ : PEAK สามารถกำหนดการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละรายได้ โดยคุณสามารถกำหนดประเภทของคู่ค้าว่ารายใดเป็นลูกค้า รายใดเป็นผู้ขาย เพื่อกำหนดการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เท่ากันของผู้ใช้งานแต่ละรายในระบบได้

จัดการข้อมูลสินค้า และสต๊อก

จัดการข้อมูลสินค้าและสต๊อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หมดปัญหาการกำหนดราคาขายที่ยุ่งยาก PEAK ช่วยให้คุณสร้างราคาหรือส่วนลดมาตรฐานได้หลากหลาย พร้อม AI อัจฉริยะ ที่จดจำราคาที่เคยขายให้ลูกค้าแต่ละรายโดยอัตโนมัติ ลดเวลาค้นหาข้อมูลเก่า นอกจากนี้ คุณยังสามารถ เพิ่มรูปภาพสินค้า ลงในใบเสนอราคาเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น


สต๊อกแม่นยำ คำนวณต้นทุนอัตโนมัติ รู้ต้นทุน-กำไรแบบเรียลไทม์
PEAK ช่วยให้การจัดการสต๊อกเป็นระบบมากขึ้น โดยการ บันทึกสินค้าเป็นล๊อท ในทุกการซื้อ-ขาย รับคืน หรือส่งคืนสินค้า พร้อม คำนวณต้นทุนขายให้อัตโนมัติ ตามวิธี Perpetual Costing หรือ Periodic Costing และรองรับ FIFO เพื่อให้คุณรู้กำไรขั้นต้นจากการขายแบบเรียลไทม์ ไม่ต้องรอปรับปรุงต้นทุนตอนปลายปี


วิเคราะห์ยอดขายและต้นทุนอย่างแม่นยำ
ดู ประวัติการซื้อขายของสินค้ารายตัว พร้อมสรุปยอดขาย ต้นทุน และกำไรขั้นต้น วิเคราะห์ได้ว่าใครคือลูกค้าหลักของสินค้านั้นในแต่ละช่วงเวลา และยังสามารถ กำหนดบัญชีขาย บัญชีต้นทุน และบัญชีซื้อ ให้เป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน ช่วยให้คุณดูงบกำไรขาดทุนได้ในมิติที่เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนธุรกิจ ทดลองใช้ PEAK วันนี้ แล้วให้ระบบช่วยคุณจัดการสต๊อกและต้นทุนอย่างมืออาชีพ

จุดเด่นของ PEAK

กำหนดราคามาตรฐานได้หลากหลาย : สร้างราคา หรือส่วนลดมาตรฐานได้หลากหลาย พร้อม AI ช่วยจดจำราคาที่ขายให้กับลูกค้าแต่ละรายที่อาจจะไม่เท่ากัน ช่วยลดเวลาที่คุณจะต้องย้อนกลับไปดูราคาเดิมที่เคยขาย

จัดการสต๊อกสินค้าเป็นล๊อท : PEAK ช่วยจัดการสต๊อกให้คุณได้ โดยการซื้อแต่ละครั้ง ระบบจะสร้างสินค้าเป็นล๊อท และสรุปรายการเคลื่อนไหวของสินค้า ทั้งการซื้อ การขาย การส่งคืน หรือรับคืนสินค้า ช่วยให้คุณจัดการสต๊อกได้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น

คำนวณต้นทุนขายให้อัตโนมัติ : ให้ PEAK ช่วยคำนวณต้นทุนขายให้ทันทีที่ขาย (เรียกว่า “วิธีต้นทุนต่อเนื่อง” หรือ “Perpetual Costing”) เพื่อให้คุณสามารถรู้กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าได้ทันที ไม่ต้องรอนับสต๊อกสินค้าปลายปี เพื่อปรับปรุงต้นทุนขาย (เรียกว่า “วิธีต้นทุนช่วง” หรือ “Periodic Costing”) ทั้งนี้โปรแกรม PEAK รองรับทั้ง 2 วิธี ด้วยสมมติฐานการคำนวณต้นทุนแบบเข้าก่อนออกก่อน หรือ FIFO

สรุปประวัติซื้อขายสินค้ารายตัว : สรุปยอดขาย ต้นทุน และกำไรขั้นต้นของสินค้ารายตัว พร้อมประวัติการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนที่ซื้อ หรือราคาที่ขายไป และคำนวณให้ว่าใครเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้านี้มากที่สุดในแต่ละช่วงเวลา ช่วยให้คุณมีข้อมูลในหลากหลายมิติในการตัดสินใจมาหขึ้น

เพิ่มรูปภาพสินค้าได้ เพิ่มโอกาสการขาย : คุณสามารถเพิ่มรูปภาพสินค้า/บริการของคุณ และให้ไปแสดงในใบเสนอราคาได้ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจ เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าจดจำ และเพิ่มโอกาสการปิดการขายได้ดีขึ้น

กำหนดบัญชีขาย บัญชีซื้อ บัญชีต้นทุนได้ : ให้คุณมีมิติข้อมูลบัญชีที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น คุณสามารถกำหนดบัญชีขายให้เป็นรายได้ตามกลุ่มรายได้ต่างๆ เช่น รายได้จากการขายสินค้ากลุ่ม A รายได้จากการให้บริการกลุ่ม B เพื่อให้คุณสามารถดูงบกำไรขาดทุนได้มีมิติที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจได้ดีขึ้น

บริหารจัดการข้อมูลการเงิน

เห็นภาพรวมการเงินครบทุกมิติ วางแผนได้อย่างมั่นใจ ด้วย PEAK
จัดการการเงินของธุรกิจให้เป็นระบบ ด้วแดชบอร์ดการเงิน ที่รวบรวมข้อมูลทุกบัญชีไว้ในหน้าเดียว ไม่ว่าจะเป็นเงินสดย่อย เงินฝากธนาคาร e-Wallet หรือช่องทางการขายออนไลน์ ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมสถานะการเงินได้ทันที พร้อม ปฏิธินเงินเข้า-ออก ที่แสดงรายการที่เกิดขึ้นและคาดการณ์รายการล่วงหน้า ทำให้คุณสามารถบริหารกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากปัญหาเงินสดขาดมือ

ลดงานซ้ำซ้อน ด้วยระบบกระทบยอดธนาคารอัตโนมัติ
เพียงอัปโหลด Bank Statement ระบบ PEAK AI จะช่วยกระทบยอดรายการ ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชี และสร้างบันทึกรายการรายรับ-รายจ่ายให้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการออกใบเสร็จ รับชำระเงิน หรือจ่ายค่าใช้จ่าย ลดเวลาในการกระทบยอดธนาคารได้มากกว่า 90% และช่วยให้ข้อมูลบัญชีของคุณแม่นยำขึ้น รองรับการติดตามเงินสดย่อย และการสำรองจ่ายเงินแบบเป็นระบบ

ควบคุมเอกสารการเงินได้ครบถ้วน ไม่มีตกหล่น
PEAK ยังช่วยให้คุณติดตาม ใบหัก ณ ที่จ่าย ทั้งที่ได้รับและที่ต้องส่งออก พร้อมฟังก์ชันแนบไฟล์เอกสาร เพื่อให้คุณจัดเก็บข้อมูลภาษีได้อย่างเป็นระเบียบและค้นหาง่าย ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเล็กหรือใหญ่ PEAK พร้อมช่วยให้คุณ เห็นภาพรวม วางแผนได้แม่นยำ และบริหารการเงินอย่างมืออาชีพ ทดลองการใช้งานได้ฟรี เริ่มได้เลยวันนี้

จุดเด่นของ PEAK

รวบรวมข้อมูลทุกบัญชีไว้ในหน้าเดียว : รวบรวมข้อมูลทุกช่องทางการเงินของคุณไว้ในหน้าเดียว ทั้งเงินสดย่อย เงินฝากธนาคาร กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ช่องทางการขายของออนไลน์ หรือสำรองรับเงินจ่ายเงิน ให้คุณได้เห็นภาพรวมการเงินของกิจการคุณได้ในที่เดียว

ปฏิธินการเคลื่อนไหวเงินเข้าออก : PEAK นำเสนอข้อมูลเงินเข้า เงินออก และเงินที่จะเข้า เงินที่จะออก มาให้คุณได้เห็นในรูปแบบปฏิธินที่เข้าใจง่าย ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินของคุณได้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องกลัวเงินไม่พอแบบไม่รู้ตัว

กระทบยอดธนาคารอัตโนมัติ : เพียงนำเข้าไฟล์รายการเคลื่อนไหวธนาคารจากระบบของธนาคาร PEAK AI จะช่วยกระทบยอดรายการ ตรวจเช็คระหว่างรายการที่บันทึกบัญชี กับรายการเคลื่อนไหวของเงินจริงๆได้ ทำให้คุณไม่หลุดลืมบันทึกรายการที่สำคัญ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับข้อมูลบัญชีของกิจการคุณ ด้วยระบบอัตโนมัติที่ลดเวลาการทำงานของคนลงไปได้กว่า 90% ในขั้นตอนการกระทบยอดธนาคาร

บันทึกรายการจาก Bank Statement : คุณสามารถอัพโหลดไฟล์รายการเคลื่อนไหวธนาคาร (Bank Statement) เข้าไปในระบบ แล้วสร้างบันทึกรายการที่เกิดขึ้น รองรับทั้งการสร้างเอกสารฝั่งรายได้ เช่น การออกใบเสร็จ การบันทึกรับชำระเงินจากลูกหนี้ หรือรายการฝั่งรายจ่าย เช่น การบันทึกค่าใช้จ่าย การบันทึกจ่ายชำระเงินให้เจ้าหนี้ หรือแม้แต่การโอนเงินระหว่างบัญชีธนาคารด้วยกัน พร้อมมี PEAK AI ที่เรียนรู้การทำรายการของคุณ และช่วยให้การทำบัญชีรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ติดตามสำรองรับ-จ่าย เงินสดย่อย : คุณสามารถสร้างเงินสดย่อยเป็นกองๆ หรือกำหนดชื่อคนที่ดูแลเงินสดย่อย หรือกรณีที่มีคนสำรองจ่ายเงินแทนกิจการออกไป สามารถเลือกรับเงิน หรือจ่ายเงินจากเงินสำรอง หรือเงินสดย่อยเหล่านี้ ช่วยให้คุณสามารถจัดการ ติดตามการใช้เงิน การเบิกจ่ายได้อย่างเป็นระบบ

สรุปใบหักรับมา ออกไป และจัดเก็บใบหัก : อีกหนึ่งเรื่องการเงินที่ต้องจัดการคือการติดตามหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย บ่อยครั้งที่เราได้รับใบหักฯ ไม่ครบ PEAK ช่วยให้คุณติดตามการจัดการใบหัก ณ ที่จ่ายอย่างเป็นระบบทั้งการรับใบหักฯเข้ามา หรือการที่เราต้องส่งใบหักฯ ออกไป ให้คุณสามารถอัพโหลดไฟล์รูปใบหักแนบเก็บไว้กับใบเสร็จรับเงินแต่ละใบได้ด้วย

การจัดการข้อมูลบัญชี

งบการเงินที่แม่นยำ โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจที่มั่นใจยิ่งขึ้น
PEAK ช่วยให้คุณเข้าถึง งบการเงินที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นงบกำไรขาดทุน งบฐานะการเงิน งบกระแสเงินสด ไปจนถึงสมุดบัญชีรายวัน งบทดลอง และรายงานอื่นๆ ที่ช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมการเงินของธุรกิจได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ทุกตัวเลขสามารถติดตามไปถึงเอกสารต้นทางได้ คุณสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของแต่ละรายการได้อย่างละเอียด พร้อมแนบเอกสารอ้างอิง ทำให้คุณเข้าใจงบการเงินได้ลึกซึ้งและตรวจสอบข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น

จัดทำงบการเงินได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับมาตรฐาน DBD XBRL
PEAK รองรับการ สร้างไฟล์ XBRL เพื่อนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) โดยไม่ต้องเสียเวลาแปลงไฟล์ด้วยตนเอง นอกจากนี้ คุณยังสามารถ ออกแบบงบกำไรขาดทุนในแบบของคุณเอง เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจและอ่านข้อมูลได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ระบบยังช่วยให้คุณ บริหารบัญชีหลัก-บัญชีย่อย ได้อย่างเป็นระบบ เช่น ติดตามลูกหนี้รายตัว หรือดูยอดขายและต้นทุนของสินค้ารายชิ้น ทำให้การวิเคราะห์ธุรกิจของคุณมีมิติมากขึ้น

มั่นใจในความถูกต้อง ด้วย AI ตรวจสอบอัตโนมัติ
PEAK มาพร้อม AI ช่วยตรวจสอบความถูกต้อง ของบัญชี ผ่านระบบ Red/Yellow Flag ที่ช่วยแจ้งเตือนความผิดปกติ เช่น ยอดเงินที่เปลี่ยนแปลงสูงผิดปกติ ยอดคงเหลือติดลบ หรือรายการบัญชีที่ไม่สมดุล ช่วยลดข้อผิดพลาดก่อนปิดงบ นอกจากนี้ ยังมีระบบ บันทึกประวัติการใช้งานแบบแก้ไขไม่ได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปลอดภัย

ค้นหาเอกสารได้เร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาเอง
หมดปัญหาการหาเอกสารไม่เจอ เพราะ PEAK มี ระบบค้นหาเอกสารขั้นสูง ที่ช่วยให้คุณสามารถค้นหาตามชื่อคู่ค้า ผู้สร้างรายการ ผู้อนุมัติ จำนวนเงิน หรือข้อมูลบัญชีต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้การตรวจสอบและติดตามข้อมูลบัญชีกลายเป็นเรื่องง่าย หากคุณต้องการ งบการเงินที่โปร่งใส แม่นยำ และตรวจสอบได้ PEAK พร้อมช่วยคุณทำให้ทุกกระบวนการบัญชีเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าที่เคย เริ่มทดลองได้เลยวันนี้

จุดเด่นของ PEAK

งบการเงินที่ครบถ้วน : ในระบบ PEAK มีข้อมูลรายงานการเงินอย่างครบถ้วนทั้ง งบฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด หรือรายงานประกอบด้านบัญชี เช่น สมุดบัญชีรายวัน สมุดบัญชีแยกประเภท งบทดลอง

ทุกตัวเลขบนงบการเงิน ติดตามไปถึงตัวเอกสารได้ : การตรวจสอบความถูกต้องด้านบัญชีทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยทุกตัวเลขในงบการเงินสามารถติดตามไปถึงที่มาที่ไปของแต่ละรายการบันทึกบัญชีที่นำมาประกอบ รวมไปถึงการดูเอกสารอ้างอิงที่แนบไว้ในแต่ละรายการ ให้คุณเข้าใจงบการเงินได้ลึกซึ้งในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน

รองรับการสร้างไฟล์ DBD XBRL : สร้างไฟล์ XBRL ได้สะดวกเพื่อนำส่งข้อมูลให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) โดยที่คุณไม่ต้องไปแปลงไฟล์ใน Excel อีกทีนึง ทำให้การยื่นงบมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จัดกลุ่มบัญชีในงบกำไรขาดทุนในแบบของคุณ : PEAK ให้คุณออกแบบงบกำไรขาดทุน จัดประเภทรายการแบบกำหนดเองได้ (Customizable Income Statement) เพื่อให้คุณสามารถอ่านงบให้เป็นประโยชน์และเหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด

ระบบบัญชีหลัก บัญชีย่อย : บัญชีในระบบ PEAK ถูกสร้างให้รองรับบัญชีหลักบัญชีย่อย เช่น บัญชีลูกหนี้การค้า จะมีบัญชีย่อยเป็นเลขที่คู่ค้า ทำให้สามารถติดตามลูกหนี้รายตัวได้ง่าย หรือ บัญชีรายได้จากการขายสินค้า หรือต้นทุนขายสินค้า ก็จะมีบัญชีย่อยเป็นเลขที่สินค้า ทำให้คุณสามารถติดตามยอดขาย ต้นทุน หรือกำไรขั้นต้นของสินค้ารายตัวได้เลย ช่วยให้คุณมีข้อมูลในมิติที่ลึกมากขึ้นกว่าเพียงแค่รายงานบัญชีแบบผิวๆ

เก็บประวัติทุกการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ : การบันทึกบัญชี การตรวจสอบ และการอนุมัติการ หรือแม้แต่การเข้าดู และการพิมพ์เอกสาร ถูกเก็บประวัติการใช้งานแบบไม่สามารถลบประวัติได้ ทำให้การตรวจสอบทำได้อย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

ค้นหาบันทึกได้อย่างละเอียด : PEAK มีระบบการค้นหาเอกสารที่ทรงพลังมาก คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่นการค้นหาขั้นสูงมากที่ช่วยหาเอกสารตามข้อมูลลูกค้า/คู่ค้า ผู้สร้างรายการ ผู้อนุมัติรายการ จำนวนเงิน หรือมีบัญชีรายวันอะไร และมิติอื่นๆอีก ทำให้การค้นหาเอกสารทำได้อย่างแม่นยำ

มี AI ช่วยตรวจสอบความถูกต้อง : PEAK มีระบบ Red/Yellow Flag หรือการติดธงแดง ธงเหลืองในกรณีที่ระบบตรวจพบความผิดปกติในสมุดบัญชีรายวัน และงบทดลอง เช่น มีการเปลี่ยนแปลงที่สูงมากจากงวดก่อน กรณียอดคงเหลือของรายการติดลบ หรือมีรายการบัญชีที่มียอด 0 บาท หรือมีรายการไม่เท่ากัน ทำให้ลดโอกาสที่บัญชีจะผิดพลาดลงไป และคุณสามารถค้นหารายการที่ควรตรวจสอบได้ด้วย

จุดเด่นของ PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่ช่วยธุรกิจคุณเติบโต

จัดการเอกสารได้สะดวก

จัดการเอกสารได้สะดวก

จัดการเอกสารครบวงจร – ออกใบเสนอราคาใบแจ้งหนี้ พร้อม AI แนะนำราคาตามลูกค้า

รองรับ e-Tax + การรับชำระเงิน – ออก e-Tax Invoice และรับชำระผ่าน QR, บัตรเครดิต

ยืดหยุ่น ปลอดภัย – ส่งออกเอกสารหลายรูปแบบ พร้อมตั้งค่าความปลอดภัย

จัดการค่าใช้จ่ายได้รัดกุม

จัดประเภทค่าใช้จ่าย – จัดประเภทของค่าใช้จ่ายตามโครงการ ตามแผนก

AI ช่วยบันทึกอัตโนมัติ – แนะนำค่าใช้จ่ายที่ต้องบันทึก และรองรับการนำเข้าไฟล์ Excel

คลังเก็บภาพถ่ายใบเสร็จ – ใช้แอปมือถือถ่ายรูปใบเสร็จรับเงินที่คุณจ่ายไป + บันทึกค่าใช้จ่าย

บริหารคู่ค้าอย่างเป็นระบบ

บริหารคู่ค้าอย่างเป็นระบบ

ติดตามประวัติซื้อขาย – ดูยอดขาย ยอดค้างชำระ และพฤติกรรมการจ่ายเงิน

ควบคุมเครดิต – กำหนดวงเงินขายเชื่อและเครดิตเทอมเฉพาะราย

บริหารคู่ค้าเป็นระบบ – จัดกลุ่มลูกค้าและควบคุมการเข้าถึงข้อมูล

รู้ต้นทุนได้ทันที

รู้ต้นทุนได้ทันที

บริหารสต๊อกและต้นทุนแม่นยำ – จัดการสต๊อกเป็นล๊อท คำนวณต้นทุนอัตโนมัติแบบ FIFO

ตั้งราคาขายอัจฉริยะ – สร้างราคามาตรฐาน พร้อม AI จดจำราคาลูกค้าแต่ละรายอัตโนมัติ

วิเคราะห์กำไร ต้นทุนสินค้าได้ง่าย – สรุปยอดขาย ต้นทุน และกำไร + ข้อมูลต้นทุนย้อนหลัง

ให้การเงินคุณคล่องตัว

เห็นภาพรวมการเงินในที่เดียว – รวมทุกบัญชี เงินสด ธนาคาร e-Wallet และการขายออนไลน์

กระทบยอดอัตโนมัติ ลดงานซ้ำซ้อน – AI ช่วยตรวจสอบ Bank Statement และบันทึกรายการ

วางแผนการเงินแม่นยำ – ปฏิทินเงินเข้า-ออก + ติดตามเงินสดย่อย และจัดการใบหัก ณ ที่จ่าย

บัญชีที่ถูกต้อง ตรวจสอบง่าย

งบการเงินครบถ้วน ตรวจสอบง่าย – ดูงบการเงินต่างๆ ติดตามถึงเอกสารต้นทางได้

วิเคราะห์บัญชีได้ลึกขึ้น – จัดกลุ่มบัญชี และออกแบบงบกำไรขาดทุนตามธุรกิจคุณ

ลดข้อผิดพลาดด้วย AI – ระบบแจ้งเตือนความผิดปกติ และเก็บประวัติการเปลี่ยนแปลง

PEAK เหมาะกับใคร?
โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่ตอบโจทย์มากที่สุด

โปรแกรมบัญชีออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจ SME

ธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นภาคธุรกิจด้วยกัน (Business-to-Business : B2B)

PEAK เหมาะสำหรับธุรกิจ B2B เพราะช่วยจัดการบัญชี และเอกสารการค้าอย่างเป็นระบบ รองรับการออกใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ วางบิล กำหนดวงเงินขายเชื่อ เครดิตเทอม หรือราคาตามลูกค้า พร้อมทั้งเก็บประวัติการซื้อขายย้อนหลัง

โปรแกรมบัญชีออนไลน์สำหรับฝ่ายบุคคลและนักบัญชี

ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ขายสินค้า/บริการออนไลน์ (e-Commerce)

PEAK เหมาะสำหรับธุรกิจ e-Commerce เพราะรองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มขายออนไลน์ต่างๆ หรือผ่าน API จัดการสต๊อก คำนวณต้นทุนขายอัตโนมัติ และออกใบกำกับภาษี e-Tax Invoice ได้ง่าย ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

logo PEAK Account โปรแกรมบัญชีออนไลน์

PEAK Account เป็นได้มากกว่าโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ปลดล็อคขีดจำกัดในการทำธุรกิจด้วยการเชื่อมต่อกับ PEAK Ecosystem

logo PEAK Payroll โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

logo PEAK Board โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจออนไลน์

logo PEAK Asset โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

logo PEAK Tax โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

โปรแกรมบริหารจัดการภาษี

ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท/เดือน โปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK Account

บริหารธุรกิจ บัญชี การเงิน
และจัดการเงินเดือนได้ครบวงจร

เริ่มต้นเพียง 1,200 บาท/เดือน

รู้จัก PEAK Account โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ใน 3 นาที

จัดการบัญชีง่ายๆ ด้วยโปรแกรมบัญชีออนไลน์ครบวงจร - PEAK Account

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK Account

ผลิตภัณฑ์ของ PEAK

PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Payroll
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Board
โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Asset
โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Tax
โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Line @PEAKConnect
ใช้งานโปรแกรมผ่านไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

