PEAK Partner

ทั้งหมด

บัญชี

ภาษี

ธุรกิจ

การใช้งานโปรแกรม

ข่าวสาร

27 มี.ค. 2024

PEAK Account

12 min

เฟอร์นิเจอร์สำคัญ เปลี่ยนพื้นที่ทำงานให้มีประสิทธิภาพได้

ประเด็นสำคัญ เฟอร์นิเจอร์สำคัญ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การจัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสมเปรียบเสมือนการวางรากฐานการทำงานที่ดี มีประสิทธิภาพ โดยเฟอร์นิเจอร์ 3 ชิ้นหลักที่มีความสำคัญต่อการทำงาน ได้แก่ โต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน และลิ้นชักใส่ของ เปรียบเสมือนอาวุธคู่กายที่จะช่วยให้การทำงานของคุณราบรื่น สะดวกสบายมากขึ้น 1. โต๊ะทำงาน การเลือกใช้โต๊ะทำงานควรให้ความสำคัญกับขนาดที่เหมาะสม หากมีพื้นที่ทำงานขนาดใหญ่ กว้างขวาง ไม่ควรเลือกโต๊ะที่แคบจนเกินไป อาจทำให้รู้สึกอึดอัด เคลื่อนไหวลำบาก ให้เลือกโต๊ะทำงานขนาด 160 x 80 ซม. ก็เพียงพอแล้ว เช่นเดียวกับห้องที่มีพื้นที่ทำงานจำกัด หากเลือกโต๊ะที่เล็กเกินไป อาจทำให้วางของได้ไม่เพียงพอ ทางที่ดีควรเลือกโต๊ะทำงานขนาด 120 x 60 ซม. ถึงจะเพียงพอต่อการใช้งาน นอกจากขนาดโต๊ะแล้ว ความสูงของโต๊ะก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกโต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับได้ เพื่อให้เหมาะกับสรีระของผู้ใช้งาน ช่วยให้นั่งทำงานได้อย่างสบาย โดยไม่ต้องก้มหรือโน้มตัวมากเกินไป ทั้งนี้ โต๊ะทำงานที่วัสดุทนทาน ทำความสะอาด และดูแลรักษาง่าย จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ให้คุณนั่งทำงานกับโต๊ะตัวโปรดได้นานยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนโต๊ะบ่อยๆ ให้สิ้นเปลือง OfficeMate แนะนำโต๊ะที่เหมาะสมสำหรับทำงาน โต๊ะทำงานที่ดีจะส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต ประสิทธิภาพในการทำงาน และบรรยากาศการทำงาน แนะนำโต๊ะทำงานเฟอร์ราเดค รุ่น ST120DA-P จาก OFM ช่วยปรับให้ท่านั่งให้ถูกต้อง ลดอาการปวดเมื่อย คุ้มค่าเกินราคา โต๊ะทำงานที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ  ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก: nbsp; 2. เก้าอี้ทำงาน เก้าอี้ทำงานที่เหมาะกับการนั่งทำงานตลอดวัน ควรมีพนักพิงที่รองรับส่วนโค้งตามธรรมชาติของหลังส่วนล่าง รองรับช่วงเอวให้กระดูกสันหลังของผู้นั่งอยู่ในแนวตรง และควรปรับระดับความสูง พนักพิง หรือที่วางแขนได้ เพื่อรองรับสรีระของผู้ใช้งาน ช่วยให้นั่งทำงานได้อย่างสบาย ลดอาการปวดหลัง คอ และลดความเมื่อยล้า นอกจากนี้ วัสดุของเก้าอี้ควรเป็นวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี และทำความสะอาดง่าย เช่น ผ้าตาข่าย ช่วยให้นั่งทำงานได้นานโดยไม่รู้สึกอึดอัด หรือเลือกเก้าอี้ที่มีฟังก์ชันโยกเอน ช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานได้ OfficeMate แนะนำเก้าอี้สุขภาพที่เหมาะสมสำหรับทำงาน การนั่งทำงานในท่าที่ถูกต้อง ช่วยให้มีสมาธิ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เก้าอี้ Haru