เจ้าของกิจการควรรู้เรื่องภาษี

ภาษีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ กิจการส่วนใหญ่จะจ้างนักบัญชีไว้คอยดูแลจัดการเรื่องภาษีเพื่อมิให้เกิดประเด็นทางภาษีกับกรมสรรพากร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเจ้าของกิจการต้องตัดสินใจตั้งแต่ก่อนเริ่มธุรกิจว่าจะดำเนินธุรกิจแบบนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา ถ้าผู้ประกอบการมีความรู้เรื่องภาษีก็คงจะดีไม่น้อยสำหรับการดำเนินกิจการ วันนี้เราจึงนำข้อมูลที่เจ้าของธุรกิจควรรู้ว่าธุรกิจส่วนตัวเสียภาษียังไงมาฝากกัน

ก่อนรู้ ธุรกิจส่วนตัวเสียภาษียังไง ต้องรู้จักภาษีเงินได้ก่อน

ถึงแม้ธุรกิจจะจ้างนักบัญชีเป็นที่ปรึกษา เจ้าของธุรกิจก็ควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องภาษี ซึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการควรรู้ว่าธุรกิจส่วนตัวเสียภาษียังไง โดยประเภทภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนั้นมีหลายประเภท ดังนี้

  • ภาษีเงินได้  เป็นภาษีที่จัดเก็บจากเงินได้ของผู้ประกอบการประกอบด้วยภาษีครึ่งปีและภาษีประจำปีกรณีธุรกิจที่เป็นนิติบุคคล มีการยื่นภาษีครึ่งปีด้วยแบบภ.ง.ด.51 และภาษีประจำปีด้วยแบบ ภ.ง.ด.50
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีที่จัดเก็บจากการขายสินค้าหรือให้บริการในอัตรา 7% 
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีที่เกิดจากนิติบุคคลจ่ายเงินให้กับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ได้แก่ การจ่าย ค่าบริการ เป็นต้น และมีการหักภาษีไว้ก่อนที่จะจ่ายเงินเพื่อนำส่งกรมสรรพากร 
  • ภาษีอื่น ๆ ได้แก่ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีสรรพสามิต ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีป้าย อากรแสตมป์ เป็นต้น

เราจะไปเจาะลึกประเภทภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่สำคัญมาก ๆ นั่นคือ “ภาษีเงินได้” ซึ่งภาษีเงินได้นั้นก็มีหลายประเภท และมีอัตราภาษีที่เราต้องจ่ายแตกต่างกัน 

ทำธุรกิจส่วนตัวต้องเสียภาษีเงินได้แบบไหน? 

เจ้าของธุรกิจรายเล็กที่ทำธุรกิจส่วนตัวต้องเสียภาษีในรูปแบบ “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” ซึ่งครอบคลุมทั้งกรณีที่เป็นเจ้าของคนเดียวหรือทำธุรกิจร่วมกับผู้อื่นแบบไม่จดทะเบียน เช่น ร้านค้าออนไลน์ ฟรีแลนซ์ หรือร้านขายของชำ  แม้จะมีการแบ่งผลกำไรกัน ก็ยังถือว่าเป็นบุคคลธรรมดา 

เงินได้อะไรบ้างที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เรียกว่า “เงินได้พึงประเมิน” ประกอบด้วย เงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส รายได้จากวิชาชีพอิสระ กำไรจากการขายสินค้าหรือบริการ ค่าเช่า ดอกเบี้ย เงินปันผล รางวัล รวมถึงผลประโยชน์อื่น ๆ ที่คิดคำนวณเป็นเงินได้ ซึ่งได้รับในรอบปีภาษี (1 มกราคม – 31 ธันวาคม)

อัตราภาษีสำหรับประเภทธุรกิจบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล

โดยปกติก่อนเริ่มกิจการผู้ประกอบการต้องตัดสินใจเลือกประเภทธุรกิจว่าจะเป็นแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ซึ่งมีอัตราการเสียภาษีที่แตกต่างกัน ดังนี้


อัตราภาษี

เมื่อเริ่มต้นธุรกิจถ้ากิจการคาดว่ารายได้ต่อปีจะเกิน 750,000 บาทก็ควรเลือกประกอบธุรกิจในรูปบริษัท เนื่องจากอัตราภาษีอยู่ที่ 15% ซึ่งจะประหยัดภาษีมากกว่ากรณีบุคคลธรรมดา  

สิทธิประโยชน์ทางภาษี

ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ควรทราบถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ภาครัฐมีมาตรการในการสนับสนุนธุรกิจ SMEs  ได้แก่

การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้ทรัพย์สินมา

ได้แก่ ทรัพย์สินประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์ หักค่าเสื่อมราคาในอัตรา40% ของมูลค่าต้นทุน เป็นต้น

การจ้างงานผู้สูงอายุ ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ค่าจ้างไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท 

กิจการสามารถหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่า 

ข้อดีของการที่ผู้ประกอบการรู้เรื่องภาษี

ถ้าเจ้าของธุรกิจรู้เรื่องภาษี แน่นอนว่าจะต้องเป็นผลดีต่อกิจการ โดยทาง PEAK ได้แบ่งเป็นข้อ ๆ ดังนี้ 

1 ช่วยกิจการประหยัดภาษีได้

ผู้ประกอบการที่เข้าใจเรื่องภาษี โดยแยกรายจ่ายส่วนตัวกับรายจ่ายของกิจการออกจากกัน ทำให้กิจการประหยัดภาษีได้ เพราะแยกรายจ่ายส่วนตัวซึ่งเป็นรายจ่ายต้องห้ามออกไป นอกจากนี้การที่เจ้าของกิจการรู้เรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็จะช่วยให้กิจการประหยัดภาษีได้ 

2 ช่วยผู้ประกอบการในการวางแผนการจัดการ

ผู้ประกอบการที่รู้ภาษีสามารถวางแผนเลือกทรัพยากรหรือดำเนินกิจกรรมที่นำมาซึ่งสิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้แก่ การจัดหาเครื่องจักร การเลือกใช้ทรัพยากรบุคคล การจัดฝึกอบรม หรือแม้แต่การใช้เลือกโปรแกรมบัญชีที่ช่วยผู้ประกอบการในการจัดทำภาษีได้ถูกต้องรวดเร็วอย่างโปรแกรมPEAK ที่ให้ตัวเลขภาษีถูกต้องครบถ้วนและสามารถยื่นแบบได้ทันตามกำหนดเวลา  

3 ช่วยผู้ประกอบการในการคำนวณต้นทุนสินค้าได้อย่างถูกต้อง

ภาษีธุรกิจส่วนใหญ่แปรผันตามราคาสินค้า ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต ภาษีเงินได้ เป็นต้น เมื่อผู้ประกอบการเข้าใจภาษีธุรกิจก็จะคำนวณต้นทุนสินค้าได้อย่างถูกต้อง

4 ลดความเสี่ยงในการเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม

การที่เจ้าของกิจการรู้เรื่องภาษีทำให้กิจการเสียภาษีถูกต้องและยื่นแบบได้ทันตามกำหนดเวลา จึงลดความเสี่ยงในการเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม

เห็นแล้วใช่ไหมครับว่า การที่เจ้าของกิจการรู้เรื่องภาษี จะสามารถช่วยให้องค์กรได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นมหาศาล ทางเจ้าของธุรกิจ จึงควรเริ่มหาข้อมูลไว้ หรืออาจจะใช้ PEAK เข้ามาช่วยดูแล ทำให้เข้าใจข้อมูลง่ายขึ้นได้ด้วยครับ

โปรแกรมบัญชีPEAK  มีPEAK  Board เป็น New Feature ที่ช่วยสรุปข้อมูลผลประกอบการ การจัดประเภทค่าใช้จ่าย ในรูป Dashboard ให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ในการวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดตามความรู้จาก โปรแกรมบัญชี PEAK ได้ที่ peakaccount.com
หรือเข้าใช้งานโปรแกรม คลิก เข้าสู่ระบบ PEAK

อ้างอิง

เรื่องภาษีที่เจ้าของกิจการต้องรู้

5 ข้อคิดภาษีธุรกิจ เรื่องที่ผู้ประกอบการควรรู้, ลงทุนศาสตร์ investor, 19 พฤษภาคม 2563