ผู้ประกอบการในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ SMEs จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ และด้วยความที่ SMEs เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมากที่สุด การช่วยเหลือและสนับสนุนจากภาครัฐทำให้ธุรกิจ SMEs เติบโตและข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีนิติบุคคลและอากรขาเข้า จึงเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
โดยสำนักงาน BOI เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมศักยภาพ และสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ SMEs ด้วยมาตรการเพิ่มขีดความสามารถสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ได้แก่มาตรการส่งเสริมการลงทุนดังนี้
สิทธิประโยชน์ที่ SMEs ได้รับ
- ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี
- กิจการในกลุ่ม A (กลุ่มกิจการที่ได้รับสิทธิและประโยชน์ทางภาษีเงินได้นิติบุคคล เครื่องจักร วัตถุดิบ และสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษีอากร) ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 200 ของเงินลงทุน
- ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักรและวัตถุดิบ
- กิจการที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม/เขตอุตสาหกรรม ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีนิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 1 ปี แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 8 ปี
- กิจการที่ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีนิติบุคคล เป็นสัดส่วน ร้อยละ 200 ของเงินลงทุน
เงื่อนไขในการขอรับการส่งเสริมการลงทุน
- เป็น SMEs ที่มีรายได้ของกิจการทั้งที่ได้รับ BOI และไม่ได้รับ BOI รวมกันต่อปีไม่เกิน 500 ล้านบาทใน 3 ปีแรก นับแต่วันที่เริ่มมีรายได้จากกิจการที่ได้รับ BOI
- เป็น SMEs ที่มีบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยถือหุ้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน
- เป็น SMEs ที่มีเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท
- เป็น SMEs ที่นำเครื่องจักรเก่าที่ใช้แล้วในประเทศมาใช้ได้ในมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท
- เป็น SMEs ที่มีอัตราหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 4:1
การทำบัญชีอย่างถูกต้อง เป็นหนึ่งในการเพิ่มโอกาสในการขอรับเงินลงทุน และทำให้เจ้าของธุรกิจเห็นสภาพการเงินของธุรกิจตัวเองอย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจลงทุน
สมัครใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี คลิก peakaccount.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง inbox ของ Facebook PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์