ช่วยให้คุณนั่งทำงานได้อย่างสบายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาการปวดเมื่อย ส่งผลให้คุณมีสมาธิจดจ่อกับงานมากขึ้น เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานของคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก: nbsp; 3. ชั้นวางของ โต๊ะทำงานที่รก ไม่เป็นระเบียบ อาจสะท้อนถึงความคิด และการทำงานที่ยุ่งเหยิง การจัดระเบียบพื้นที่ทำงานด้วยลิ้นชักเก็บของที่เหมาะสม จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่งานที่มีประสิทธิภาพ และความคิดสร้างสรรค์ ฉะนั้น การมีลิ้นชักวางของดีๆ จะช่วยเก็บของให้เป็นระเบียบ หาง่าย และช่วยให้โต๊ะทำงานดูเรียบร้อยขึ้น เริ่มจากการเลือกลิ้นชักให้เหมาะสมกับพื้นที่ทำงาน โต๊ะทำงานขนาดเล็กควรเลือกตู้ลิ้นชักแบบกะทัดรัด สูงไม่เกินระดับสายตา ช่วยให้หยิบจับของสะดวก เช่น ตู้ลิ้นชัก 2-3 ลิ้นชัก วางซ้อนกัน หรือตู้ลิ้นชักแบบติดใต้โต๊ะ ส่วนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ให้เลือกตู้ลิ้นชักที่มีหลายลิ้นชัก เก็บของได้มากขึ้น เช่น ตู้ที่มี 4-5 ลิ้นชัก หรือตู้ลิ้นชักแบบตั้งพื้นความสูงเหนือโต๊ะ เป็นการเพิ่มพื้นที่ในการเก็บของไปในตัวด้วย ควรเลี่ยงลิ้นชักที่ใหญ่เทอะทะ กีดขวางการทำงาน และมีน้ำหนักมากจนเกินไป ทำให้ไม่สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย รวมถึงไม่ควรเลือกลิ้นชักที่แคบ ความจุไม่เพียงพอต่อการเก็บของ เพราะหากวางของจนแน่นเกินไป อาจทำให้ลิ้นชักพังเสียหาย หรือหยิบจับสิ่งของได้ไม่สะดวก OfficeMate แนะนำลิ้นชักใส่ของที่เหมาะสมสำหรับห้องทำงาน ลิ้นชักเปรียบเสมือนผู้ช่วยตัวจิ๋วสำหรับโต๊ะทำงาน ช่วยเก็บของให้เป็นระเบียบ หยิบจับสะดวก เพิ่มพื้นที่ทำงานให้กว้างขวางขึ้น การเลือกลิ้นชักที่เหมาะสม จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และราบรื่น OFM แนะนำตู้ลิ้นชักเหล็กล้อเลื่อน 3 ชั้น สีขาว เฟอร์ราเดค ตอบโจทย์คุณ! หมดปัญหาของรก หาของไม่เจอ พร้อมเพิ่มพื้นที่ทำงานได้อีกเยอะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก: nbsp; สรุป นอกจากเฟอร์นิเจอร์ 3 ชิ้นหลักแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน เช่น แสงสว่าง การระบายอากาศ และการตกแต่งพื้นที่ทำงาน ช่วยเพิ่มประสบการณ์การทำงานที่ดีขึ้น หากไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง อาจลองเอาคำแนะนำที่ OfficeMate นำมาฝากไปปรับใช้กับพื้นที่ทำงานของคุณได้  หากต้องการเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้พื้นที่ทำงานของคุณดูเป็นระเบียบ สะดวก สบาย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เข้ามาเลือกดูได้ที่ OfficeMate เมื่อกิจการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่จะช่วยสร้างพื้นที่การทำงานที่มีประสิทธิภาพเรียบร้อยแล้ว ต้องการบันทึกค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้เป็นรายจ่ายของบริษัทอย่างครบถ้วน ถูกต้อง แม่นยำแล้ว PEAK โปรแกรมบีญชีออนไลน์ คือ คำตอบของการทำงานบัญชีที่มีประสิทธิภาพ

27 มี.ค. 2024

PEAK Account

7 min

ตู้เอกสาร จัดเก็บให้เป็นระเบียบได้อย่างไร

ประเด็นสำคัญ  5 เคล็ดลับจัดเก็บตู้เอกสารอย่างมืออาชีพ 1. คัดแยกเอกสาร การจัดระเบียบตู้เอกสารควรเริ่มต้นด้วยการคัดแยกเอกสาร แยกประเภทให้ชัดเจนว่าเอกสารไหนสำคัญ ควรเก็บไว้ เอกสารไหนไม่จำเป็น เช่น ใบปลิว โฆษณา เอกสารเก่าที่หมดอายุ ควรทิ้ง หรือนำไปรีไซเคิล รวมถึงควรแยกเอกสารตามวันที่ โดยเรียงลำดับจากเก่าไปใหม่ ไม่ควรเก็บไว้รวมกัน สำหรับเอกสารสำคัญ ก็ควรแยกประเภทให้ชัดเจนด้วยเช่นกัน เช่น ใบเสร็จรับเงิน แยกเป็นปี 2567, 2566 หรือหากเป็นเอกสารสัญญา ใบทะเบียน ประกัน ให้แยกเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน 2. ตั้งระบบการจัดเก็บให้หาง่าย สะดวก รวดเร็ว เลือกวิธีจัดเก็บเอกสารที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง และควรเลือกให้เหมาะกับชนิดของเอกสารที่จัดเก็บด้วย เช่น  เหมาะสำหรับเอกสารไม่หนามาก รวมถึงเอกสารที่หยิบเข้า-ออกบ่อยครั้ง เพื่อให้หาง่าย และสามารถหยิบออกมาใช้งานได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับเอกสารจำนวนมาก ไม่ควรใส่ซองบางๆ เนื่องจากเอกสารมีความหนา จึงต้องการความแข็งแรงของแฟ้มมารองรับปริมาณเอกสาร เหมาะสำหรับเอกสารเก่า ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือเอกสารที่ต้องกำจัด ที่สำคัญ อย่าลืมติดชื่อเอกสารไว้หน้ากล่อง เพื่อความสะดวกต่อการทำลาย หรือนำไปรีไซเคิล ทั้งนี้ ควรตั้งชื่อหมวดหมู่ให้ชัดเจน สื่อความหมายที่เข้าใจง่าย จัดเรียงเอกสารตามลำดับ เช่น ลำดับตัวอักษร และลำดับวันที่ 3. เก็บเอกสารในตู้ที่เหมาะสม ตู้เอกสารที่เหมาะสมควรจะปลอดภัย ให้เลือกตู้เอกสารที่มีขนาดพอเหมาะกับจำนวนเอกสาร ไม่เล็กจนแน่นเกินไป หรือใหญ่จนเหลือพื้นที่ว่างมากเกินไป และควรเลือกตู้ที่มีชั้นวาง มีพื้นที่แบ่งเป็นช่องสำหรับเก็บเอกสารแต่ละหมวดหมู่ 4. ทำความสะอาดตู้เอกสารเป็นประจำ สุขอนามัยดีของตู้เก็บเอกสาร ส่งผลต่อสุขภาพที่ดีของผู้ใช้งานด้วยเช่นกัน ดังนั้น ควรรักษาความสะอาดของตู้ รวมถึงบริเวณโดยรอบตู้เอกสารด้วยเป็นอย่างดี เช่น เช็ดฝุ่นทั้งด้านใน และด้านนอกตู้เอกสารอย่างน้อยเดือนละครั้ง จัดเก็บเอกสารให้เรียบร้อย ไม่วางซ้อนกันจนยุ่งเหยิง หมั่นกำจัดเอกสารที่ไม่จำเป็น และไม่ควรนำสิ่งของที่ไม่จำเป็นเข้าไปรวมกับเอกสาร เพื่อไม่ให้ตู้ล้น จนไม่มีพื้นที่จัดเก็บเอกสารจำเป็น 5. ใช้เทคโนโลยีช่วยจัดเก็บเอกสาร ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และชาญฉลาด ช่วยเก็บเอกสาร พร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน แถมยังมีให้เลือกหลากหลาย และใช้ฟรีอีกด้วย OfficeMate แนะนำให้เก็บเอกสารด้วยวิธีที่ง่าย และรวดเร็ว ด้วยการสแกนเอกสารสำคัญเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือ Cloud Storage เช่น Google Drive, Dropbox ตั้งชื่อไฟล์ให้ชัดเจน ค้นหาได้ง่าย ที่สำคัญควรสำรองข้อมูลไว้เป็นประจำ เพื่อป้องกันเอกสารเสียหาย หรือสูญหาย สรุป การจัดตู้เอกสารให้เป็นระเบียบ จะช่วยให้สามารถค้นหาเอกสารที่ใช้ในการทำงานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ดังนั้น เราจึงควรจัดระบบการจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ และเลือกวิธีการจัดเก็บเอกสารที่เหมาะสมกับการใช้งาน อย่ารอช้า! มาเริ่มจัดการตู้เอกสารของคุณให้เป็นระเบียบ เริ่มต้นด้วย 5 ขั้นตอนง่ายๆ จาก OfficeMate ได้เลย หรือใครยังหาตัวช่วยจัดเก็บเอกสารเพิ่มเติม OfficeMate ยังมีอุปกรณ์สำนักงาน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับคุณ พร้อมมอบประสบการณ์ในการจัดเก็บเอกสารที่คุณอาจไม่เคยพบมาก่อน สามารถเข้ามาเลือกดูได้ที่ OfficeMate นอกจากการจัดเก็บเอกสารอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การสร้างเอกสารสำคัญทางธุรกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ออกบิลเงินสด, ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารบัญชีต่างๆ ได้อย่าง สะดวก รวดเร็ว ในไม่กี่ขั้นตอน สร้างเอกสารทางธุรกิจ ครบถ้วน ถูกต้อง แม่นยำ ป้องกันปัญหาอย่างมืออาชีพ

