
ในการทำธุรกิจการ บริหารเงินสด เป็นปัจจัยช่วยให้มีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่ก็มีหลายธุรกิจที่กำลังประสบภัยการเงิน ที่ถึงแม้จะขายดีแต่กลับไม่มีเงินสดหมุนเวียนเพียงพอ และเพื่อเป็นส่วนช่วยให้เจ้าของธุรกิจจัดการเงินสดได้ดีขึ้น ในบทความนี้เราจึงนำเคล็ดลับการบริหารเงินสดมาแนะนำกัน!
การบริหารเงินสดคืออะไร? ในความหมายเชิงธุรกิจ

บริหารเงินสด คือ การจัดการกับรายรับรายจ่ายของธุรกิจ เพื่อให้สามารถบริหารสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ เงินสดขาดมือ หมุนเงินไม่ทัน เพื่อให้เจ้าของกิจการมั่นใจได้ว่ามีเงินเพียงพอสำหรับชำระหนี้ หรือดำเนินการต่างๆ เช่น การจ่ายเงินเดือนพนักงาน รวมไปถึงการนำไปลงทุนต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้เติบโต
ซึ่งวิธีการบริหารเงินสดสามารถทำได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การตรวจสอบเงินเข้าเงินออกอย่างใกล้ชิด วางแผนการชำระเงิน หรือการบริหารเงินทุนที่จะเข้ามาหมุนเวียนในธุรกิจ
เหตุผลที่เจ้าของกิจการต้องบริหารเงินสดเป็น
เงินสด เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงธุรกิจให้ดำเนินการต่อได้ ถ้าธุรกิจที่ขาดการบริหารเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้เงินขาดมือ ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ไม่มีเงินจ่ายลูกน้อง ซึ่งปัญหานี้หากปล่อยไว้อาจทำให้จัดการเงินไม่ทันเป็นงูกินหาง และอาจเป็นจุดจบของธุรกิจได้เลย
ดังนั้นเพื่อให้ไม่เกิดปัญหานี้กับธุรกิจที่เราปลุกปั้นขึ้นมา การบริหารเงินสด จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของกิจการทุกคนควรรู้ เพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
7 สัญญาณเตือน “ธุรกิจเริ่มเสี่ยงเงินไม่พอใช้”
ซึ่งปัญหาเงินขาดมือของธุรกิจก็มักมาพร้อมกับสัญญาณที่คอยเตือนตั้งแต่เนิ่น ๆ เรามีเช็กลิสต์สัญญาณเตือนภัยเสี่ยงเงินช็อตของธุรกิจ ให้คุณสามารถนำไปเช็คสุขภาพการเงินของธุรกิจของคุณได้
| สัญญาณเตือนธุรกิจ | แปลว่า / ความหมาย |
| 1. ต้องยืมเงินส่วนตัวมาช่วยธุรกิจบ่อย | หมุนเงินไม่ทัน รายจ่ายเกินรายรับ หรือระบบเงินสดไม่พอใช้ |
| 2. ยอดขายเข้า แต่เงินสดลดลง | กระแสเงินสดไม่สัมพันธ์กับยอดขาย อาจเก็บเงินลูกค้าไม่ได้หรือจ่ายออกเกินตัว |
| 3. ลูกค้าค้างจ่ายบ่อย หรือเกินกำหนดบ่อยครั้ง | เงินสดรับเข้าช้ากว่าที่ควร ธุรกิจเริ่มขาดสภาพคล่องชั่วคราว |
| 4. ต้องจ่ายเจ้าหนี้ช้า หรือขอขยายเวลา | มีปัญหากระแสเงินสดระยะสั้น อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจ |
| 5. ไม่รู้ว่าเดือนนี้ใช้เงินไปกับอะไรบ้าง | ขาดการควบคุมค่าใช้จ่าย ไม่มีระบบติดตามการเงินที่ชัดเจน |
| 6. ไม่มีเงินสำรองเผื่อเหตุฉุกเฉิน | เสี่ยงสูง หากยอดขายตกหรือมีเหตุไม่คาดคิด จะขาดเงินหมุนทันที |
| 7. ไม่มีรายงานสภาพคล่อง (Cash Flow Report) | ตัดสินใจจากความรู้สึก ไม่ใช่จากข้อมูลจริง เสี่ยงบริหารผิดพลาด |
3 วิธีการบริหารเงินสดให้คล่องตัว สำหรับเจ้าของธุรกิจ
การบริหารเงินสดให้คล่องตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจสามารทำได้หลายวิธี แต่ในบทความนี้เราหยิบ 3 หัวใจสำคัญของการบริหารเงินสด ที่จะช่วยควบคุมสภาพคล่องของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
1. บริหารสินค้าคงคลัง (Inventory) : เปลี่ยน “ของ” ให้เป็น “เงิน” ไวที่สุด
ปัญหาเงินสดขาดมือ อาจก่อตัวตั้งแต่ในโกดังสินค้า เพราะหากไม่สามารถบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory) ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะกลายเป็นต้นทุนที่จมอยู่ในสต๊อก การบริหารสต๊อกสินค้าให้สามารถขายออกได้ไวที่สุด ไม่ให้เกิดสินค้าค้างสต๊อก (Dead Stock) ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจได้
1.1 วิเคราะห์ข้อมูลการขาย (Sales Data Analysis)
การใช้ข้อมูลช่วยให้จัดการในด้านการวางแผนการขายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น ผู้ประกอบการสามารถดูข้อมูลย้อนหลังนำมาวิเคราะห์หาสินค้าขายดีเพื่อใช้ในการจัดลำดับความสำคัญในการสั่งซื้อสินค้าไปจนถึงการสต๊อกสินค้าล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสม ลดโอกาสเกิดเหตุการณ์สินค้าขายไม่ออกจนค้างสต๊อก
นอกจากนี้การวิเคราะห์ข้อมูลยังสามารถต่อยอดเป็นการวางแผนการตลาด เจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
1.2 ใช้ระบบ เข้าก่อน-ออกก่อน (First-In, First-Out)
อีกหนึ่งเคล็ดลับที่บางท่านอาจคุ้นกันในชื่อ FIFO คือการบริหารสต๊อกสินค้าด้วยการเลือกขายสินค้าที่ใกล้วันหมดอายุ หรือมีความเสี่ยงตกรุ่นก่อน
หากไม่มีการบริหารตรงนี้ อาจทำให้ทั้งสองกลายเป็นสินค้าที่ถูกลืม และกลายเป็นเงินทุนจมเปลี่ยนเป็นยอดขายไม่ได้เลยนั่นเอง
1.3 เจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์
การสร้างคอนเนกชันที่ดีกับซัพพลายเออร์หลาย ๆ เจ้าที่ต้องทำงานร่วมกัน นับว่าเป็นกลยุทธิ์สำคัญสำหรับธุรกิจเลยก็ว่าได้ และในการบริหารสินค้าก็อาจช่วยในเรื่องการต่อรองขอเครดิตเทอมที่นานขึ้น หรือส่วนลดการสั่งซื้อสินค้า ที่ช่วยให้คุณมีเวลาจัดการกับสินค้าในคลังก่อนจะถึงรอบจ่ายเงินได้
2. ติดตามลูกหนี้ (Accounts Receivable) อย่างใกล้ชิด: เร่งเก็บเงินเข้ากระเป๋า
ยอดขายบนกระดาษไม่มีความหมาย ถ้าเปลี่ยนมาเป็นเงินจริงไม่ได้ และการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าหลายครั้งก็เป็นปัญหาใหญ่ของธุรกิจเช่นกัน ดังนั้นการจัดการกับลูกหนี้การค้าอย่างเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ ก็เป็นอีกแรงที่ช่วยดูแลสภาพคล่องของธุรกิจได้ โดยมีวิธีการบริหารติดตามลูกหนี้การค้าได้ดังนี้
2.1 กำหนดนโยบายสินเชื่ออย่างชัดเจน
การกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเงินควรต้องทำอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น เป็นข้อกำหนดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวงเงินเครดิต และระยะเวลาชำระเงิน ทำให้ธุรกิจสามารถบริหารเงินสดได้ตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้อีกหนึ่งเคล็ดลับอาจพิจารณาให้ส่วนลดสำหรับลูกหนี้ที่ชำระก่อนกำหนด เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกหนี้รีบชำระเร็วขึ้น
2.2 ออกใบแจ้งหนี้ทันทีและตรวจสอบให้ถูกต้อง

ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารสำคัญเลยก็ว่าได้ ถ้าส่งมอบสินค้าหรือให้บริการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรรีบออกใบแจ้งหนี้ให้ทันทีเพื่อเรียกเก็บเงินจากลูกค้า นอกจากนี้จำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาตามมาที่ส่งผลต่อการชำระเงินที่ล่าช้าได้ด้วย
ซึ่งการออกใบแจ้งหนี้ผ่าน PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ช่วยให้มั่นใจในความถูกต้อง แถมยังมาพร้อมกับ QR Code ให้ลูกหนี้สามารถสแกนจ่ายได้เลยทันที สามารถชำระเงินได้สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
2.3 ติดตามหนี้อย่างเป็นระบบ
หากลูกค้าชำระหนี้ล่าช้า ควรมีขั้นตอนการติดตามหนี้อย่างเป็นระบบ เช่น การส่งข้อความ หรืออีเมลเพื่อทวงถามแจ้งเตือนอย่างสุภาพ แต่ถ้าหากลูกหนี้ยังไม่ชำระเงินตามที่กำหนดก็อาจเริ่มต้นโทรติดตามอย่างสม่ำเสมอได้
3. บริหารเจ้าหนี้ (Accounts Payable) อย่างมีกลยุทธ์: ยืดเวลาจ่าย แต่ไม่เสียเครดิต

นอกจากตามเงินจากลูกหนี้แล้ว ในการบริหารเงินสด การจัดการวางแผนกับเจ้าหนี้ก็เป็นขั้นตอนที่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการกับสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นกัน เพราะถ้าจ่ายเร็วเกินไปก็ทำให้ขาดเงินสดหมุนเวียน แต่จ่ายช้าก็อาจเสียเครดิต ดังนั้นการบริหารจัดการเจ้าหนี้อย่างชาญฉลาดก็ช่วยรักษาสมดุลในเรื่องนี้ได้
3.1 ใช้ประโยชน์จากเครดิตเทอมเสมอ
การจ่ายเงินให้ใกล้กับวันที่ได้รับเครดิตเทอมมากที่สุดสามารถช่วยให้บริหารเงินสดได้ดียิ่งขึ้น เช่น ได้รับเครดิตเทอม 30 วัน ก็สามารถจ่ายเงินในวันที่ 29 เพื่อให้ธุรกิจมีเงินสดหมุนเวียนไว้ในมือเผื่อมีกรณีต้องใช้เงินฉุกเฉิน
3.2 วางแผนการชำระเงินล่วงหน้า
การวางแผนล่วงหน้ายังเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจมาเสมอ และในเรื่องของการบริหารเงินสดก็เช่นกัน ที่คุณสามารถวางแผนการชำระเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจัดลำดับความสำคัญของเจ้าหนี้แต่ละราย เช่น ต้องจ่ายใครก่อน-หลัง เป็นจำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้มีเงินสดในมือพอจ่ายหนี้เมื่อถึงวันครบกำหนด