วิธีเลือกสำนักงานบัญชีที่เหมาะกับธุรกิจ

PEAK Account

16

min

วิธีเลือกสำนักงานบัญชี ที่เหมาะกับธุรกิจ จัดการบัญชีขภาษีอย่างมีประสิทธิถาพ

การเลือก สำนักงานบัญชี เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าของกิจการหลายท่านอาจคิดว่า เพียงแค่ “น่าเชื่อถือ” และ “ราคาเหมาะสม” ก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง การทำธุรกิจยุคปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูง และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา กิจการจึงจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลทางบัญชีและการเงินที่แม่นยำ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ทั้งการวิเคราะห์ต้นทุน การกำหนดราคาขาย การวางแผนงบประมาณด้านการตลาด รวมถึงการบริหารสภาพคล่อง ซึ่งในบางครั้ง การได้รับข้อมูลทางบัญชีเป็นรายปี หรือรายเดือนที่ไม่ครบถ้วนเพียงพอ อาจทำให้การตัดสินใจล่าช้ากว่าที่ควร เนื่องจากตัวเลขทางบัญชีอาจจะสะท้อนถึงปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นในระหว่างปี และปัญหานั้นอาจเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ดังนั้น การหาสำนักงานบัญชีสำหรับธุรกิจ SME ในปัจจุบันจึงไม่ใช่แค่การหานักบัญชีที่ปิดงบการเงินและยื่นภาษีให้เสร็จตามกฎหมาย แต่คือการค้นหาพาร์ทเนอร์ที่มีความรู้ด้านบัญชี และการเงิน และมีความเข้าใจในบริบทและวิธีการทำธุรกิจของคุณ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นใจ  และที่สำคัญ ควรมีสไตล์การทำงานที่เหมาะสมกับกิจการ เพื่อให้สามารถร่วมงานกันได้ในระยะยาว รวมทั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในอนาคต เจ้าของกิจการก็จะมั่นใจได้ว่าสำนักงานบัญชีนั้นก็พร้อมที่จะปรับตัวเช่นเดียวกับกิจการคุณ สำนักงานบัญชีที่ “ใช่” ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงด้านภาษีและข้อผิดพลาด แต่ยังช่วยให้เจ้าของกิจการมีข้อมูลที่พร้อมใช้ในการตัดสินใจด้านกลยุทธ์และการเงินได้ทันเวลา เพื่อให้เจ้าของกิจการเลือกสำนักงานบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จึงรวบรวมทั้งปัญหาที่มักพบในการทำงานร่วมกับสำนักงานบัญชี รวมถึงเทคนิคสำคัญที่ควรนำไปใช้ก่อนตัดสินใจเลือกสำนักงานบัญชีสำหรับธุรกิจของคุณ ทำไมการเลือกสำนักงานบัญชี จึงสำคัญต่อธุรกิจ หลายกิจการพบประสบการณ์ไม่ดีจากการ เลือกสำนักงานบัญชีที่ไม่เหมาะกับธุรกิจคล้าย ๆ กัน คือ ถูกทิ้งงานกลางคัน ติดต่อยาก ไม่ให้คำแนะนำทางบัญชี ภาษี และการเงิน และบางครั้งสำนักงานบัญชีไม่เข้าใจการประกอบธุรกิจของกิจการ ส่งผลให้ตัวเลขผิดเพี้ยนและการวิเคราะห์ธุรกิจเป็นไปอย่างคลาดเคลื่อน หรืออาจจะมีปัญหาหรือข้อขัดแย้งอื่น ๆ เกิดขึ้น ทำให้เจ้าของกิจการต้องตัดสินใจเปลี่ยนสำนักงานบัญชี ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่มีเจ้าของกิจการรายใดอยากพบเจอวันนี้ เลยอยากจะมาแชร์ “กรอบแนวคิดในการประเมินและคัดเลือกสำนักงานบัญชี” และเรื่องที่ควรพูดคุยในการคัดเลือกสำนักงานบัญชี มาแบ่งปันให้กับเจ้าของกิจการที่กำลังคัดเลือกสำนักงานบัญชีมาร่วมงานด้วย สำนักงานบัญชีที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร เจ้าของกิจการควรดูอะไรบ้าง สำนักงานบัญชีที่ตอบโจทย์ธุรกิจ ไม่ได้วัดกันเพียงการปิดงบหรือยื่นภาษีตรงเวลา แต่ต้องเป็นทีมที่มองงานบัญชีในฐานะข้อมูลธุรกิจ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ ควรประเมินใน 5 มิตินี้: 1) ความเข้าใจธุรกิจของคุณอย่างลึกซึ้ง สำนักงานบัญชีควรมีประสบการณ์หรือความเข้าใจในประเภทธุรกิจของกิจการ ซึ่งควรจะแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมของกิจการเป็นกลุ่มย่อยได้ เช่น การทำร้านอาหาร ก็จะมีทั้งร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านบุฟเฟ่ต์ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีวิธีการทำธุรกิจ และการจัดการที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้จะอยู่ในกลุ่มร้านอาหารเหมือนกัน และมีความเสี่ยงที่คล้าย ๆ กันในบางเรื่อง นอกจากนี้ สำนักงานบัญชีควรมีความเข้าใจสภาพของการของตลาด และการแข่งขันกันในตลาดนั้น ๆ ในเบื้องต้นด้วย 2) มีระบบและเครื่องมือที่โปร่งใส การมีระบบและเครื่องมือที่โปร่งใส จะทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ และป้องกันการเข้าใจคลาดเคลื่อน ที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในภายหลัง ทั้งการจัดส่งเอกสาร การรายงานเรื่องต่าง ๆ ที่พบ การแจ้งประเด็นความเสี่ยงของกิจการ และตกลงขอบเขตงานเป็นลายลักษณ์อักษร 3) ความรู้และการอธิบายที่เข้าใจง่าย สำนักงานบัญชีที่ดีต้องอธิบายด้วยภาษาที่เจ้าของกิจการเข้าใจได้ และให้เหตุผลรองรับจากหลักบัญชีและกฎหมาย เพื่อให้ในอนาคต หากมีประเด็นทางบัญชี ภาษีที่ซับซ้อนเกิดขึ้น จะได้มั่นใจได้ว่าสำนักงานบัญชีจะสามารถอธิบายให้เจ้าของกิจการเข้าใจได้ เพื่อสามารถตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง 4) การสื่อสารที่เป็นระบบ งานบัญชีต้องอาศัยการประสานงานตลอดปี ดังนั้นช่องทางสื่อสาร การตอบกลับ และการแจ้งเตือนจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ควรสื่อสารด้วยวิธีที่เจ้าของกิจการมองว่าเหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5) ให้คำแนะนำที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น สำนักงานบัญชีที่ดีควรสามารถมองตัวเลขและ ข้อมูลบัญชีของกิจการ เป็นภาพรวม ไม่ใช่เพียงการบันทึกบัญชีให้ถูกต้อง แต่ต้องอธิบายข้อมูลเป็นเชิงลึก และให้คำแนะนำเพื่อการบริหารกิจการ และควรนำเป็นประเด็นไปสอบถามเจ้าของกิจการด้วย เพราะบางครั้งเจ้าของกิจการอาจจะไม่ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่สะท้อนมาในตัวเลขทางบัญชี 4 เรื่องสำคัญที่ต้องคุยก่อนเลือกสำนักงานบัญชีให้เหมาะกับธุรกิจ การเตรียมคำถามก่อนคุยกับสำนักงานบัญชี จะช่วยให้คุณประเมินความพร้อม ความสามารถ และแนวคิดการทำงานของทีมบัญชีได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 1) คุย “ขอบเขตงานรายเดือน” ให้ชัดเจน เจ้าของกิจการจำนวนมากต้องใช้ข้อมูลรายเดือนหรือรายไตรมาสประกอบการตัดสินใจ เช่น การปรับราคาขาย การวางงบโฆษณาและการตลาด และความเสี่ยงด้านการเงินจากการขยายขนาดกิจการ (Scale up) เป็นต้น แต่สำนักงานบัญชีบางแห่งอาจ “ไม่ได้ปิดบัญชีรายเดือน” หรือปิดเฉพาะบางหมวด ทำให้ตัวเลขไม่พร้อมใช้งานและไม่สามารถนำไปตัดสินใจได้จริง ควรตกลงกันให้ชัดเจนว่า: การมีขอบเขตชัดเจนตั้งแต่ต้น จะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างปีได้อย่างมาก 2) ตกลงวิธี “จัดส่งเอกสาร” ให้ชัดเจนตั้งแต่แรก เอกสารคือหัวใจของงานบัญชี และเป็นจุดที่ผิดพลาดได้ง่ายที่สุด สำนักงานบัญชีแต่ละแห่งมีระบบรับเอกสารต่างกัน เช่น หากไม่มีการตกลงให้ชัดเจน เช่น ส่งกระดาษบางส่วนและไฟล์บางส่วน ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสมกับสำนักงานบัญชีนั้น ๆ เอกสารอาจตกหล่น ส่งผลให้การบันทึกบัญชีไม่ครบถ้วน และผิดพลาด ควรคุยให้ชัดว่า 3) ตกลงขอบเขตการใช้งานโปรแกรม หากมีการใช้โปรแกรมบัญชีร่วมกัน หลายกิจการ SME ปัจจุบันใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ร่วมกับ สำนักงานบัญชี เช่น PEAK Account ในการออกบิลขาย บันทึกค่าใช้จ่าย และดูข้อมูลแบบ Real-time ผ่าน DashBoard เนื่องจากมีความสะดวกกว่าโปรแกรมแบบออฟไลน์ ดังนั้นสำนักงานบัญชีที่ใช้โปรแกรมเดียวกันกับกิจการจะช่วยลดความซ้ำซ้อนและทำให้ข้อมูลตรงกัน 100% รวมถึงทำให้ข้อมูลที่เจ้าของกิจการต้องการใช้แบบ Real-time นั้นมีการอัพเดทตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม การที่ใช้โปรแกรมเดียวกันนั้น ทำให้สำนักงานบัญชีอาจจะเข้ามาแก้ไขการข้อมูลในโปรแกรมบัญชีดังกล่าว ดังนั้น การตกลงขอบเขตงาน ว่างานส่วนใดที่เป็นความรับผิดชอบของกิจการ หรือส่วนใดเป็นของสำนักงานบัญชี และการที่สำนักงานบัญชีพบข้อผิดพลาดและต้องการแก้ไข จะต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปประกอบการกำหนดสิทธิในโปรแกรมให้เหมาะสมนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญ 4) ขอคำแนะนำเบื้องต้นตั้งแต่ครั้งแรกที่คุย ทั้งเรื่องบัญชี ภาษี และการเงิน เจ้าของกิจการ ควรขอคำแนะนำจากสำนักงานบัญชีในเบื้องต้นตั้งแต่ครั้งแรกที่พูดคุย เพื่อเป็นการทดสอบว่าสำนักงานบัญชีมีความรู้ความเข้าใจจริงหรือไม่ โดยอาจจะเป็นการยกสถานการณ์จริงเพื่อขอคำแนะนำ เพราะถึงแม้สำนักงานบัญชีจะมีประสบการณ์ในธุรกิจประเภทเดียวกันแล้ว แต่หลายกิจการก็มีวิธีการประกอบธุรกิจที่ต่างกัน เช่น ช่องทางการขาย การสั่งซื้อสั่งผลิตสินค้า การเบิกเงินสำรองจ่ายโดยพนักงาน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ความเสี่ยงของกิจการนั้นมีความเฉพาะของกิจการด้วย ทั้งในด้านบัญชี ภาษี และการเงิน ดังนั้น เจ้าของกิจการควรขอคำแนะนำเบื้องต้นในวันแรก ที่เป็นคำถามเฉพาะเจาะจงด้วย เช่น สำนักงานบัญชีควรให้คำแนะนำในเบื้องต้นถึงความเสี่ยงที่สำคัญของกิจการได้ จำไว้ว่า “การเลือกสำนักงานบัญชีให้ดีตั้งแต่ต้น” คุ้มค่ากว่าเสมอ หากคุณกำลังอยู่ในขั้นตอน เลือกหรือหาสำนักงานบัญชี แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มจากจุดไหน การเลือกสำนักงานบัญชีที่มีระบบการทำงานชัดเจน และเข้าใจบริบทของธุรกิจ SME ตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความต่อเนื่องของข้อมูลบัญชีได้มากขึ้น ปัจจุบัน PEAK มี บริการรับทำบัญชีจากสำนักงานบัญชีพาร์ตเนอร์ ที่ผ่านการคัดเลือก และทำงานบนระบบเดียวกัน ทำให้เจ้าของกิจการมั่นใจได้ว่าข้อมูลบัญชีถูกต้อง ตรวจสอบได้ และพร้อมนำไปใช้ตัดสินใจทางธุรกิจได้จริง ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก   (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก  บุริศร์ ทุ่งสุกใส (คุณแบร์)บริษัท เอสเอ็น ซีพีเอ ออดิท จำกัด / ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA)รับทำบัญชี สอบบัญชี ให้คำปรึกษาด้านบัญชี ภาษี และการเงิน ประสบการณ์ทำงาน 7 ปีในบริษัท Big4 เชี่ยวชาญธุรกิจก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม และขายของออนไลน์

ความรู้ธุรกิจ

ใบเสนอราคา

PEAK Account

13

min

ใบเสนอราคา (Quotation) ฟอร์มช่วยให้ธุรกิจปิดการขายง่ายขึ้น

ใบเสนอราคาออนไลน์ ช่วยเปลี่ยนจากคนที่สนใจให้กลายเป็น “ลูกค้า” ของคุณในไม่กี่นาที การปิดการขายให้สำเร็จ “ใบเสนอราคา” (Quotation) ถือเป็นด่านแรกที่สำคัญที่สุด มันไม่ใช่แค่กระดาษบอกราคา แต่คือเอกสารที่สร้างความประทับใจและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณตั้งแต่แรกเห็น หลายครั้งที่ธุรกิจพลาดโอกาสทองไป เพียงเพราะใบเสนอราคาที่ดูไม่เป็นมืออาชีพ ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือส่งช้าเกินไป ทำความรู้จัก ใบเสนอราคา คืออะไร? ใบเสนอราคา คือเอกสารที่ผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือบุคคลธรรมดา ออกให้กับลูกค้าหรือผู้ที่สนใจ เพื่อเสนอรายละเอียดสินค้า บริการ ราคา และเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อหรือจ้างงาน เอกสารนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะในกรณีของ ใบเสนอราคาบุคคลธรรมดา ซึ่งมักใช้ในกลุ่มฟรีแลนซ์หรือเจ้าของกิจการรายย่อย การจัดทำใบเสนอราคาที่มีข้อมูลครบถ้วน เช่น รายการสินค้าและบริการ ราคา เงื่อนไขการชำระเงิน และค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน จะช่วยให้ลูกค้าพิจารณาข้อเสนอได้ง่ายขึ้นและเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย เหตุผลที่ธุรกิจของคุณต้องใช้ “ใบเสนอราคาออนไลน์” ให้ลูกค้า ฟีเจอร์เด่นบน “ใบเสนอราคาออนไลน์” จาก PEAK ใบเสนอราคาที่ดี ต้องช่วยธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างที่ 1: ช่วยปิดการขายได้ไว และสร้างความนน่าเชื่อถือ ตัวอย่างที่ 2: ช่วยวางบิล และเก็บเงินได้เร็ว ความสำคัญของใบเสนอราคา ทำไมธุรกิจต้องมี? ไม่ว่าคุณจะเป็นฟรีแลนซ์ (บุคคลธรรมดา) หรือบริษัทขนาดใหญ่ (นิติบุคคล) ใบเสนอราคา (Quotation) เป็นมากกว่าแค่เอกสารบอกราคา แต่เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังในการสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย การทำใบเสนอราคาที่ถูกต้อง ครบถ้วน และดูเป็นมืออาชีพ จึงเป็นความน่าเชื่อถืออีกเรื่องที่ธุรกิจต้องมี นี่คือเหตุผลสำคัญว่าทำไม: องค์ประกอบสำคัญ! ใบเสนอราคาที่ดีควรมีอะไรบ้าง? Tip: สำหรับ “ใบเสนอราคาบุคคลธรรมดา” หรือฟรีแลนซ์ ควรระบุอัตราภาษี หัก ณ ที่จ่าย 3%” ไปในใบเสนอราด้วยเพื่อความชัดเจนตั้งแต่เริ่มงาน ตัวอย่างเอกสารฟอร์มใบเสนอราคาบุคคลธรรมดา สำหรับคนที่ยังนึกไม่ออกว่าฟอร์มใบเสนอราคาบุคคลธรรมดาเป็นอย่างไร เรามีตัวอย่างฟอร์มใบเสนอราคาทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษมาให้ดูกัน ตัวอย่าง: ใบเสนอราคาออนไลน์ (ภาษาไทย) ที่สร้างด้วยโปรแกรม PEAK ตัวอย่าง: ใบเสนอราคาออนไลน์ (ภาษาอังกฤษ) ที่สร้างด้วยโปรแกรม PEAK การสร้างใบเสนอราคาออนไลน์ เริ่มขายได้ในไม่กี่นาที ด้วยโปรแกรม PEAK เพราะใบเสนอราคาต้องสวยงาม น่าเชื่อถือ และส่งให้ลูกค้าได้ทันที สร้างใบเสนอราคาออนไลน์ขอองคุณเองได้เพียง 4 ขั้นตอน ดูวิธีใช้งานโปรแกรมทำใบเสนอราคา PEAK ฉบับเต็ม เชื่อมต่อใบเสนอราคากับใบเสร็จรับเงินอย่างเป็นระบบ หยุดเสียเวลากับการทำเอกสารเองที่อาจผิดพลาดและล่าช้า! ได้เวลาเปลี่ยนมาใช้เครื่องมือที่ “แม่นยำ” และ “รวดเร็ว” กว่าด้วย PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ คุณสามารถสร้าง ใบเสนอราคาออนไลน์ได้ทันที และยังเชื่อมต่อข้อมูลไปยัง บิลเงินสด หรือ ใบเสร็จรับเงิน ได้อีกด้วย ทุกเอกสารจึงครบถ้วน ถูกต้อง 100% ช่วยป้องกันปัญหาจุกจิกกวนใจ และยกระดับธุรกิจของคุณให้ดูเป็นมืออาชีพ ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก   (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก 

ความรู้บัญชี

Update Function PEAK 17/12/2025

PEAK Account

4

min

Update Function PEAK 26/11/2025

PEAK with the new function designed to enhance efficiency. 1. SMART Insight – A proactive business assistant that alerts you to documents nearing their due dates, helping you track receivables instantly from the home page. Suitable for: Users on the Basic package or above who want easier tracking of receivable documents and payments. Highlight: Smart Insight appears on the home page to notify users of receivable documents that are nearing their due dates or overdue. Selecting an item takes users directly to the relevant document list with the date range automatically applied—making payment tracking faster and easier. Supported documents: SMART Insight indicators: Notes: 2. “Add to File Vault” feature from the document page (Online View) – Save documents from partners who use PEAK more easily. Suitable for: All users who work with partners who use PEAK and want easier document storage. Highlight: Users can save documents received from PEAK-using partners directly into the File Vault via the Online View page. 1. Issuer view: Note:Document status and Make Payment buttons are available only for businesses using QR Payment and apply to Invoices, Billing Notes, Deposit Receipts, and Debit Notes only. 2. Recipient view: Saving behavior: 3. Enhanced checks for tax items not pulled into PEAK TAX – Reduces the risk of missing tax items when creating tax forms. Suitable for: PEAK TAX users who want confidence before submitting tax forms. Highlight: When creating tax forms (PND 1, 2, 3, 53 and PP.30), the system automatically checks for missing Sales Tax, Purchase Tax, or Withholding Tax items. If any are missing, the system alerts the user and pulls complete data before form creation. Once completed, a notification bell and a result file are provided—reducing errors and increasing confidence. 4. Redesigned selection display for Contacts, Products, Finances, and Chart of Accounts when creating documents – Makes data selection more convenient. Suitable for: All users who regularly create documents Highlight: When creating documents, selected data is now grouped by category, with frequently used items shown first—reducing search time and improving workflow. Notes: 5. Enabled QR Payment for quotations with “Await Approval” status. Suitable for: Users connected to QR Payment who want to close deals faster. Highlight: Quotations in “Await Approval” status now display a Make Payment button. Once payment is made, the system automatically accepts the quotation and issues an invoice or receipt. Note: 6. Create Billing Notes or Combined Payment Note directly from the document table – Faster and more convenient document creation. Suitable for: Users who want to issue Billing Notes or Combined Payment Note quickly.Highlight: Users can select multiple documents from the table to instantly create a Billing Notes or Combined Payment Note. The system verifies that all documents belong to the same contact before creation—reducing repetitive work. Note: 7. Added an option to send SCB transfer proof (Text file) via email when using Bulk Payment Transfers. Suitable for: Premium package users making multiple transfers via Siam Commercial Bank (SCB). Highlight: When creating an SCB Text file via Bulk Payment Transfers, users can choose whether to send transfer proof via email. If enabled, the bank sends a notification to the email address associated with each contact—making it faster to share payment proof with vendors. Note: 8. Added Invoice Receipt (IR) selection for creating Bulk Payment Transfers. Suitable for: Premium package users who use Invoice Receipt (IR) documents. Highlight: Users can now select Invoice Receipt (IR) documents when creating Bulk Payment Transfers, making expense recording and bulk transfers more convenient. 9. New email notifications for automatic package renewal payments – Get notified in advance before your card is charged. Suitable for: All users who enable automatic credit card payments for package renewal. Highlight: If automatic package renewal is enabled, the system will send a pre-notification email 7 days before the credit card is charged, helping users stay informed in advance and reducing issues such as failed payments or confusion about billing.

