Few - MKT

ทั้งหมด

บัญชี

ภาษี

ธุรกิจ

การใช้งานโปรแกรม

ข่าวสาร

28 พ.ย. 2025

Few - MKT

14 min

ซื้อของจาก SME ต้องรู้ เครดิตเทอม ต่ายภายในกี่วัน

การค้าขายกับธุรกิจมักจะไม่ได้ชำระเงินกันโดยทันทีหลังส่งมอบ แต่จะมีการให้ เครดิตเทอม แต่หลายครั้ง เครดิตเทอม ก็กลายเป็นช่องโหว่ให้เกิดการเอาเปรียบธุรกิจ SME อยู่เสมอ ซึ่งทางภาครัฐก็ได้มีการออกข้อกำหนดเพื่อให้การค้าเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องคอยติดตามข้อกำหนดเหล่านี้อยู่เสมอ และในบทความนี้เราจะมาแนะนำความรู้เกี่ยวกับเครดิตเทอมและข้อกำหนดที่ควรทราบกัน เครดิตเทอม คืออะไร? เครดิตเทอม หรือ สินเชื่อการค้า คือ ข้อกำหนดหรือเงื่อนไขในการชำระเงินระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจ โดยเป็นในรูปแบบของสินเชื่อที่ผู้ขายออกให้แก่ผู้ซื้อ ที่ผู้ขายจะส่งมอบสินค้าหรือบริการก่อน แล้วให้ผู้ซื้อชำระเงินภายในระยะเวลา เครดิตเทอม ที่กำหนดไว้ ซึ่งระยะเวลาขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างคู่ค้า อาจเริ่มต้นตั้งแต่ 15 วัน จนถึง 45 วัน ทำไมเจ้าของธุรกิจต้องเข้าใจเรื่องเครดิตเทอม เครดิตเทอม ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ สามารถวางแผนจัดการกระแสเงินสดได้ และถือว่าเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจแบบ Business to Business (B2B) ที่มักจะมาข้อกำหนดเครดิตเทอมขึ้นมาเสมอ แต่ปัญหาของเครดิตเทอม คือ มีโอกาสกลายเป็นหนี้สูญหากผู้ซื้อไม่จ่ายเงินตามข้อกำหนด และ ในบางครั้งก็เกิดการเอาเปรียบกันด้วยการขอเครดิตเทอมที่นานเกินควรจนผู้ขายเกิดปัญหาด้านสภาพคล่อง โดยเฉพาะในธุรกิจ SME ที่มีอำนาจต่อรองน้อย ยกตัวอย่างสถานการณ์การกำหนดเครดิตเทอม เช่น  ธุรกิจ A เป็นธุรกิจขนาดเล็ก SME ขายบริการ ทำแคมเปญการตลาดออนไลน์ ให้บริษัท B โดยตกลงกันไว้ว่าจะนับระยะเวลาเครดิตเทอมหลังจากที่ส่งมอบบริการและเอกสารครบถ้วน ซึ่งหลังจากให้บริการเสร็จสิ้น ทางธุรกิจ A ออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินจากบริษัท B โดยกำหนดเครดิตเทอม 30 วันนับจาก วันที่ 1 ตุลาคม หมายความว่าบริษัท B จำเป็นต้องชำระเงินภายในวันที่ 31 ตุลาคม หรือ 30 วันหลังจากส่งมอบบริการและเอกสารนั่นเอง ประกาศเครดิตเทอมจากสำนักงานกรรมการการแข่งขันทางการค้า ด้วยช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดการเอาเปรียบกันระหว่างธุรกิจในด้านการกำหนดเครดิตเทอม ทางสำนักงานกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) จึงกำหนดประกาศที่ ห้ามกำหนดเครดิตเทอมเกิน 30-45 วัน ในกรณีที่ผู้ขายเป็นธุรกิจขนาดกลาง หรือขนาดย่อม (SMEs) ผ่านประกาศ “แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมเกี่ยวกับระยะเวลาการให้เครดิตเทอม กรณีผู้ขายสินค้าหรือบริการประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)” โดยวัตถุประสงค์ของประกาศนี้เพื่อป้องกันการเอาเปรียบธุรกิจ SMEs เพราะมีอำนาจการต่อรองที่น้อยกว่า เพราะก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายเข้ามากำหนด บางครั้งธุรกิจ SME ต้องเจอกับเครดิตเทอมที่ยาวนาน 60-90 วัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจ การที่ กขค. ออกประกาศกรอบระยะเวลาของเครดิตเทอมให้ชัดเจนเช่นนี้ จึงช่วยผู้ประกอบการ SME ได้มหาศาล ผู้ที่ต้องทำตามประกาศเครดิตเทอม สำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติตามประกาศข้างต้น คือ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนทุกรายที่ซื้อสินค้า/บริการจาก ธุรกิจ SMEs ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ด้วยการกำหนดเครดิตเทอมภายใน 30-45 วันตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษตามมาอีกด้วย รายละเอียดเกี่ยวกับประกาศเครดิตเทอม ในส่วนของระยะเวลาเครดิตเทอมที่ได้กำหนดไว้ 30-45 วัน แบ่งได้ตามประเภทของสินค้าหรือบริการ โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้ นอกจากนี้ในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน เช่น ใบสั่งซื้อ ใบแจ้งหนี้ หรือใบกำกับภาษี จำเป็นต้องระบุวันชำระเงินไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้หากมีเหตุผลอันสมควรให้มีเครดิตเทอมเกิน 45 วันสามารถทำได้ตามการตกลงร่วมกันระหว่างคู่ค้า แต่หากไม่มีเหตุผลที่มากพอถือว่าเป็นความผิด ใครบ้างที่ถือว่าเป็น SME ภายใต้ประกาศเครดิตเทอม? ทาง กขค. ก็ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ ที่ใช้พิจารณาว่าธุรกิจประเภทไหนถึงเข้าข่ายเป็นธุรกิจ SME โดยมีการกำหนดธุรกิจแต่ละรูปแบบได้ 2 ประเภทดังนี้ หากธุรกิจของคุณ หรือคู่ค้าของคุณ เข้าข่ายข้อกำหนดข้างต้นก็หมายความว่าเป็นธุรกิจ SME และต้องให้เครดิตเทอมตามที่กฎหมายกำหนดด้วยนั่นเอง ทั้งนี้ในธุรกิจอาจมีทั้งการขายสินค้าและให้บริการที่มีการจ้างงานไม่เกินที่กำหนด ให้พิจารณาเงื่อนไขโดยใช้เกณฑ์ของรายได้หลักมาพิจารณา ยกตัวอย่าง เช่น ธุรกิจ A ทำธุรกิจผลิตสินค้าและให้บริการ มีการจ้างงาน 120 คน โดยมีรายได้จากการผลิตสินค้าขาย 500 ล้านบาท/ปี และธุรกิจให้บริการ 200 ล้านบาท/ปี หมายความว่าธุรกิจ A มีรายได้หลักจากการผลิตสินค้า จึงต้องใช้เกณฑ์การพิจารณาของ “ธุรกิจขายสินค้า: รายได้สูงสุดไม่เกิน 500 ล้านบาท/ปี”ซึ่งหากพิจารณาจากตัวเลขแบบแยกประเภทการขายสินค้าและบริการแล้วอาจเข้าใจว่ายังถือว่าเป็น SME อยู่ แต่หากนำตัวเลขรายได้มารวมกันเกินได้ 700 ล้านบาท/ปี ซึ่งเกินกำหนดของธุรกิจขายสินค้าที่ 500 ล้านบาท/ปี หมายความว่าธุรกิจ A จะไม่ถือว่าเป็น SME บทลงโทษ และช่องทางร้องเรียน กฎหมายเครดิตเทอมสำหรับ SME มีบทลงโทษกำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมีบทลงโทษเป็นการปรับเงินสูงสุด 10% ของรายได้ต่อปี นอกจากนี้ประกาศยังได้ระบุพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมที่สามารถร้องเรียนได้ โดยมีทั้งหมด 3 พฤติกรรมดังนี้ 1. การประวิงเวลาไม่ยอมชำระหนี้ตามที่เครดิตเทอมกำหนด การประวิงเวลาหรือการที่ผู้ซื้อไม่ชำระหนี้ตามเครดิตเทอมที่ได้ตกลงกันไว้ โดยไม่ได้มีเหตุผลอันสมควรแก่การขยายเวลาชำระหนี้ ซึ่งพฤติกรรมนี้เข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้า 2. เปลี่ยนแปลงระยะเวลาเครดิตเทอม การเปลี่ยนระยะเวลาให้เครดิตเทอม หากไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าภายใน 60 วัน และไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ถือว่าเป็นความผิดเช่นเดียวกัน 3. พฤติกรรมลักษณะอื่น ด้วยอำนาจต่อรองของธุรกิจ SME ที่อาจมีน้อยกว่าคู่ค้าในบางครั้ง อาจทำให้เกิดการเอาเปรียบกันเกิดขึ้น ซึ่งพฤติกรรมลักษณะอื่น เช่น การกำหนดเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมที่เป็นการสร้างภาระให้แก่ธุรกิจ SME โดยไม่จำเป็น หากธุรกิจ SME พบพฤติกรรมเหล่านี้ของคู่ค้าในการทำธุรกิจร่วมกันสามารถร้องเรียนได้ผ่านช่องทาง รู้ข้อกฎหมายไว้ ไม่ถูกเอาเปรียบ ในการทำธุรกิจ การรู้ข้อกฎหมายให้ครอบคลุมมากที่สุดช่วยลดโอกาสถูกการเอาเปรียบได้ โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่อำนาจต่อรองไม่สูง หลายครั้งโดนตั้งเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายจากคู่ค้า เมื่อไม่ถูกเอาเปรียบ ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ติดตามบทความจาก PEAK ที่นำเสนอความรู้ทางธุรกิจตั้งแต่บัญชี ภาษี ไปจนถึงข่าวสารข้อกำหนดกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ! สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่อง และอยากเข้าใจการใช้เครดิตเทอมอย่างถูกต้อง นอกจากการศึกษากฎหมายเครดิตเทอมแล้ว คุณยังสามารถเลือกใช้บริการเครดิตเทอมจากผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ เช่น OfficeMate ที่สรุปขั้นตอนและเงื่อนไขการขอเครดิตเทอมออนไลน์ไว้ สร้างใบแจ้งหนี้ออนไลน์ใน 1 นาที ปัจจุบัน ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ต่างหันมาใช้ใบแจ้งหนี้ออนไลน์กันมากขึ้น เพราะสร้าง QR Code ให้ลูกค้าชำระเงินได้สะดวกและลดขั้นตอนการรับชำระได้อย่างมาก บทความนี้จึงขอแนะนำให้ลองสร้างใบแจ้งหนี้ออนไลน์แบบง่ายๆ ผ่านโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK ซึ่งใช้งานไม่ซับซ้อน และมีข้อดีที่ช่วยให้ธุรกิจทำงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ดังนี้ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า OFM! สำหรับลูกค้า OfficeMate (OFM) ที่ต้องการจัดการเอกสารและบัญชีอย่างมืออาชีพ เรามีตัวช่วย!PEAK คือ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่ทำให้การทำบัญชี การเงิน และภาษีเป็นเรื่องง่ายและ อัตโนมัติ ช่วยลดงานเอกสารและประหยัดเวลาด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ (AI, API) แถมยังได้ข้อมูลธุรกิจแบบ Real-Time พิเศษ: ลูกค้า OFM ทดลองใช้ฟรี 30 วัน พร้อม ส่วนลดพิเศษ เมื่อสมัครแพ็กเกจรายปี!ให้ PEAK เป็นหลังบ้านดิจิทัลที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณ จัดการได้อย่างมืออาชีพ!ลงทะเบียนรับสิทธิ์:  ติดตาม OfficeMate ได้ที่ช่องทาง

28 พ.ย. 2025

Few - MKT

14 min

ซื้อของจาก SME ต้องรู้ เครดิตเทอม ต่ายภายในกี่วัน

การค้าขายกับธุรกิจมักจะไม่ได้ชำระเงินกันโดยทันทีหลังส่งมอบ แต่จะมีการให้ เครดิตเทอม แต่หลายครั้ง เครดิตเทอม ก็กลายเป็นช่องโหว่ให้เกิดการเอาเปรียบธุรกิจ SME อยู่เสมอ ซึ่งทางภาครัฐก็ได้มีการออกข้อกำหนดเพื่อให้การค้าเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องคอยติดตามข้อกำหนดเหล่านี้อยู่เสมอ และในบทความนี้เราจะมาแนะนำความรู้เกี่ยวกับเครดิตเทอมและข้อกำหนดที่ควรทราบกัน เครดิตเทอม คืออะไร? เครดิตเทอม หรือ สินเชื่อการค้า คือ ข้อกำหนดหรือเงื่อนไขในการชำระเงินระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจ โดยเป็นในรูปแบบของสินเชื่อที่ผู้ขายออกให้แก่ผู้ซื้อ ที่ผู้ขายจะส่งมอบสินค้าหรือบริการก่อน แล้วให้ผู้ซื้อชำระเงินภายในระยะเวลา เครดิตเทอม ที่กำหนดไว้ ซึ่งระยะเวลาขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างคู่ค้า อาจเริ่มต้นตั้งแต่ 15 วัน จนถึง 45 วัน ทำไมเจ้าของธุรกิจต้องเข้าใจเรื่องเครดิตเทอม เครดิตเทอม ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ สามารถวางแผนจัดการกระแสเงินสดได้ และถือว่าเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจแบบ Business to Business (B2B) ที่มักจะมาข้อกำหนดเครดิตเทอมขึ้นมาเสมอ แต่ปัญหาของเครดิตเทอม คือ มีโอกาสกลายเป็นหนี้สูญหากผู้ซื้อไม่จ่ายเงินตามข้อกำหนด และ ในบางครั้งก็เกิดการเอาเปรียบกันด้วยการขอเครดิตเทอมที่นานเกินควรจนผู้ขายเกิดปัญหาด้านสภาพคล่อง โดยเฉพาะในธุรกิจ SME ที่มีอำนาจต่อรองน้อย ยกตัวอย่างสถานการณ์การกำหนดเครดิตเทอม เช่น  ธุรกิจ A เป็นธุรกิจขนาดเล็ก SME ขายบริการ ทำแคมเปญการตลาดออนไลน์ ให้บริษัท B โดยตกลงกันไว้ว่าจะนับระยะเวลาเครดิตเทอมหลังจากที่ส่งมอบบริการและเอกสารครบถ้วน ซึ่งหลังจากให้บริการเสร็จสิ้น ทางธุรกิจ A ออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินจากบริษัท B โดยกำหนดเครดิตเทอม 30 วันนับจาก วันที่ 1 ตุลาคม หมายความว่าบริษัท B จำเป็นต้องชำระเงินภายในวันที่ 31 ตุลาคม หรือ 30 วันหลังจากส่งมอบบริการและเอกสารนั่นเอง ประกาศเครดิตเทอมจากสำนักงานกรรมการการแข่งขันทางการค้า ด้วยช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดการเอาเปรียบกันระหว่างธุรกิจในด้านการกำหนดเครดิตเทอม ทางสำนักงานกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) จึงกำหนดประกาศที่ ห้ามกำหนดเครดิตเทอมเกิน 30-45 วัน ในกรณีที่ผู้ขายเป็นธุรกิจขนาดกลาง หรือขนาดย่อม (SMEs) ผ่านประกาศ “แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมเกี่ยวกับระยะเวลาการให้เครดิตเทอม กรณีผู้ขายสินค้าหรือบริการประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)” โดยวัตถุประสงค์ของประกาศนี้เพื่อป้องกันการเอาเปรียบธุรกิจ SMEs เพราะมีอำนาจการต่อรองที่น้อยกว่า เพราะก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายเข้ามากำหนด บางครั้งธุรกิจ SME ต้องเจอกับเครดิตเทอมที่ยาวนาน 60-90 วัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจ การที่ กขค. ออกประกาศกรอบระยะเวลาของเครดิตเทอมให้ชัดเจนเช่นนี้ จึงช่วยผู้ประกอบการ SME ได้มหาศาล ผู้ที่ต้องทำตามประกาศเครดิตเทอม สำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติตามประกาศข้างต้น คือ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนทุกรายที่ซื้อสินค้า/บริการจาก ธุรกิจ SMEs ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ด้วยการกำหนดเครดิตเทอมภายใน 30-45 วันตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษตามมาอีกด้วย รายละเอียดเกี่ยวกับประกาศเครดิตเทอม ในส่วนของระยะเวลาเครดิตเทอมที่ได้กำหนดไว้ 30-45 วัน แบ่งได้ตามประเภทของสินค้าหรือบริการ โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้ นอกจากนี้ในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน เช่น ใบสั่งซื้อ ใบแจ้งหนี้ หรือใบกำกับภาษี จำเป็นต้องระบุวันชำระเงินไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้หากมีเหตุผลอันสมควรให้มีเครดิตเทอมเกิน 45 วันสามารถทำได้ตามการตกลงร่วมกันระหว่างคู่ค้า แต่หากไม่มีเหตุผลที่มากพอถือว่าเป็นความผิด ใครบ้างที่ถือว่าเป็น SME ภายใต้ประกาศเครดิตเทอม? ทาง กขค. ก็ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ ที่ใช้พิจารณาว่าธุรกิจประเภทไหนถึงเข้าข่ายเป็นธุรกิจ SME โดยมีการกำหนดธุรกิจแต่ละรูปแบบได้ 2 ประเภทดังนี้ หากธุรกิจของคุณ หรือคู่ค้าของคุณ เข้าข่ายข้อกำหนดข้างต้นก็หมายความว่าเป็นธุรกิจ SME และต้องให้เครดิตเทอมตามที่กฎหมายกำหนดด้วยนั่นเอง ทั้งนี้ในธุรกิจอาจมีทั้งการขายสินค้าและให้บริการที่มีการจ้างงานไม่เกินที่กำหนด ให้พิจารณาเงื่อนไขโดยใช้เกณฑ์ของรายได้หลักมาพิจารณา ยกตัวอย่าง เช่น ธุรกิจ A ทำธุรกิจผลิตสินค้าและให้บริการ มีการจ้างงาน 120 คน โดยมีรายได้จากการผลิตสินค้าขาย 500 ล้านบาท/ปี และธุรกิจให้บริการ 200 ล้านบาท/ปี หมายความว่าธุรกิจ A มีรายได้หลักจากการผลิตสินค้า จึงต้องใช้เกณฑ์การพิจารณาของ “ธุรกิจขายสินค้า: รายได้สูงสุดไม่เกิน 500 ล้านบาท/ปี”ซึ่งหากพิจารณาจากตัวเลขแบบแยกประเภทการขายสินค้าและบริการแล้วอาจเข้าใจว่ายังถือว่าเป็น SME อยู่ แต่หากนำตัวเลขรายได้มารวมกันเกินได้ 700 ล้านบาท/ปี ซึ่งเกินกำหนดของธุรกิจขายสินค้าที่ 500 ล้านบาท/ปี หมายความว่าธุรกิจ A จะไม่ถือว่าเป็น SME บทลงโทษ และช่องทางร้องเรียน กฎหมายเครดิตเทอมสำหรับ SME มีบทลงโทษกำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมีบทลงโทษเป็นการปรับเงินสูงสุด 10% ของรายได้ต่อปี นอกจากนี้ประกาศยังได้ระบุพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมที่สามารถร้องเรียนได้ โดยมีทั้งหมด 3 พฤติกรรมดังนี้ 1. การประวิงเวลาไม่ยอมชำระหนี้ตามที่เครดิตเทอมกำหนด การประวิงเวลาหรือการที่ผู้ซื้อไม่ชำระหนี้ตามเครดิตเทอมที่ได้ตกลงกันไว้ โดยไม่ได้มีเหตุผลอันสมควรแก่การขยายเวลาชำระหนี้ ซึ่งพฤติกรรมนี้เข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้า 2. เปลี่ยนแปลงระยะเวลาเครดิตเทอม การเปลี่ยนระยะเวลาให้เครดิตเทอม หากไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าภายใน 60 วัน และไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ถือว่าเป็นความผิดเช่นเดียวกัน 3. พฤติกรรมลักษณะอื่น ด้วยอำนาจต่อรองของธุรกิจ SME ที่อาจมีน้อยกว่าคู่ค้าในบางครั้ง อาจทำให้เกิดการเอาเปรียบกันเกิดขึ้น ซึ่งพฤติกรรมลักษณะอื่น เช่น การกำหนดเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมที่เป็นการสร้างภาระให้แก่ธุรกิจ SME โดยไม่จำเป็น หากธุรกิจ SME พบพฤติกรรมเหล่านี้ของคู่ค้าในการทำธุรกิจร่วมกันสามารถร้องเรียนได้ผ่านช่องทาง รู้ข้อกฎหมายไว้ ไม่ถูกเอาเปรียบ ในการทำธุรกิจ การรู้ข้อกฎหมายให้ครอบคลุมมากที่สุดช่วยลดโอกาสถูกการเอาเปรียบได้ โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่อำนาจต่อรองไม่สูง หลายครั้งโดนตั้งเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายจากคู่ค้า เมื่อไม่ถูกเอาเปรียบ ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ติดตามบทความจาก PEAK ที่นำเสนอความรู้ทางธุรกิจตั้งแต่บัญชี ภาษี ไปจนถึงข่าวสารข้อกำหนดกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ! สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่อง และอยากเข้าใจการใช้เครดิตเทอมอย่างถูกต้อง นอกจากการศึกษากฎหมายเครดิตเทอมแล้ว คุณยังสามารถเลือกใช้บริการเครดิตเทอมจากผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ เช่น OfficeMate ที่สรุปขั้นตอนและเงื่อนไขการขอเครดิตเทอมออนไลน์ไว้ สร้างใบแจ้งหนี้ออนไลน์ใน 1 นาที ปัจจุบัน ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ต่างหันมาใช้ใบแจ้งหนี้ออนไลน์กันมากขึ้น เพราะสร้าง QR Code ให้ลูกค้าชำระเงินได้สะดวกและลดขั้นตอนการรับชำระได้อย่างมาก บทความนี้จึงขอแนะนำให้ลองสร้างใบแจ้งหนี้ออนไลน์แบบง่ายๆ ผ่านโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK ซึ่งใช้งานไม่ซับซ้อน และมีข้อดีที่ช่วยให้ธุรกิจทำงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ดังนี้ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า OFM! สำหรับลูกค้า OfficeMate (OFM) ที่ต้องการจัดการเอกสารและบัญชีอย่างมืออาชีพ เรามีตัวช่วย!PEAK คือ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่ทำให้การทำบัญชี การเงิน และภาษีเป็นเรื่องง่ายและ อัตโนมัติ ช่วยลดงานเอกสารและประหยัดเวลาด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ (AI, API) แถมยังได้ข้อมูลธุรกิจแบบ Real-Time พิเศษ: ลูกค้า OFM ทดลองใช้ฟรี 30 วัน พร้อม ส่วนลดพิเศษ เมื่อสมัครแพ็กเกจรายปี!ให้ PEAK เป็นหลังบ้านดิจิทัลที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณ จัดการได้อย่างมืออาชีพ!ลงทะเบียนรับสิทธิ์:  ติดตาม OfficeMate ได้ที่ช่องทาง