3.3 สื่อสารกับเจ้าหนี้อย่างสม่ำเสมอ
ถ้าจากการวิเคราะห์เงินสดในมือและวางแผนล่วงหน้าแล้วพบว่าอาจมีเงินไม่เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ให้ได้ตามกำหนด จำเป็นต้องสื่อสารกับเจ้าหนี้ไว้ล่วงหน้าเพื่อทำการขอขยายเวลาชำระหนี้ หรือเจรจาหาวิธี เงื่อนไขการชำระในรูปแบบอื่น ไม่ควรปล่อยให้มีหนี้ค้าง เสียเครดิต และอาจเสียคู่ค้าทางธุรกิจด้วย
เพียงแค่ปรับใช้ 3 เคล็ดลับที่เราหยิบมาแนะนำในบทความนี้ ก็ช่วยให้คุณสามารถ บริหารเงินสด ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเงินขาดมือ พร้อมนำพาธุรกิจสู่การเติบโตอย่างมั่นคง
ยกตัวอย่างการบริหารเงินสดด้วย 3 เคล็ดลับที่แนะนำ
ธุรกิจ A ขายอุปกรณ์ Gadgets นำเข้า กำลังมีปัญหาด้านการบริหารเงินสด เพราะถึงแม้จะขายสินค้าได้ดีต่อเนื่อง แต่เงินสดขาดมือหมุนเงินไม่ทัน
ธุรกิจ A จึงเลือกปรับใช้เคล็ดลับทั้ง 3 ข้อดังนี้
1. บริหารสินค้าคงคลัง
- นำข้อมูลการขายมาวิเคราะห์ และจัดอันดับสินค้าทั้งหมด พบว่าปัจจุบันสินค้าประเภทนาฬิกา Smartwatch ขายดีที่สุด จึงเลือกให้ความสำคัญกับการสต๊อกสินค้าประเภทนี้ก่อน เพราะสามารถขายออกได้ไวกว่า
- ใช้วิธี FIFO เลือกขายอุปกรณ์ที่ผลิตปีเก่าในสต๊อกก่อน เพราะมีโอกาสตกรุ่นมากกว่า
- ธุรกิจ A ต่อรองกับแบรนด์คู่ค้าที่นำเข้าสินค้ามาขาย เพื่อขอราคาที่พิเศษ
2. ติดตามลูกหนี้
- ธุรกิจ A ไม่ได้มีเพียงแค่ลูกค้าปลีก แต่ยังขายอุปกรณ์ให้ธุรกิจด้วยกันเองอีกด้วย จึงเลือกใช้โปรแกรมบัญชีในการออกใบแจ้งหนี้เพื่อความถูกต้องของเอกสาร
- ทั้งยังกำหนดนโยบายเครดิตเทอม 30 วันชัดเจน และมีการวางระบบติดตามหนี้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยจะมีการโทรแจ้งเตือนก่อน 1 วันครบชำระ และติดตามทุกสัปดาห์หากมีการชำระหนี้ล่าช้า
3. บริหารเจ้าหนี้
- ธุรกิจ A วางแผนการชำระเงินกับเจ้าหนี้แต่ละเจ้าอย่างรอบคอบ ทำให้สามารถหมุนเงินได้ทัน และจ่ายเงินได้ตรงเวลา
หมดปัญหาเงินสดขาดมือ ติดตามลูกหนี้ได้อย่างเป็นระบบด้วยโปรแกรมบัญชี PEAK

การบริหารเงินสดของธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนคิด และนอกจากการวางแผนจัดการแล้ว การเลือกใช้โปรแกรมบัญชี PEAK ก็พร้อมเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ QR Payment ที่สามารถใส่ในใบแจ้งหนี้เพื่อให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพียงเชื่อมต่อ API กับธนาคารที่ใช้งาน สามารถอัปเดตการชำระเงินให้อัตโนมัติทันที ช่วยลดข้อผิดพลาดและเวลากรอกข้อมูลด้วยตนเองได้มากขึ้น
ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://www.peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine
