ระบบ e-Tax Invoice by E-mail เกิดจากโครงการระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ National E-payment ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐในการผลักดันระบบภาษีให้เข้าสู่ระบบดิจิทัล กรมสรรพากรได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์(กรอ.) ได้จัดทำระบบ e-Tax Invoice by E-mail ขึ้น
e-Tax Invoice by Email คืออะไร
e-Tax Invoice by Email เป็นการจัดทำใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ ในรูปอิเล็กทรอนิกส์ (E-Tax Invoice) มีการลงลายมือชื่อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature) แล้วส่งผ่านระบบของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.หรือ ETDA) เพื่อรับรองเวลาด้วยระบบE-mail
โดยผู้ประกอบการที่ประสงค์จะจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice by Email จะต้องยื่นคำขอแบบ ก.อ.๐๑ และต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมีการออกใบกำกับภาษีเป็นจำนวนไม่มาก และไม่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้สมบูรณ์ตามที่กรมสรรพากรกำหนด
ภาพรวมการทำงานระบบ e-Tax Invoice by E-mail
ข้อดีของ e-Tax Invoice by Email
1. เป็นการลดการใช้กระดาษ แต่จัดทำและจัดเก็บใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ ในรูปไฟล์อิเล็กทรอนิกส์แทน
2. เอกสารใบกำกับภาษีที่ได้สามารถนำไปใช้ได้ในทางบัญชีและภาษีเช่นเดียวกันกับ ใบกำกับภาษีที่ออกในรูปแบบที่เป็นกระดาษ โดยมีคุณสมบัติที่เหมือนกันทุกประการ
3. ลดขั้นตอนในการจัดส่งเอกสารให้แก่ลูกค้า โดยสามารถจัดส่งในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ทางอีเมลแทน
4. ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความคุ้นเคยกับการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการ เพื่อนำไปสู่การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่สมบูรณ์ในอนาคต
วิธีการออก e-Tax Invoice by Email โดย PEAK
หลังจากที่ผู้ประกอบการได้ยื่นคำขออนุมัติ การใช้ e-Tax Invoice by E-mail กับกรมสรรพากรและได้รับการอนุมัติให้ใช้งานแล้ว ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการใช้งานในโปรแกรม PEAK ได้ตามวิธีส่งใบกำกับภาษีผ่าน E-Tax Invoice by Email (R036) จาก คู่มือโปรแกรม PEAK
ติดตามความรู้จาก โปรแกรมบัญชี PEAK ได้ที่ peakaccount.com
หรือเข้าใช้งานโปรแกรม คลิก เข้าสู่ระบบ PEAK