บ่อยครั้งผู้ประกอบการจ่ายค่าบริการหรือค่าจ้างทำของแต่ลืมหักภาษี ณ ที่จ่าย ผู้ประกอบการจะมีวิธึจัดการอย่างไร ก่อนอื่นเจ้าของกิจการควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่ายก่อนว่าคืออะไร
ความหมายของภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือ ภาษีที่ธุรกิจซึ่งเป็นนิติบุคคลหักไว้เมื่อมีการจ่ายเงิน ค่าจ้างทำของ ค่าขนส่ง ค่าบริการ เป็นต้น ให้กับผู้รับเงินทั้งที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา
สำหรับผู้รับที่เป็นบุคคลธรรมดา ประเภทของการจ่ายเงินที่ธุรกิจผู้จ่ายเงินต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายมี ดังนี้
1. การให้เช่าทรัพย์สิน หักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 5
2. ค่าตอบแทนจากการประกอบวิชาชีพอิสระ ได้แก่ กฎหมาย การประกอบโรคศิลปะ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี งานประณีตและศิลปกรรม หักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 3
3. งานรับเหมา ที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือ หักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 3
4. เงินรางวัลในการประกวด แข่งขัน ชิงโชค หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 5
5. ค่าโฆษณา หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 2
6. ค่าจ้างทำของ ค่าบริการ หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 3
7. เงินรางวัล ส่วนลด ประโยชน์จากการส่งเสริมการขาย หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ-3
8. ค่าขนส่ง หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 1
สำหรับผู้รับที่เป็นนิติบุคคล ประเภทของการจ่ายเงินที่ธุรกิจผู้จ่ายเงินต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายมี ดังนี้
1. ค่านายหน้า ค่าลิขสิทธิ์ หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 3
2. ดอกเบี้ยเงินฝาก ตั๋วเงิน หุ้นกู้ หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 1
3. การให้เช่าทรัพย์สิน หักภาษีร้อยละ 5
4. ค่าตอบแทนจากการประกอบวิชาชีพอิสระ ได้แก่ กฎหมาย การประกอบโรคศิลปะ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี งานประณีตและศิลปกรรม หักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 3
5. เงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไร หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 10
6. เงินรางวัลในการประกวด แข่งขัน ชิงโชค หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 5
7. ค่าจ้างทำของ ค่าบริการ หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 3
8. ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 1
9. ค่าขนส่ง หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 1
โดยจำนวนเงินขั้นต่ำที่ผู้จ่ายเงินต้องหักภาษีณที่จ่ายคือ 1,000 บาท ผู้หัก ณ ที่จ่ายมีหน้าที่ต้องนำส่งแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 53 กรณีผู้รับเงินได้เป็นนิติบุคคล และแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.3 กรณีผู้รับเป็นบุคคลธรรมดา
ลืมหักภาษี ณ ที่จ่ายจะต้องทำอย่างไร
ถ้าผู้ประกอบการลืมหักภาษี ณ ที่จ่าย เช่นกิจการจ่ายค่าบริการโดยปกติกิจการมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ต้องยื่นแบบต่อกรมสรรพากรภายใน 7 วันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงิน มีข้อแนะนำสำหรับกิจการดังนี้
1 พิจารณาว่าค่าใช้จ่ายนั้นสามารถนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้หรือไม่ โดยพิจารณาจากเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1.1 รายจ่ายนั้นเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจการหรือไม่
1.2 สามารถระบุตัวตนของผู้ให้บริการได้
1.3 มีการชำระค่าบริการนั้นจริง
ถ้าเข้าทั้ง 3 เงื่อนไขก็สามารถนำรายจ่ายนั้นมาหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้
2. ในกรณีที่ผู้รับเงินไม่ยอมให้หักภาษี ณ ที่จ่ายและกิจการต้องออกเงินจ่ายค่าภาษีแทน กิจการไม่สามารถนำภาษีที่ออกแทนให้นี้มาหักเป็นรายจ่ายของกิจการได้เพราะไม่ถือเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจการ ยกเว้นแต่มีสัญญาระบุตั้งแต่แรกว่ากิจการเป็นผู้ออกภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้
3. กิจการไม่ควรทิ้งบิลค่าใช้จ่ายดังกล่าว ในกรณีที่กิจการSMEsมีกำไรจะเสียภาษีนิติบุคคลในอัตรา 15-20%แต่ถ้าทิ้งบิลค่าใช้จ่ายจะทำให้เสียภาษีเพิ่ม 15-20% ในขณะที่ภาษีหัก ณ ที่จ่ายนำส่งในอัตรา1-5% ถึงแม้จะรวมค่าปรับก็ยังน้อยกว่า 15%
เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาลืมหักภาษี ณ ที่จ่าย กิจการควรจัดทำบัญชีอย่างมีระบบ การเลือกใช้โปรแกรมบัญชีที่ดีมีระบบการบันทึกบัญชีแบบอิเล็กทรอนิกส์ ในกรณีการบันทึกค่าบริการที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ระบบจะบันทึกรายการโดยอัตโนมัติและออกใบหักภาษี ณ ที่จ่ายให้เลย และสามารถเรียกรายงานภาษีหัก ณ ที่จ่ายเพื่อนำส่งภายในเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด ซึ่งจ่ะช่วยแก้ปัญหาการลืมหักภาษี ณ ที่จ่ายได้
PEAK เป็นโปรแกรมบัญชีที่ช่วยให้บัญชี/ภาษีง่ายสำหรับทุกคน มีระบบจัดการธุรกิจแบบออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ช่วยคุณจัดการเรื่องภาษีอย่างมีระบบ
สมัครใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี คลิก peakaccount.com
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง inbox ของ Facebook PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์
อ้างอิง: https//www.getinvoice.net/tax_withheld/ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายคืออะไร 15 พ.ค.2562 เพจผู้ประกอบการรุ่นใหม่ใส่ใจบัญชีและภาษี หัวข้อ: ลืมหักภาษี ณ ที่จ่าย สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้หรือไม่ 18 ส.ค. 2563