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

วิธีเลือกสำนักงานบัญชีที่เหมาะกับธุรกิจ

PEAK Account

16

min

วิธีเลือกสำนักงานบัญชี ที่เหมาะกับธุรกิจ จัดการบัญชีขภาษีอย่างมีประสิทธิถาพ

การเลือก สำนักงานบัญชี เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าของกิจการหลายท่านอาจคิดว่า เพียงแค่ “น่าเชื่อถือ” และ “ราคาเหมาะสม” ก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง การทำธุรกิจยุคปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูง และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา กิจการจึงจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลทางบัญชีและการเงินที่แม่นยำ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ทั้งการวิเคราะห์ต้นทุน การกำหนดราคาขาย การวางแผนงบประมาณด้านการตลาด รวมถึงการบริหารสภาพคล่อง ซึ่งในบางครั้ง การได้รับข้อมูลทางบัญชีเป็นรายปี หรือรายเดือนที่ไม่ครบถ้วนเพียงพอ อาจทำให้การตัดสินใจล่าช้ากว่าที่ควร เนื่องจากตัวเลขทางบัญชีอาจจะสะท้อนถึงปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นในระหว่างปี และปัญหานั้นอาจเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ดังนั้น การหาสำนักงานบัญชีสำหรับธุรกิจ SME ในปัจจุบันจึงไม่ใช่แค่การหานักบัญชีที่ปิดงบการเงินและยื่นภาษีให้เสร็จตามกฎหมาย แต่คือการค้นหาพาร์ทเนอร์ที่มีความรู้ด้านบัญชี และการเงิน และมีความเข้าใจในบริบทและวิธีการทำธุรกิจของคุณ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นใจ  และที่สำคัญ ควรมีสไตล์การทำงานที่เหมาะสมกับกิจการ เพื่อให้สามารถร่วมงานกันได้ในระยะยาว รวมทั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในอนาคต เจ้าของกิจการก็จะมั่นใจได้ว่าสำนักงานบัญชีนั้นก็พร้อมที่จะปรับตัวเช่นเดียวกับกิจการคุณ สำนักงานบัญชีที่ “ใช่” ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงด้านภาษีและข้อผิดพลาด แต่ยังช่วยให้เจ้าของกิจการมีข้อมูลที่พร้อมใช้ในการตัดสินใจด้านกลยุทธ์และการเงินได้ทันเวลา เพื่อให้เจ้าของกิจการเลือกสำนักงานบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จึงรวบรวมทั้งปัญหาที่มักพบในการทำงานร่วมกับสำนักงานบัญชี รวมถึงเทคนิคสำคัญที่ควรนำไปใช้ก่อนตัดสินใจเลือกสำนักงานบัญชีสำหรับธุรกิจของคุณ ทำไมการเลือกสำนักงานบัญชี จึงสำคัญต่อธุรกิจ หลายกิจการพบประสบการณ์ไม่ดีจากการ เลือกสำนักงานบัญชีที่ไม่เหมาะกับธุรกิจคล้าย ๆ กัน คือ ถูกทิ้งงานกลางคัน ติดต่อยาก ไม่ให้คำแนะนำทางบัญชี ภาษี และการเงิน และบางครั้งสำนักงานบัญชีไม่เข้าใจการประกอบธุรกิจของกิจการ ส่งผลให้ตัวเลขผิดเพี้ยนและการวิเคราะห์ธุรกิจเป็นไปอย่างคลาดเคลื่อน หรืออาจจะมีปัญหาหรือข้อขัดแย้งอื่น ๆ เกิดขึ้น ทำให้เจ้าของกิจการต้องตัดสินใจเปลี่ยนสำนักงานบัญชี ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่มีเจ้าของกิจการรายใดอยากพบเจอวันนี้ เลยอยากจะมาแชร์ “กรอบแนวคิดในการประเมินและคัดเลือกสำนักงานบัญชี” และเรื่องที่ควรพูดคุยในการคัดเลือกสำนักงานบัญชี มาแบ่งปันให้กับเจ้าของกิจการที่กำลังคัดเลือกสำนักงานบัญชีมาร่วมงานด้วย สำนักงานบัญชีที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร เจ้าของกิจการควรดูอะไรบ้าง สำนักงานบัญชีที่ตอบโจทย์ธุรกิจ ไม่ได้วัดกันเพียงการปิดงบหรือยื่นภาษีตรงเวลา แต่ต้องเป็นทีมที่มองงานบัญชีในฐานะข้อมูลธุรกิจ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ ควรประเมินใน 5 มิตินี้: 1) ความเข้าใจธุรกิจของคุณอย่างลึกซึ้ง สำนักงานบัญชีควรมีประสบการณ์หรือความเข้าใจในประเภทธุรกิจของกิจการ ซึ่งควรจะแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมของกิจการเป็นกลุ่มย่อยได้ เช่น การทำร้านอาหาร ก็จะมีทั้งร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านบุฟเฟ่ต์ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีวิธีการทำธุรกิจ และการจัดการที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้จะอยู่ในกลุ่มร้านอาหารเหมือนกัน และมีความเสี่ยงที่คล้าย ๆ กันในบางเรื่อง นอกจากนี้ สำนักงานบัญชีควรมีความเข้าใจสภาพของการของตลาด และการแข่งขันกันในตลาดนั้น ๆ ในเบื้องต้นด้วย 2) มีระบบและเครื่องมือที่โปร่งใส การมีระบบและเครื่องมือที่โปร่งใส จะทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ และป้องกันการเข้าใจคลาดเคลื่อน ที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในภายหลัง ทั้งการจัดส่งเอกสาร การรายงานเรื่องต่าง ๆ ที่พบ การแจ้งประเด็นความเสี่ยงของกิจการ และตกลงขอบเขตงานเป็นลายลักษณ์อักษร 3) ความรู้และการอธิบายที่เข้าใจง่าย สำนักงานบัญชีที่ดีต้องอธิบายด้วยภาษาที่เจ้าของกิจการเข้าใจได้ และให้เหตุผลรองรับจากหลักบัญชีและกฎหมาย เพื่อให้ในอนาคต หากมีประเด็นทางบัญชี ภาษีที่ซับซ้อนเกิดขึ้น จะได้มั่นใจได้ว่าสำนักงานบัญชีจะสามารถอธิบายให้เจ้าของกิจการเข้าใจได้ เพื่อสามารถตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง 4) การสื่อสารที่เป็นระบบ งานบัญชีต้องอาศัยการประสานงานตลอดปี ดังนั้นช่องทางสื่อสาร การตอบกลับ และการแจ้งเตือนจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ควรสื่อสารด้วยวิธีที่เจ้าของกิจการมองว่าเหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5) ให้คำแนะนำที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น สำนักงานบัญชีที่ดีควรสามารถมองตัวเลขและ ข้อมูลบัญชีของกิจการ เป็นภาพรวม ไม่ใช่เพียงการบันทึกบัญชีให้ถูกต้อง แต่ต้องอธิบายข้อมูลเป็นเชิงลึก และให้คำแนะนำเพื่อการบริหารกิจการ และควรนำเป็นประเด็นไปสอบถามเจ้าของกิจการด้วย เพราะบางครั้งเจ้าของกิจการอาจจะไม่ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่สะท้อนมาในตัวเลขทางบัญชี 4 เรื่องสำคัญที่ต้องคุยก่อนเลือกสำนักงานบัญชีให้เหมาะกับธุรกิจ การเตรียมคำถามก่อนคุยกับสำนักงานบัญชี จะช่วยให้คุณประเมินความพร้อม ความสามารถ และแนวคิดการทำงานของทีมบัญชีได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 1) คุย “ขอบเขตงานรายเดือน” ให้ชัดเจน เจ้าของกิจการจำนวนมากต้องใช้ข้อมูลรายเดือนหรือรายไตรมาสประกอบการตัดสินใจ เช่น การปรับราคาขาย การวางงบโฆษณาและการตลาด และความเสี่ยงด้านการเงินจากการขยายขนาดกิจการ (Scale up) เป็นต้น แต่สำนักงานบัญชีบางแห่งอาจ “ไม่ได้ปิดบัญชีรายเดือน” หรือปิดเฉพาะบางหมวด ทำให้ตัวเลขไม่พร้อมใช้งานและไม่สามารถนำไปตัดสินใจได้จริง ควรตกลงกันให้ชัดเจนว่า: การมีขอบเขตชัดเจนตั้งแต่ต้น จะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างปีได้อย่างมาก 2) ตกลงวิธี “จัดส่งเอกสาร” ให้ชัดเจนตั้งแต่แรก เอกสารคือหัวใจของงานบัญชี และเป็นจุดที่ผิดพลาดได้ง่ายที่สุด สำนักงานบัญชีแต่ละแห่งมีระบบรับเอกสารต่างกัน เช่น หากไม่มีการตกลงให้ชัดเจน เช่น ส่งกระดาษบางส่วนและไฟล์บางส่วน ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสมกับสำนักงานบัญชีนั้น ๆ เอกสารอาจตกหล่น ส่งผลให้การบันทึกบัญชีไม่ครบถ้วน และผิดพลาด ควรคุยให้ชัดว่า 3) ตกลงขอบเขตการใช้งานโปรแกรม หากมีการใช้โปรแกรมบัญชีร่วมกัน หลายกิจการ SME ปัจจุบันใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ร่วมกับ สำนักงานบัญชี เช่น PEAK Account ในการออกบิลขาย บันทึกค่าใช้จ่าย และดูข้อมูลแบบ Real-time ผ่าน DashBoard เนื่องจากมีความสะดวกกว่าโปรแกรมแบบออฟไลน์ ดังนั้นสำนักงานบัญชีที่ใช้โปรแกรมเดียวกันกับกิจการจะช่วยลดความซ้ำซ้อนและทำให้ข้อมูลตรงกัน 100% รวมถึงทำให้ข้อมูลที่เจ้าของกิจการต้องการใช้แบบ Real-time นั้นมีการอัพเดทตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม การที่ใช้โปรแกรมเดียวกันนั้น ทำให้สำนักงานบัญชีอาจจะเข้ามาแก้ไขการข้อมูลในโปรแกรมบัญชีดังกล่าว ดังนั้น การตกลงขอบเขตงาน ว่างานส่วนใดที่เป็นความรับผิดชอบของกิจการ หรือส่วนใดเป็นของสำนักงานบัญชี และการที่สำนักงานบัญชีพบข้อผิดพลาดและต้องการแก้ไข จะต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปประกอบการกำหนดสิทธิในโปรแกรมให้เหมาะสมนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญ 4) ขอคำแนะนำเบื้องต้นตั้งแต่ครั้งแรกที่คุย ทั้งเรื่องบัญชี ภาษี และการเงิน เจ้าของกิจการ ควรขอคำแนะนำจากสำนักงานบัญชีในเบื้องต้นตั้งแต่ครั้งแรกที่พูดคุย เพื่อเป็นการทดสอบว่าสำนักงานบัญชีมีความรู้ความเข้าใจจริงหรือไม่ โดยอาจจะเป็นการยกสถานการณ์จริงเพื่อขอคำแนะนำ เพราะถึงแม้สำนักงานบัญชีจะมีประสบการณ์ในธุรกิจประเภทเดียวกันแล้ว แต่หลายกิจการก็มีวิธีการประกอบธุรกิจที่ต่างกัน เช่น ช่องทางการขาย การสั่งซื้อสั่งผลิตสินค้า การเบิกเงินสำรองจ่ายโดยพนักงาน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ความเสี่ยงของกิจการนั้นมีความเฉพาะของกิจการด้วย ทั้งในด้านบัญชี ภาษี และการเงิน ดังนั้น เจ้าของกิจการควรขอคำแนะนำเบื้องต้นในวันแรก ที่เป็นคำถามเฉพาะเจาะจงด้วย เช่น สำนักงานบัญชีควรให้คำแนะนำในเบื้องต้นถึงความเสี่ยงที่สำคัญของกิจการได้ จำไว้ว่า “การเลือกสำนักงานบัญชีให้ดีตั้งแต่ต้น” คุ้มค่ากว่าเสมอ หากคุณกำลังอยู่ในขั้นตอน เลือกหรือหาสำนักงานบัญชี แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มจากจุดไหน การเลือกสำนักงานบัญชีที่มีระบบการทำงานชัดเจน และเข้าใจบริบทของธุรกิจ SME ตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความต่อเนื่องของข้อมูลบัญชีได้มากขึ้น ปัจจุบัน PEAK มี บริการรับทำบัญชีจากสำนักงานบัญชีพาร์ตเนอร์ ที่ผ่านการคัดเลือก และทำงานบนระบบเดียวกัน ทำให้เจ้าของกิจการมั่นใจได้ว่าข้อมูลบัญชีถูกต้อง ตรวจสอบได้ และพร้อมนำไปใช้ตัดสินใจทางธุรกิจได้จริง ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก   (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก  บุริศร์ ทุ่งสุกใส (คุณแบร์)บริษัท เอสเอ็น ซีพีเอ ออดิท จำกัด / ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA)รับทำบัญชี สอบบัญชี ให้คำปรึกษาด้านบัญชี ภาษี และการเงิน ประสบการณ์ทำงาน 7 ปีในบริษัท Big4 เชี่ยวชาญธุรกิจก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม และขายของออนไลน์

ความรู้ธุรกิจ