สินทรัพย์หมุนเวียนเป็นส่วนสำคัญของงบการเงิน มีส่วนช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ดีและมั่นคงมากขึ้น การมีสินทรัพย์หมุนเวียนที่เพียงพอจะช่วยบริษัทรักษาสภาพคล่องได้ ทั้งการชำระหนี้สินในระยะสั้น และใช้เป็นงบประมาณในดำเนินกิจการให้ไม่สะดุดด้านค่าใช้จ่ายประจำวัน สำหรับใครยังไม่รู้จักว่าสินทรัพย์หมุนเวียนคืออะไร ธุรกิจต่าง ๆ ควรมีสินทรัพย์นี้หรือไม่ เรามีคำตอบมาฝากกัน
สินทรัพย์หมุนเวียน คืออะไร
สินทรัพย์หมุนเวียน คือ สินทรัพย์ที่สามารถแปลงเป็นเงินสดเพื่อนำมาใช้จ่ายในธุรกิจประจำวันให้ยังคงมีสภาพคล่องได้โดยไม่สะดุด ไม่ว่าตลาดตอนนั้นจะเป็นอย่างไรธุรกิจก็จะมีเงินรองรับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอนได้ โดยสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ภายใน 1 รอบระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจหรือ 1 ปี ซึ่งแบ่งออกเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน 10 ชนิดด้วยกัน เช่น เงินสด บัญชีลูกหนี้ สินค้าคงคลัง และรายได้ค้างรับ เป็นต้น
สินทรัพย์หมุนเวียน 10 ชนิด มีอะไรบ้าง
สินทรัพย์หมุนเวียนสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสามารถในการเปลี่ยนสภาพเป็นเงินสด ภายในระยะเวลาอันสั้น เช่น
- เงินสด (Cash) สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสุด และพร้อมใช้ได้ทันที ยิ่งมีเยอะ ยิ่งดี
- เงินฝาก (Bank deposit) สามารถฝากถอนได้ตามต้องการ มีสภาพคล่องใกล้เคียงกับเงินสด นอกจากนี้ เช็คเงินสดที่ขึ้นเงินแล้วและที่ยังไม่ขึ้นเงินก็นำมานับในส่วนนี้ด้วย
- ลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable) เงินที่ลูกค้าซื้อสินค้าแต่ยังไม่ได้ชำระเงินให้กับเรา แต่คาดว่าจะได้รับในอนาคต เช่น ลูกค้ามีการจ่ายเงินแบบผ่อนจ่าย หรือมีการตกลงระยะเวลาชำระ (credit term) ทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าไปก่อนและชำระเงินมาตามที่ตกลงกันข้างต้น
- สินค้าคงคลัง (Inventory ) วัตถุดิบที่อยู่ในกระบวนการผลิต และสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตเสร็จแล้วพร้อมรอจำหน่าย ล้วนนับเป็น สินทรัพย์หมุนเวียนทั้งสิ้น แต่ในกรณีที่มีสินค้าคงคลังมากผิดปกติ อาจหมายถึงสุขภาพของธุรกิจที่แย่ เช่น การขายสินค้าไม่ออก
- รายได้ค้างรับ (Accrued Revenue) รายได้ที่มีแนวโน้มที่จะได้รับในอนาคตจากการทำธุรกิจ เช่น ดอกเบี้ยจากการลงทุน หรือ ค่าเช่ารายเดือนในธุรกิจอสังหาฯ ที่มีการบันทึกรายได้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เป็นต้น
- เงินลงทุนชั่วคราว (Short Term Investment) เงินที่ทางบริษัทนำไปลงทุนในสินทรัพย์ระยะสั้นที่มีความเสี่ยงน้อยประเภทต่าง ๆ โดยบริษัทอาจจะลงทุนไม่เกิน 1 ปี เช่น หุ้น หรือ ตราสารหนี้
- ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า (Prepaid Expenses) ค่าบริการหรือสินค้าที่จ่ายล่วงหน้าสำหรับประโยชน์ในอนาคต เช่น ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายเพื่อจะได้รับความคุ้มครองหรือประโยชน์จากการหลักประกันในอนาคต
- วัสดุสำนักงาน (Supplies) อุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ ที่ใช้แล้วหมดไปใน 1 ปี เช่น กระดาษ แฟ้ม ปากกา แม็กเย็บกระดาษ และอื่น ๆ
- ตั๋วรับเงิน (Notes Receivable) บริษัทจะได้รับตั๋วและเงินตามที่ระบุในสัญญา เช่น สัญญาซื้อ-ขาย สัญญากู้ยืม โดยตั๋วรับเงินสามารถเป็นได้ทั้งสินทรัพย์หมุนเวียนและไม่หมุนเวียน
- เงินให้กู้ยืมระยะสั้น (Short Term Loan) คือ เงินที่ให้บริษัทให้ผู้อื่นกู้ยืมและต้องได้รับชำระคืนภายใน 1 ปี
ข้อดีของการมีสินทรัพย์หมุนเวียน
การมีสินทรัพย์หมุนเวียนเพียงพอ ช่วยให้การทำธุรกิจไม่สะดุดและมีความมั่นคงในอนาคต มีสภาพคล่องทางการเงินในการชำระหนี้ระยะสั้นและพอสำหรับใช้ดำเนินงาน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินให้ธุรกิจรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนได้โดยไม่เกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง และการมีสินทรัพย์หมุนเวียนเพียงพอจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นจากผู้ร่วมลงทุนให้ธุรกิจได้
สินทรัพย์หมุนเวียนมีประโยชน์อย่างไรต่อนักลงทุน
สินทรัพย์หมุนเวียนเป็นข้อมูลสำคัญที่นักลงทุนใช้วิเคราะห์สุขภาพทางการเงินของบริษัท โดยจะช่วยวิเคราะห์สภาพคล่อง ทั้งยังช่วยให้นักลงทุนประเมินความเสี่ยงและความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทได้ หรือช่วย ทำให้นักลงทุนสามารถพิจารณาความเสี่ยงอันเกี่ยวเนื่องกับการลงทุนในบริษัทนั้น ๆ และช่วยตัดสินใจลงทุนในบริษัทดีขึ้นด้วย
สินทรัพย์หมุนเวียนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การทำธุรกิจ โดยเป็นทรัพยากรที่สามารถแปลงสภาพเป็นเงินสดได้ภายในระยะเวลาอันสั้น การมีสินทรัพย์หมุนเวียนที่เพียงพอช่วยให้ธุรกิจรักษาสภาพคล่องและปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนได้เป็นได้ดี นอกจากนี้ นักลงทุนยังใช้ข้อมูลนี้ในการวิเคราะห์สุขภาพทางการเงินประเมินความแข็งแกร่งของธุรกิจ และตัดสินใจลงทุนในบริษัทได้
PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เราพร้อมช่วยผู้ประกอบการจัดการบัญชีอย่างเป็นระบบ รองรับการเติบโต ช่วยให้ธุรกิจก้าวไปสู่ความสำเร็จ
ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://www.peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine
