ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและความต้องการของลูกค้า โครงการ Easy E-Receipt 2.0 หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ ช้อปดีมีคืน ที่จัดขึ้นโดยกรมสรรพากร เป็นโอกาสสำคัญที่ร้านค้าไม่ควรพลาด โดยเฉพาะร้านค้าที่ต้องการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับรายละเอียดโครงการและการเตรียมความพร้อมสำหรับร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ

Easy E-Receipt 2.0 คืออะไร?

โครงการ Easy E-Receipt 2.0 เป็นโครงการที่กรมสรรพากรจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ร้านค้าหันมาใช้ระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt แทนการออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินในรูปแบบกระดาษ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ นอกจากนี้ การเข้าร่วมโครงการยังช่วยให้ร้านค้าสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหาธุรกิจที่มีความโปร่งใส

เช็กความพร้อมร้านค้า ก่อนเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 2.0

  1. ลงทะเบียนขอใช้ระบบ e-Tax Invoice ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร
    – ร้านค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อขอใช้ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt และ e-Tax Invoice by Time Stamp ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร โดยกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและแนบเอกสารที่จำเป็น เช่น ทะเบียนการค้า และข้อมูลเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
    -สามารถลงทะเบียนได้ที่
    – e-Tax Invoice by Time Stamp : https://www.rd.go.th/27659.html
    – e-Tax Invoice & e-Receipt : https://etax.rd.go.th/
  2. เตรียมโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่รองรับการออก e-Tax Invoice & e-Receipt
    เลือกใช้โปรแกรมบัญชีที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร เช่น PEAK ซึ่งสามารถช่วยให้คุณจัดการเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ติดสัญลักษณ์ “ETAX” ในร้านค้า
    เพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าร้านค้าของคุณสามารถออกเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt ได้ คุณควรติดสัญลักษณ์ “ETAX” ในบริเวณที่เห็นได้ชัด เช่น บริเวณหน้าร้านหรือบนเว็บไซต์
  4. จัดเตรียมโปรโมชั่นพิเศษในช่วงวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568
    เพื่อกระตุ้นการใช้บริการและดึงดูดลูกค้า คุณสามารถจัดโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้ e-Receipt หรือของแถมสำหรับการซื้อในช่วงโปรโมชั่น

ร้านค้าแบบใดที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้?

  • ร้านค้าที่ออกเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt ได้
    ร้านค้าที่มีระบบหรือโปรแกรมบัญชีที่รองรับการจัดทำเอกสารในรูปแบบ e-Tax Invoice & e-Receipt สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทันที
  • ร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
    หากร้านค้าของคุณจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คุณจะมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการได้โดยตรง
  • ร้านที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
    ร้านที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการขายหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และ e-book สามารถเข้าร่วมโครงการได้
  • ร้านค้าวิสาหกิจชุมชนและสินค้า OTOP

อย่างไรก็ตามยังมีร้านที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : สินค้าและบริการที่ไม่เข้าร่วม “Easy E-Receipt 2.0

PEAK ตัวช่วยออกเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt ของคุณ

PEAK เป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่รองรับการออก e-Tax Invoice & e-Receipt อย่างเต็มรูปแบบ โดยได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร จุดเด่นของ PEAK คือการช่วยให้ร้านค้าจัดการเอกสารทางบัญชีได้สะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง e-Tax Invoice การส่งเอกสารถึงลูกค้า หรือการบันทึกข้อมูลลงในระบบบัญชีโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ PEAK ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนส่งไปยังกรมสรรพากร ทำให้คุณมั่นใจได้ในทุกขั้นตอน

การเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ แต่ยังช่วยสร้างโอกาสในการกระตุ้นยอดขายให้ร้านค้า หากคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณเติบโตในยุคดิจิทัล การเตรียมตัวเข้าร่วมโครงการนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

PEAK พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจของคุณ สมัครใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์วันนี้ เพื่อก้าวเข้าสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล!

ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://www.peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine