วิธีเช็กกิจการที่จด VAT ผ่าน VATINFO 

การประกอบธุรกิจ มักมีการติดต่อซื้อขายสินค้าหรือบริการกับคู่ค้าหลายราย การตรวจสอบสถานะการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของคู่ค้า ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ กรมสรรพากรจึงได้พัฒนาระบบ VATINFO ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบสถานะการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของคู่ค้าได้ด้วยตัวเอง ผ่านระบบ “VATINFO” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ทำไมร้านค้าถึงคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)?

กิจการหรือร้านค้าคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ร้านค้าที่มียอดขายต่อปี เกินกว่า 1,800,000 บาท หรือ ประเภทธุรกิจที่ระบุไว้ในกฎหมาย ว่าต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ในปัจจุบันอยู่ที่ 7% ของมูลค่าสินค้าหรือบริการ (หลังหักส่วนลดแล้ว)

การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีข้อดีหลายประการ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ จดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ส่งผลดีกับธุรกิจอย่างไร

VATINFO คืออะไร

VATINFO หรือ ระบบค้นหาข้อมูลผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการโดยกรมสรรพากร
VATINFO ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในประเทศไทยได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาติดต่อกรมสรรพากรโดยตรง

ประโยชน์ของ VATINFO

  • ตรวจสอบว่าผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT ถูกต้องหรือไม่
  • ช่วยค้นหาชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร สาขาและวันที่จดทะเบียน
  • ตรวจสอบว่าคู่ค้าจดทะเบียน VAT ถูกต้องหรือไม่
  • ป้องกันการถูกหลอกลวงจากผู้ประกอบการที่ไม่จดทะเบียน VAT

ขั้นตอนการเช็กรายชื่อกิจการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ผ่าน VATINFO

ขั้นตอนการเช็กรายชื่อกิจการที่จด VAT ผ่าน VATINFO
  1. เข้าเว็บไซต์ “VATINFO
  2. เลือกกรอก “เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร(13 หลัก)” หรือ “ชื่อผู้ประกอบการฯ”
  3. กดปุ่ม “ค้นหาข้อมูล”

ระบบจะแสดงข้อมูลกิจการชื่อ ที่อยู่ วันที่จดทะเบียนVAT ของสำนักงาน และสาขา (ถ้ามี)
ในกรณีที่กิจการที่ค้นหาไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจด VAT ระบบจะขึ้นคำว่า “เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรที่ท่านค้นหาไม่ใช่ผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม กรุณาตรวจสอบหรือทำรายการใหม่

ประโยชน์ที่ได้จากการเช็กกิจการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

ประโยชน์ที่ได้จากการเช็กกิจการที่จด VAT

สำหรับเหตุผลที่คนมักอยากรู้ว่ากิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แล้วหรือไม่ ส่วนใหญ่จะเป็นเหตุผลทางการค้าเพื่อตรวจสอบความมีตัวตนและดูว่าคนที่เราทำธุรกรรมด้วยสามารถออกใบกำกับภาษีให้เราได้ ขอสรุปสั้นเป็น 3 สาเหตุหลักๆ ดังนี้

1 ทำให้มั่นใจว่าได้รับใบกำกับภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย

การตรวจสอบสถานะการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ขายเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายกับกรมสรรพากร ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผู้ขายที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ใบกำกับภาษีเหล่านี้สามารถนำไปใช้หักภาษีซื้อหรือขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

2 เป็นการยืนยันว่ากิจการมีตัวตนอยู่จริง

การซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ขายที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของธุรกรรม และช่วยลดความเสี่ยงในการถูกหลอกลวง ทำให้บางธุรกิจจะค้าขายกับกิจการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เท่านั้น

3 สามารถตรวจสอบที่อยู่ที่ถูกต้องในการออกใบกำกับภาษีได้

ข้อมูลการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มักจะรวมถึงชื่อบริษัท ที่อยู่ และเลขทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้เพื่อตรวจสอบที่อยู่ที่ถูกต้องสำหรับการออกใบกำกับภาษีได้

จบไปแล้วกับวิธีเช็กง่ายๆ ว่ากิจการที่เราจะค้าขายด้วยจดภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT หรือไม่ ผ่านระบบ “VATINFO” ของกรมสรรพากร
นอกจากนี้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK ยังเชื่อมต่อข้อมูลกิจการที่จดภาษีมูลค่าเพิ่มให้โดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่สร้างรายชื่อผู้ติดต่อไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย เพียงแค่กรอกเลขนิติบุคคล 13 หลัก ระบบก็จะขึ้นรายชื่อกิจการ และที่อยู่ของกิจการนั้นให้อัตโนมัติ ช่วยลดงานและเวลาของนักบัญชีได้อย่างมาก

PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ช่วยผู้ประกอบการจัดการบัญชีอย่างเป็นระบบ รองรับการเติบโต ช่วยให้ธุรกิจก้าวไปสู่ความสำเร็จ
ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine