ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย

การทำธุรกิจในปัจจุบันต้องเกี่ยวข้องกับเอกสารทางการเงินหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือใบหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่แสดงว่าเราถูกหักภาษีไว้แล้วเท่าไหร่ สามารถนำไปใช้ยื่นและขอคืนภาษีได้ ซึ่งใบหักภาษี ณ ที่จ่ายจะมีความหมาย ความสำคัญกับธุรกิจอย่างไรบ้าง และใครเป็นผู้ที่มีหน้าที่ออกเอกสารนี้ไปดูกัน

ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย คืออะไร

ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย คือ เอกสารที่ผู้จ่ายเงินออกให้แก่ผู้รับเงิน ว่ามีการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก่อนจะจ่ายเงินให้ผู้รับเงิน โดยใบนี้เป็นหลักฐานที่ผู้รับเงินสามารถใช้ในการยื่นภาษีประจำปีเพื่อขอคืนภาษีหรือชำระเพิ่มเติมได้

ใครต้องเป็นคนออกเอกสาร ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย

ผู้ที่มีหน้าที่ออกเอกสารใบหักภาษี ณ ที่จ่าย คือ ผู้จ่ายเงินและเป็นผู้ทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย ก่อนจ่ายเงินให้ผู้รับเงินที่เป็นทั้งบุคคลทั่วไปและบริษัทนิติบุคคล ซึ่งมีเอกสารในการออกต่ากัน ดังนี้

ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด.3

ผู้ที่ต้องออกใบหักภาษี ณ ที่จ่ายตามแบบ ภ.ง.ด.3 คือผู้จ่ายเงินให้แก่ผู้มีรายได้ที่เป็นบุคคลธรรมดา เช่น การจ่ายค่าจ้างฟรีแลนซ์ ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือค่าบริการต่าง ๆ โดยผู้จ่ายเงินต้องคำนวณและหักภาษีตามประเภทของเงินได้และอัตราที่กำหนด เอกสารนี้ต้องระบุรายละเอียดทั้งของผู้จ่ายเงินและผู้รับเงินให้ชัดเจน และต้องนำส่งภาษีที่หักไว้ให้กรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป

ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด.53

ใบหักภาษี ณ ที่จ่ายแบบ ภ.ง.ด.53 เป็นแบบที่ใช้สำหรับการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับที่เป็นนิติบุคคล เช่น บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นภาษีตามรอบระยะเวลาบัญชี การนำส่งภาษีต้องดำเนินการภายในกำหนดเวลาเช่นเดียวกับแบบ ภ.ง.ด.3

เงินได้ประเภทใดที่ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย?

เงินได้ที่ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย มีหลายประเภท แบ่งตามลักษณะของผู้รับเงินและประเภทของรายได้ โดยกรณีผู้รับเงินเป็นบุคคลธรรมดาจะใช้แบบ ภ.ง.ด.3 และกรณีผู้รับเงินเป็นนิติบุคคลจะใช้แบบ ภ.ง.ด.53 ทั้งนี้ อัตราการหักภาษีจะแตกต่างกันไปตามประเภทของเงินได้

อัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

อัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

การหักภาษี ณ ที่จ่าย มีอัตราที่แตกต่างกันตามประเภทของเงินได้และสถานะของผู้รับเงิน ซึ่งผู้จ่ายเงินต้องทำความเข้าใจอัตราการหักภาษีแต่ละประเภทให้ชัดเจน เพื่อหักภาษีได้อย่างถูกต้อง

ค่าจ้างและเงินเดือน 0%

กรณีเงินเดือนและค่าจ้างพนักงานประจำ จะมีการคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้าหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่าง ๆ หากหักแล้วรายได้พนักงานยังไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี นายจ้างไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่ถ้ามีการหักไว้แล้ว พนักงานสามารถขอคืนภาษีได้เมื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษีประจำปี

ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ 5%

การจ่ายค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้เช่ามีสิทธิในการถือกุญแจ เช่น การเช่าอาคารพาณิชย์ หรือ การเช่าออฟฟิศ จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตรา 5% ซึ่งแตกต่างจากการเช่าเพื่อจัดงานชั่วคราวที่จะถูกหักในอัตรา 3% ตามหมวดการจ้างบริการ

ค่าโฆษณา 2%

การจ่ายค่าบริการโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ ทั้งสื่อดิจิทัลและสื่อสิ่งพิมพ์จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตรา 2% แต่หากเป็นการตลาดอื่น ๆ เช่น การจ้างอินฟลูเอนเซอร์ หรือการจ้างที่ปรึกษาด้านการตลาด จะถูกหักในอัตรา 3%

ค่าขนส่ง 1%

บริการขนส่งโดยภาคเอกชนที่จดทะเบียนเป็นธุรกิจขนส่ง จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตรา 1% ยกเว้นบริการขนส่งของไปรษณีย์ไทยที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกหักภาษี

ตัวอย่างใบหักภาษี ณ ที่จ่าย

เพื่อให้เข้าใจรูปแบบและวิธีการกรอกข้อมูลในใบหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามีตัวอย่างเอกสารที่ถูกต้องตามมาตรฐานของกรมสรรพากร พร้อมคำอธิบายในแต่ละช่อง

ตัวอย่างใบหักภาษี ณ ที่จ่าย

การจัดการเรื่องการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นหน้าที่สำคัญของผู้ประกอบการที่ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ทั้งการหักภาษีในอัตราที่เหมาะสมตามประเภทรายได้ การออกใบหักภาษี ณ ที่จ่าย และการยื่นภาษีให้กรมสรรพากรตามกำหนดเวลา เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจมีความน่าเชื่อถือและป้องกันปัญหาด้านกฎหมายในอนาคต 

การจัดการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ประกอบการที่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งการหักภาษีในอัตราที่เหมาะสมตามประเภทของรายได้ การออกใบหักภาษี ณ ที่จ่าย และการยื่นภาษีให้กับกรมสรรพากรตามกำหนดเวลา เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือและป้องกันปัญหาด้านกฎหมายในอนาคต

การใช้ PEAK Tax เป็นตัวช่วยในการจัดการเรื่องหักภาษี ณ ที่จ่ายนั้น ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย โดยระบบของ PEAK จะช่วยคำนวณอัตราภาษีที่ต้องหักตามประเภทของรายได้และออกใบหักภาษี ณ ที่จ่ายให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังช่วยในการยื่นภาษีออนไลน์ให้กับกรมสรรพากรได้อย่างตรงเวลา ลดความเสี่ยงในการผิดพลาด และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจได้อย่างเต็มที่

ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://www.peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine