หากเราเริ่มกิจการโดยมีข้อมูลเก่าอยู่แล้ว และต้องการนำข้อมูลเข้ามาใน PEAK จะมีเทคนิคการนำข้อมูลเข้ามาดังนี้
1. กำหนดวันที่จะเป็นยอดยกมา
เมื่อเราต้องการเริ่มต้นการใช้งานบน PEAK และนำยอดยกมาด้วย ลำดับแรกที่เราต้องพิจารณาก่อนก็คือวันที่จะเริ่มต้นใช้งานบน PEAK วันที่เหมาะสมสามารถเริ่มต้นได้ทั้งต้นปี (01 ม.ค. XX) หรือเริ่มระหว่างปีก็ได้ (01 เม.ย. XX)
วันที่ที่เราจะเริ่มต้นใช้งานจะเป็นตัวกำหนดว่าข้อมูลเก่าที่จะยกมานั้น จะต้องเป็นวันที่เท่าไหร่
เทคนิค : ถ้าเรากำหนดวันที่เริ่มต้นเป็นวันที่ 01 ม.ค. ข้อดีคือ เราสามารถดูข้อมูลบัญชีของทั้งปีได้ในระบบเดียวเลย แต่หากเราไม่ได้ยกมาตั้งแต่ต้นปี เราจะต้องเก็บข้อมูลบัญชีไว้ทั้ง 2 ระบบ (ระบบเดิม กับระบบ PEAK) เพื่อให้สามารถดูรายละเอียดของข้อมูลเก่าได้
2. เตรียมข้อมูล
เมื่อกำหนดวันที่เริ่มต้นใช้งานได้แล้ว สิ่งต่อมาที่จะต้องเตรียมตัวก็คือข้อมูลที่จะนำมาเป็นยอดยกมา โดยข้อมูลจะมีอยู่ 3 ส่วน คือข้อมูลระบบ ข้อมูลรายการ และข้อมูลบัญชี
ส่วนที่ 1 : ข้อมูลระบบ
ข้อมูลระบบ ข้อมูลที่มีไว้เพื่อในระบบพร้อมใช้งาน ที่เราต้องเตรียมการจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ
- ข้อมูลผู้ติดต่อ (ลูกหนี้/เจ้าหนี้) ที่เป็นรายชื่อ ที่อยู่ หรือเลข 13 หลัก เป็นต้น แนะนำให้เตรียมในรูปแบบ Excel ตาม Format ของ PEAK
- สินค้าคงเหลือ เป็นจำนวนสินค้าคงเหลือ และราคาทุนของสินค้านั้นๆ แนะนำให้เตรียมในรูปแบบ Excel ตาม Format ของ PEAK
- ยอดเงินในช่องทางการเงิน เช่น 1) เงินสดย่อย 2) เงินฝากธนาคาร 3) เช็ครอขึ้นเงิน 4) เช็ครอตัดเงิน 5) ยอดสำรองรับ/จ่าย (เช่น กรรมการจ่ายแทนกิจการ)
ข้อมูลที่นำมาเป็นยอดตั้งต้นสามารถนำเข้ามาหลังจากเริ่มใช้งานได้ (ทำรายการย้อนหลังได้) อย่างไรก็ตามข้อมูลที่แนะนำว่าควรมีให้เรียบร้อยก่อน คือ ข้อมูลสินค้า เนื่องจากในระบบ PEAK จะคิดต้นทุนแบบ FIFO ทำให้เวลาของการทำรายการมีผลต่อต้นทุน หากทำรายการไปก่อนแล้วมาเปลี่ยนทีหลัง อาจจะทำให้ข้อมูลต้นทุนคลาดเคลื่อนได้ อย่างไรก็ตามเราสามารถปรับปรุงการคำนวณต้นทุนได้โดยการทำรายการปรับปรุงในสมุดบัญชีรายวันอยู่ดี
ส่วนที่ 2 : ข้อมูลรายการ
ข้อมูลรายการที่มีก่อนเริ่มต้นใช้งาน แต่ส่งผลต่อวันที่หลังเริ่มต้นใช้งาน เช่น
- ข้อมูลใบแจ้งหนี้(ลูกหนี้) ที่ยังไม่ได้รับชำระเงิน หรือยังมีเช็ครับรอขึ้นเงิน (Outstanding Invoice – Account Receivable : AR)
- ข้อมูลใบแจ้งหนี้(เจ้าหนี้) ที่ค้างชำระ หรือยังมีเช็ครอตัดจ่ายเงิน (Outstanding Invoice – Account Payable : AP)
ข้อมูลรายการที่ยังคงมีผลอยู่ (Outstanding transaction) คือรายการที่เราจะต้องทำรับชำระ หรือจ่ายชำระหลังจากวันที่เริ่มต้นใช้ PEAK และรวมไปถึงการขึ้นเงินเช็ค หรือตัดจ่ายเช็คด้วย
ส่วนที่ 3 : ข้อมูลบัญชี
ข้อมูลบัญชีที่เราต้องเตรียมตัวก่อนนำเข้ามาก็คือ งบทดลอง (Trial Balance) ซึ่งหากเริ่มต้นใช้งานวันที่ 01 ม.ค. XX เราจะใช้เป็นงบทดลองสิ้นปี (งบทดลองที่ปิดงบแล้ว ณ วันที่ 31 ธ.ค. XX) นั่นคือจะใส่เฉพาะยอดที่เป็นบัญชี สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ
แต่หากเรานำเริ่มต้นใช้งานระหว่างปี งบทดลองที่นำมาใช้ จะเป็นงบทดลอง ณ วันที่ก่อนเริ่มต้นใช้งาน PEAK เช่น ถ้าเราต้องการเริ่มต้นใช้งาน 01 เม.ย. XX ข้อมูลในงบทดลองที่นำมาจะเป็นวันที่ตั้งแต่เริ่มต้นปี 01 ม.ค. XX ถึง 31 มี.ค. XX เป็นต้น โดยข้อมูลสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ จะเป็นของวันที่ 31 มี.ค. XX ส่วนรายได้ และค่าใช้จ่าย จะเป็นยอดระหว่างวันที่ 01 ม.ค. XX ถึง 31 มี.ค. XX เป็นต้น
โดยงบทดลองที่เตรียมไว้นี้ เราอาจจะต้องปรับปรุงรายการบางส่วนก่อนที่จะบันทึกเข้าไปในระบบซึ่งจะกล่าวในตอนต่อๆไป
ดูข้อมูลทั้งชุด
ตอนที่ 1 : ข้อมูลและวิธีการเตรียมตัวทำยอดยกมา Prepare Data for beginning balance
ตอนที่ 2 : การนำข้อมูลผู้ติดต่อเข้ามาในระบบ (Import Contact to PEAK)
ตอนที่ 3 : การนำข้อมูลสินค้า/บริการเข้ามาในระบบ (Import Product to PEAK)
ตอนที่ 4 : การนำบันทึกข้อมูลการเงินตั้งต้น (Input Finance to PEAK)
ตอนที่ 5 : การนำบันทึกข้อมูลลูกหนี้ตั้งต้น (Input Beginning Account Receivable to PEAK)
ตอนที่ 6 : การนำบันทึกข้อมูลเจ้าหนี้ตั้งต้น (Input Beginning Account Payable to PEAK)
ตอนที่ 7 : การนำบันทึกข้อมูลบัญชีตั้งต้น (Input Beginning Accounting Balance to PEAK)