27 มี.ค. 2024

PEAK Account

12 min

“นักบัญชี” บทบาทสำคัญที่ผู้ประกอบการควรรู้

ประเด็นสำคัญ  ในยุคสมัยที่ธุรกิจมีความซับซ้อน การเงินกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จ เจ้าของธุรกิจหลายคนจึงมองหานักบัญชีมืออาชีพเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ  แล้วธุรกิจขนาดเล็กล่ะ? จำเป็นต้องจ้างนักบัญชีด้วยหรือ? ก็ต้องบอกว่าหากเจ้าของธุรกิจที่ต้องการข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้องเพื่อใช้ในการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ ควรมีนักบัญชีมืออาชีพมาช่วยจัดการ แต่การจ้างนักบัญชีสักคน ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติหลายประการด้วยเช่นกัน นักบัญชีกับบทบาทในกิจการ บทความนี้ PEAK ร่วมกับ OfficeMate จะพาคุณไปรู้จักกับบทบาทที่หลากหลาย ทักษะที่จำเป็น รวมถึงประเภทของนักบัญชี เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้กับผู้ประกอบการที่กำลังมองหานักบัญชี นักบัญชีเปรียบเสมือนผู้ดูแลด้านการเงินของธุรกิจ หน้าที่หลักของพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่การบันทึกรายรับรายจ่ายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องสำคัญต่างๆ เหล่านี้ด้วยเช่นกัน 1. การจัดทำบัญชี นักบัญชีทำหน้าที่จัดทำงบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด และรายงานทางการเงินอื่นๆ เปรียบเสมือนภาพสะท้อนสถานะทางการเงินของธุรกิจ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจถึงสถานะทางการเงิน สามารถวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. การเสียภาษี นักบัญชีจะคำนวณภาษี เตรียมเอกสาร และยื่นแบบแสดงรายการภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจให้ครบถ้วน ถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยให้ธุรกิจไม่ต้องเสียค่าปรับ เงินเพิ่มจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องโดยไม่จำเป็นได้ 3. การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน นักบัญชีจะวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน เช่น อัตราส่วนทางการเงิน จุดคุ้มทุน กระแสเงินสด เพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การวิเคราะห์อัตราส่วนสภาพคล่อง ช่วยให้เจ้าของธุรกิจทราบว่าธุรกิจมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะชำระหนี้สินระยะสั้นหรือไม่ หรือหากมีความผิดปกติทางการเงินเกิดขึ้น นักบัญชีจะได้นำเสนอข้อมูลต่อผู้บริหาร เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที  4. การให้คำปรึกษาทางการเงิน นักบัญชีสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนภาษี การจัดการเงินทุน การลงทุน และอื่นๆ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักบัญชีมืออาชีพควรมีทักษะอะไรบ้าง นอกเหนือจากความรู้ด้านบัญชีซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญแล้ว นักบัญชีจำเป็นจะต้องมีทักษะบางประการที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการทำงานร่วมกับ ทีมอื่นๆ ในบริษัทได้เป็นอย่างดี ได้แก่ 1. การใช้โปรแกรมบัญชี นักบัญชีควรมีความเชี่ยวชาญในการใช้งานโปรแกรมบัญชีที่รองรับระบบบัญชีของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้ทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และลดความผิดพลาดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ 2. การสื่อสาร หน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่งของนักบัญชี ก็คือ การอธิบายข้อมูลทางการเงินให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจได้อย่างชัดเจน เช่น การนำเสนอผลประกอบการ อธิบายสาเหตุของกำไรหรือขาดทุน ดังนั้น นักบัญชีจึงควรมีทักษะในการสื่อสารที่ดี เพื่อถ่ายทอดข้อมูลดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. กฎหมาย นักบัญชีควรมีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน กฎหมายธุรกิจ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง 4. การคิดวิเคราะห์ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน หาสาเหตุของปัญหาและเสนอแนะแนวทางแก้ไข เช่น การวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน ปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนแนวทางแก้ไขที่ควรปฏิบัติ เป็นต้น  นักบัญชีกับประเภทงานบัญชีของกิจการ การจัดการงานบัญชีนั้นจะเกี่ยวข้องกับงานหลายส่วน จึงสามารถแบ่งงานบัญชีออกเป็นประเภทต่างๆ ซึ่งมีความรับผิดชอบการดำเนินงานที่แตกต่างกัน ดังนี้ 1. การบัญชีการเงิน เป็นงานบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชีและนำเสนอรายงานทางการเงิน ตลอดจนงบการเงินของกิจการที่จัดทำขึ้นภายใต้มาตรฐานบัญชี เพื่อนำข้อมูลต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและนอกองค์กร 2. การบัญชีบริหาร เป็นการจัดทำบัญชีและรายงานทางการเงินขององค์กรต่อฝ่ายบริหารเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการวางแผนการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ 3. การบัญชีต้นทุน เป็นวิธีการทางบัญชีที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลต้นทุนของธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำใช้ในการจัดทำรายงานทางการเงินตลอดจนวิเคราะห์และจำแนกข้อมูลเพื่อใช้ในการบริหารต้นทุนของกิจการ เพื่อให้ทราบถึงต้นทุนการผลิต ต้นทุนขาย ตลอดจนตีราคาสินค้าคงเหลือ เพื่อนำไปสู่การวางแผนบริหารจัดการต้นทุนต่อไป 4. การตรวจสอบบัญชี เป็นกระบวนการตรวจสอบรายการทางบัญชี ตลอดจนหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงบัญชีของบุคคลหรือองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่ารายการต่างๆ ได้มีการถูกบันทึกไว้อย่างถูกต้อง เหมาะสม  เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี และข้อบังคับของกฎหมาย โดยปกติการตรวจสอบบัญชีจะทำโดยผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) เพื่อขจัดปัญหาความลำเอียงในการปฏิบัติงานตรวจสอบ 5. การบัญชีภาษี เป็นกระบวนการจัดทำบัญชีของกิจการ โดยพิจารณาปรับเปลี่ยนข้อมูลทางบัญชีบางรายการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายภาษีอากร เพื่อให้ได้ข้อมูลที่นำไปใช้ในการคำนวณภาษีเงินได้ รวมทั้งการจัดทำรายการที่เกี่ยวข้องตามข้อกำหนดของกฎหมายภาษีอากร  6. ระบบสารสนเทศทางการบัญชี จะเกี่ยวข้องกับการพัฒนา ติดตั้ง ใช้งาน และตรวจสอบขั้นตอนการบัญชี ตลอดจนระบบที่ใช้ในกระบวนการบัญชี รวมถึงทิศทางบุคลากรทางการบัญชี และการจัดการซอฟต์แวร์ ข้อดี vs ข้อจำกัดของการจ้างนักบัญชี ข้อดีของการจ้างนักบัญชี ข้อจำกัดของการจ้างนักบัญชี สรุป ข้อมูลข้างต้น เป็นการวิเคราะห์เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังวางแผนจัดการด้านการเงิน หรือพัฒนาระบบบัญชีของกิจการ อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ถี่ถ้วน หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ หากเป็นเรื่องอุปกรณ์จำเป็นในการจัดการบัญชี ไม่ว่าจะเป็นแฟ้มเก็บเอกสาร แบบฟอร์มหนังสือรับรองการหักภาษี บิลเงินสด ใบเสร็จรับเงิน ใบส่งของ หรือแบบฟอร์มเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ แนะนำที่ มีสินค้าที่ช่วยให้นักบัญชีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7 ก.พ. 2024

admincontent

2 min

BeNeat มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รับส่วนลดสูงสุด 7%

BeNeat แอปพลิเคชันเรียกคุณแม่บ้านมืออาชีพ สะดวก ใช้งานง่าย เลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ บริการทำความสะอาดแบบรายชั่วโมง ให้บ้านน่าอยู่ขึ้นได้ในพริบตา คุณแม่บ้านบีนีทมืออาชีพไปพร้อมอุปกรณ์และน้ำยาทำความสะอาดแบบครบครัน พร้อมทั้งรับประกันความพึงพอใจ พิเศษ! ลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รับส่วนลดสูงสุด 7% เมื่อจองบริการทำความสะอาดรายชั่วโมงแบบแพ็กเกจ 5 ครั้งขึ้นไป เพียงแจ้งโค้ดส่วนลดรับสิทธิ์ ผ่าน LINE @BeNeat เงื่อนไขในการรับสิทธิ์ – ระยะเวลาโปรโมชั่น วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2567 – จำกัดเพียง 200 แพ็กเกจเท่านั้น ตลอดรายการส่งเสริมการขาย หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด – สามารถจองบริการไว้ล่วงหน้าได้ ไม่มีวันหมดอายุ – รหัสส่วนลดสามารถใช้ได้ 1 ครั้ง/ รหัสผู้ใช้งาน – พื้นที่ให้บริการ : กรุงเทพ ปริมณฑล เชียงใหม่ และชลบุรี – สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยน/ทอนเป็นเงินสด หรือใช้ร่วมกับส่วนลดอื่นๆ ได้ – เงื่อนไขการให้บริการเพิ่มเติมเป็นไปตามนโยบายทางบริษัทฯ หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2113-1138, [email protected] หรือ LINE @BeNeat

31 ม.ค. 2024

PEAK Account

2 min

ลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ จาก empeo ระบบบริหารงานบุคคลครบวงจร

empeo โปรแกรมบริหารงานบุคคลที่มีความทันสมัยและครบวงจร ฟีเจอร์ครบถ้วนสามารถจัดการบุคลากรอย่างเป็นระบบ  ใช้งานง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ ตอบโจทย์ด้าน HR รองรับการคำนวณเงินเดือนแบบอัตโนมัติ พร้อมรายงานด้าน HR และ Payroll ที่ครบถ้วน สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK เมื่อเริ่มใช้งาน empeo ต่อที่ 1 ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน! ต่อที่ 2 รับสิทธิ์ใช้งานเพิ่มฟรี 1 เดือน เมื่อสมัครใช้บริการรายปี ต่อที่ 3 รับสิทธิ์แลกซื้อ พร้อมลดส่วน 30% เมื่อซื้อ IOMO รุ่น FGA-1500/FGA-2000 จำนวน 1 สิทธิ์ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. – 15 เม.ย. 2567 คลิก (ใส่รหัสคูปอง : empeoxPEAK ) หรือติดต่อฝ่ายขาย empeo โทร. 02-784-5855 สอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ PEAK Call Center : 1485

26 ม.ค. 2024

PEAK Account

2 min

Venio มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้ม ให้กับลูกค้า PEAK

ลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รับสิทธิ์ใช้งาน Venio โปรแกรม SalesCRM บริหารทีมขายอย่างมืออาชีพ ดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง เพิ่มยอดขาย เพิ่มฐานลูกค้าอย่างยั่งยืน ฟรี 30 วัน! พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 10%  Venio โปรแกรม Sales CRM สำหรับธุรกิจ B2B พัฒนาบนแนวคิด Customer Centric ช่วยคุณบริหารทีมขาย เก็บข้อมูล และดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง เห็นภาพรวมของทีมขายและลูกค้า ครอบคลุมยิ่งกว่าระบบ CRM ทั่ว ๆ ไป เพราะ Venio มาพร้อม Sales Assistant เพิ่มประสิทธิภาพในการปิดการขายได้อย่างตรงจุด ใช้งานง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK รับสิทธิ์ทดลองใช้งาน Venio ฟรี 30 วัน! และรับส่วนลด 10% เมื่อสมัครใช้บริการรายปี ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม – 15 เมษายน 2567 เท่านั้น คลิก (ใส่รหัสคูปอง : VenioxPEAK) หรือติดต่อฝ่ายขาย Venio โทร. 02-784-5855 สอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ PEAK Call Center : 1485

21 ม.ค. 2024

PEAK Account

3 min

การใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์เพื่อธุรกิจ ผ่านมุมมองผู้บริหาร AUTOBOT

จากจุดเริ่มต้นของกิจการที่มีการทำงานบัญชีในระบบออฟไลน์ คุณธรรมสร มีรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการโรบอท เมคเกอร์ จำกัด พบว่าการทำบัญชีแบบเดิมยังไม่ตอบโจทย์การทำงานเท่าที่ควร ทำให้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็พบว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลทำให้ปรับตัวทางธุรกิจได้เร็วขึ้น โดยคุณธรรมสรได้กล่าวถึงแนวคิดในการปรับเปลี่ยนดังกล่าวว่า “สิ่งที่ผมพูดกับทีมเสมอว่าสิ่งใดที่วัดผลได้ เราก็จะพัฒนาได้ เมื่อเราสามารถวัดผลการดำเนินงานของธุรกิจ ก็คือ กำไร ขาดทุน ยอดขาย ได้แบบเรียลไทม์ในทุกๆ วัน ทำให้ในการแข่งขัน เรามีอาวุธที่เหนือกว่าคนอื่น สมัยก่อน การทำธุรกิจ เราต้องใช้เวลา 1 ปี ถึงจะรู้ว่าสิ่งที่ทำมาตลอดทั้งปีนั้นดีหรือไม่ดี แต่ตอนนี้เราสามารถรู้ได้ทุกวัน และสามารถนำผลประกอบการไปพัฒนาการทำงานได้อีกด้วย”  เมื่อได้เริ่มต้นใช้งานโปรแกรม PEAK คุณธรรมสรก็มีความประทับใจตั้งแต่หน้า UI ที่มีความสวยงาม ใช้งานง่าย  ตอบโจทย์การทำงานรอบด้าน ซึ่งทาง AUTOBOT ใช้โปรแกรม PEAK ในการทำงานทุกด้านของบัญชี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดใบเสนอราคา การออกใบกำกับภาษี การบันทึกค่าใช้จ่าย การบันทึกต้นทุน แม้กระทั่งการปิดบัญชีประจำปี โดยสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานบัญชีให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

21 ม.ค. 2024

PEAK Account

5 min

การใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ผ่านมุมมองผู้บริหาร Mission To The Moon

หากจะพูดถึงเพจที่ให้ความรู้ในเรื่องธุรกิจและการทำงานอย่างครบวงจร เชื่อว่าชื่อของ Mission To The Moon คงจะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ด้วย Content ที่หลากหลาย ซึ่งล้วนแต่มีความน่าสนใจทั้งสิ้น แต่ในวันนี้ Mission To The Moon ไม่ได้มีเพียงแค่เพจหรือเว็บไซต์ที่ให้ความรู้เท่านั้น หากแต่ยังมีการให้บริการในส่วนของ Production House ตลอดจนยังมีการจัดจำหน่ายสินค้าในช่องทางขาย e-Commerce อีกด้วย  สำหรับกลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจของ Mission To The Moon จะมีทั้งแบบ B2B และ B2C โดยในส่วนของ Media จะเน้นที่กลุ่มลูกค้า B2B จะเป็นกลุ่มเอเจนซี แบรนด์ องค์กรที่อยากจะโปรโมตโฆษณา ส่วนอีกกลุ่มก็จะเป็นผู้ติดตามเพจ กลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าต่างๆ ซึ่งจากการที่มีกลุ่มเป้าหมายหลายกลุ่ม และมีรูปแบบการให้บริการที่แตกต่างกันนั้น ก็ต้องมีการวางแผนบริหารจัดการเรื่องบัญชีที่ดี ซึ่งคุณสุธินี ตั้งอนุกูลกิจ Managing Director, Mission To The Moon Media ได้กล่าวถึงแนวคิดในการเริ่มต้นการใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์ไว้ดังนี้ “ในช่วงเริ่มต้น บริษัทเราก็จะเป็นเหมือน Start-up ที่ทำงานกันด้วยจำนวนคนไม่กี่คน การบันทึกข้อมูลต่างๆ จะเป็นแบบ Manual ทั้งหมด ต่อมาเริ่มมีการใช้ระบบบัญชีที่เป็นระบบออฟไลน์ การทำงานต้องเข้ามาทำที่ออฟฟิศ ซึ่งในช่วงโควิด ก็จะไม่สะดวกมากนัก มีปัญหาในการจัดการอยู่พอสมควร นอกจากนี้ เนื่องจากธุรกิจเรามีหลายประเภท ไม่ใช่ธุรกิจบริการเพียงอย่างเดียว หรือการขายสินค้าอย่างเดียว ทำให้มีความยากในการจัดประเภทรายได้และรายจ่าย เพราะจะมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้นทุน คลังสินค้า การจัดทำเอกสารต่างๆ ทำให้ต้องมองหาโปรแกรมบัญชีที่ตอบโจทย์การทำงานอย่างรอบด้านมากขึ้น” ซึ่งในจุดนี้เอง ทำให้ Mission To The Moon เริ่มก้าวเข้าสู่การใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์และได้ทำความรู้จักกับโปรแกรม PEAK  “ครั้งแรกที่จะตัดสินใจเลือกงานโปรแกรมบัญชีนั้น เราก็ได้มีการศึกษาหลายๆ โปรแกรมด้วยกัน ซึ่งก็พบว่า  PEAK มีรูปแบบหน้าตาการใช้งานที่ดูง่าย ไม่ยุ่งยาก มีหน้า Dashboard สรุปผลประกอบการที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่าย รวมถึงยังมีทีมที่ปรึกษาคอยให้ความช่วยเหลือ ช่วยให้อุ่นใจมากขึ้น ทำให้เราตัดสินใจเลือกใช้งานโปรแกรม PEAK”  หลังจากที่ได้เริ่มต้นใช้งาน PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ แล้ว PEAK เข้ามาช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นได้อย่างไร คุณสุธินีได้บอกเล่าถึงความประทับใจไว้ดังนี้ “PEAK ช่วยการทำงานได้เยอะมาก ด้วยความที่เป็นระบบออนไลน์ เราสามารถทำงานได้ทุกที่ การดึงเอกสาร ดูเอกสาร จัดการงานบัญชีต่างๆ สามารถทำได้ง่าย เหมาะสำหรับยุคที่ไม่ได้มีการทำงานแบบเดิมๆ อย่างธุรกิจของเราที่มีการขายทั้งมีเดีย สินค้า และบริการ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ตอบโจทย์มากๆ ทำให้เราแยกประเภทบัญชีได้ นอกจากการดูเรื่องของการเงิน งบการเงิน การดูผลสรุปภาพรวมต่างๆ สามารถเห็นได้แบบเรียลไทม์ ไม่ต้องรอถึงสิ้นเดือน เรื่องการจัดการภาษี ก็มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การทำงาน อย่าง PEAK Tax หรือฟังก์ชันการจัดการเงินเดือนอย่าง PEAK Payroll  ก็ล้วนแล้วแต่ช่วยให้ทำงานได้สะดวก ราบรื่น ครอบคลุมการทำงานในทุกระบบภายในโปรแกรมเดียว”  

15 ม.ค. 2024

PEAK Account

3 min

SKOOTAR มอบส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้า PEAK 15%* สูงสุด 150 บาท

SKOOTAR บริษัทขนส่งด่วนออนไลน์มือโปร สัญชาติไทย ให้บริการ ขนส่งด่วนแบบออนดีมานด์ เดลิเวรี ด้วยฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อให้การใช้งานแบบธุรกิจเป็นไปได้ง่าย พนักงานขับผ่านการตรวจสอบประวัติ แมสเซ็นเจอร์มือโปร ส่งเอกสาร เก็บเช็ค วางบิล เดินเอกสารท่าเรือ รับส่งของตามสนามบิน ติดต่อคัดหนังสือราชการ ส่งพัสดุด่วน รับถึงที่ส่งถึงมือ ใน 2 ชม.* มีรถหลายประเภทให้เลือกใช้ ส่งอาหาร กระจายออเดอร์จากครัวกลางสู่สาขา ส่งของชิ้นใหญ่ ขนของด้วยรถกระบะ ขั้นตอนการรับสิทธิพิเศษ : เพียงกรอกรหัสส่วนลด PEAKN67 ในช่องรหัสโปรโมชันผ่านทางหน้าเว็บไซต์ หรือแอปฯ ช่องทางการรับสิทธิ์ คลิก   เงื่อนไขในการรับสิทธิ์ 1. สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK เท่านั้น2. จำกัด 1 สิทธิ์ / 1 บัญชีบริษัท / ตลอดรายการ3. จำกัดจำนวน 100 สิทธิ์ / ตลอดแคมเปญ4. ส่วนลดนี้เฉพาะลูกค้าใหม่ของ SKOOTAR เท่านั้น5. สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด เครดิต หรืออื่นๆ ได้6. ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดหรือโปรโมชั่นอื่นๆ ได้7. ลูกค้าไม่สามารถโอน หรือมอบสิทธิ์แก่ผู้อื่นได้8. ข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามบริษัท SKOOTAR เเละ PEAK9. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขหรือเปลี่ยนเเปลง โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า10. ลูกค้าปัจจุบันที่ได้รับราคาพิเศษของ SKOOTAR อยู่แล้วไม่สามารถใช้ส่วนลดนี้ได้11. ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. – 10 เม.ย. 2567 เท่านั้น12. ส่วนลดนี้เป็นส่วนลดค่าขนส่งเท่านั้น13. สกู๊ตตาร์ให้บริการเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ เเละปริมณฑลติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ 02-105-4429

1 ธ.ค. 2023

PEAK Account

4 min

JustCo ออฟฟิศให้เช่าใจกลางเมือง มอบส่วนลดพิเศษลูกค้า PEAK สูงสุด 15%

พิเศษ! ลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ สมัครสมาชิก JustCo ออฟฟิศพร้อมใช้ โต๊ะทำงานแบบประจำและไม่ประจำ และการเช่าห้องประชุม ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2567 นี้ รับส่วนลดทันที 15% JustCo เป็นผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นชั้นนำในเอเชียแปซิฟิกสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตอบโจทย์ในการใช้ออฟฟิศสมัยใหม่ที่มีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องระยะเวลาและขนาดพื้นที่ รูปแบบสมาชิกมีตั้งแต่ Hot Desk (ที่นั่งทำงานไม่ประจำในพื้นที่โคเวิร์กกิ้ง) ออฟฟิศพร้อมใช้สำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ ห้องประชุม และพื้นที่จัดกิจกรรมขนาดใหญ่ โดยให้ความสำคัญกับการตกแต่งพื้นที่ที่ได้มาตรฐานและคุณภาพ สถานที่ตั้งที่เดินทางสะดวก และประสบการณ์ที่ไร้ที่ติผ่านเทคโนโลยีเพื่อการทำงานจากทุกที่ได้อย่างไร้ข้อกังวล นอกจากนี้สมาชิกของเราสามารถเข้าใช้งานได้กว่า 40 สาขาทั่วเอเชียแปซิฟิก และยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ขั้นตอนการรับสิทธิพิเศษ เพียงกรอกรายละเอียดที่ลิงก์ พร้อมใส่ Code: Justpeak15% ที่กล่องข้อความ เพื่อรับสิทธิ์ โดยเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับโดยเร็วที่สุดเพื่อแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม ข้อกำหนดและเงื่อนไข – โปรโมชั่นนี้ใช้ได้ที่จัสโคทุกสาขา (ทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์, แคปปิตอล ทาวเวอร์ (ออล ซีซั่นส์ เพลส), สามย่าน มิตรทาวน์, สีลม เอจ, อัมรินทร์ ทาวเวอร์ และ วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์) – โปรโมชั่นนี้สำหรับลูกค้า PEAK Account เท่านั้น ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567  – โปรโมชั่นสำหรับออฟฟิศพร้อมใช้ส่วนตัว (Just Studio) และโต๊ะทำงานแบบประจำ และไม่ประจำ (JustDesk Dedicated / Hot Desk) ใช้ได้สำหรับสมาชิกใหม่ที่เซ็นสัญญาสมาชิกอย่างน้อย 6 เดือน  – โปรโมชั่นห้องประชุมให้เช่า (meeting room) ใช้ได้สำหรับการเช่าห้องประชุมตั้งแต่ 2 ชั่วโมงเป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับห้องว่าง และจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน  – โปรโมชั่นนี้สามารถใช้ได้ครั้งเดียว และไม่สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นหรือส่วนลดอื่นได้  – สัญญาสมาชิกจะได้รับการต่ออายุโดยอัตโนมัติ โดยระยะเวลาที่ต่ออายุออกไปนั้นจะเท่ากับระยะเวลาตามสัญญาสมาชิก เว้นแต่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดส่งหนังสือบอกกล่าวแจ้ง คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบเป็นลายลักษณ์อักษรว่าไม่ประสงค์ต่ออายุสัญญาอย่างน้อย 2 เดือนก่อนวันสิ้นสุดสัญญา – จัสโคขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อกำหนดและเงื่อนไขข้างต้น หรือยกเลิกโปรโมชั่นนี้ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

16 พ.ย. 2023

PEAK Account

2 min

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK รับส่วนลด 10% เมื่อซื้อบริการรายปีกับ Choco CRM

ต่อยอดธุรกิจ เพิ่มยอดขาย คุมต้นทุน ด้วยระบบสมาชิกสะสมแต้มผ่านเบอร์โทรศัพท์ ใช้งานง่ายผ่าน LINE OA ตอบโจทย์ได้ทุกธุรกิจ พร้อมกระตุ้นยอดขายด้วยโปรโมชั่น คูปอง หรือแพ็กเกจของคุณ สื่อสารกับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดด้วยเครื่องมือทางการตลาด เช่น SMS, Email, LINE OA สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK รับส่วนลด 10% เมื่อซื้อบริการรายปีกับ Choco CRM 1. Choco CRM – ระบบ CRM เปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นลูกค้าขาประจำ ราคา 27,000 บาท/ปี (จากปกติ 30,000 บาท) 2. Choco POS – ระบบจัดการหน้าร้าน พร้อม Loyalty Program ราคา 37,800 บาท/ปี (จากปกติ 42,000 บาท) 3. Choco CDP – ระบบ CDP รวบรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกที่ พร้อม Marketing Automation Tools ราคา 43,200 บาท/ปี (จากปกติ 48,000 บาท) ขั้นตอนการรับสิทธิ์ส่วนลด สำหรับลูกค้า PEAK • วิธีรับสิทธิ์ : กรอกรหัสส่วนลดพิเศษ CHOCOPEAK ที่ลิงก์ nbsp; เงื่อนไข และข้อกำหนด  1. สงวนสิทธิ์สำหรับลูกค้า PEAK ที่สนใจการใช้บริการ ChocoCRM ครั้งแรกเท่านั้น 2. จำกัด 1 สิทธิ์ / 1 คน / ตลอดโครงการ 3. สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้ 4. ลูกค้าไม่สามารถโอน หรือมอบสิทธิ์แก่ผู้อื่นได้ 5. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 6. ระยะเวลาสิทธิพิเศษ 1 พฤษจิกายน 2566 – 31 มีนาคม 2567

5 ก.ย. 2023

PEAK Account

1 min

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ 😍 เมื่อช้อปสินค้าผ่าน Double A Delivery ตั้งแต่ 499.- บาทขึ้นไป รับส่วนลดเพิ่มทันที 50.- บาท พร้อมบริการส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ

พบกับสินค้าคุณภาพหลากหลายประเภทที่ตอบโจทย์การทำงานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเขียน กระดาษ ปากกา หน้ากากอนามัย ลำโพงบลูทูธ เครื่องฟอกอากาศ และสินค้าคุณภาพอื่นๆ อีกมากมาย อย่ารอช้า! หมดเขต 31 ต.ค. 2566 นี้ ขั้นตอนการรับส่วนลด 1) เลือกช้อปสินค้าบนเว็บไซต์ Double A Delivery2) ใส่โค้ด PEAK50 หน้าตะกร้าสินค้า และกดปุ่ม “ใช้คูปอง”3) กรอกชื่อ-ที่อยู่สำหรับจัดส่งให้ครบถ้วน (สามารถออกใบกำกับภาษีได้)4) ชำระเงินผ่านการโอนหรือบัตรเครดิต5) รอรับสินค้าจาก Double A Delivery ได้เลย

27 มี.ค. 2024

PEAK Account

12 min

เฟอร์นิเจอร์สำคัญ เปลี่ยนพื้นที่ทำงานให้มีประสิทธิภาพได้

ประเด็นสำคัญ เฟอร์นิเจอร์สำคัญ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การจัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสมเปรียบเสมือนการวางรากฐานการทำงานที่ดี มีประสิทธิภาพ โดยเฟอร์นิเจอร์ 3 ชิ้นหลักที่มีความสำคัญต่อการทำงาน ได้แก่ โต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน และลิ้นชักใส่ของ เปรียบเสมือนอาวุธคู่กายที่จะช่วยให้การทำงานของคุณราบรื่น สะดวกสบายมากขึ้น 1. โต๊ะทำงาน การเลือกใช้โต๊ะทำงานควรให้ความสำคัญกับขนาดที่เหมาะสม หากมีพื้นที่ทำงานขนาดใหญ่ กว้างขวาง ไม่ควรเลือกโต๊ะที่แคบจนเกินไป อาจทำให้รู้สึกอึดอัด เคลื่อนไหวลำบาก ให้เลือกโต๊ะทำงานขนาด 160 x 80 ซม. ก็เพียงพอแล้ว เช่นเดียวกับห้องที่มีพื้นที่ทำงานจำกัด หากเลือกโต๊ะที่เล็กเกินไป อาจทำให้วางของได้ไม่เพียงพอ ทางที่ดีควรเลือกโต๊ะทำงานขนาด 120 x 60 ซม. ถึงจะเพียงพอต่อการใช้งาน นอกจากขนาดโต๊ะแล้ว ความสูงของโต๊ะก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกโต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับได้ เพื่อให้เหมาะกับสรีระของผู้ใช้งาน ช่วยให้นั่งทำงานได้อย่างสบาย โดยไม่ต้องก้มหรือโน้มตัวมากเกินไป ทั้งนี้ โต๊ะทำงานที่วัสดุทนทาน ทำความสะอาด และดูแลรักษาง่าย จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ให้คุณนั่งทำงานกับโต๊ะตัวโปรดได้นานยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนโต๊ะบ่อยๆ ให้สิ้นเปลือง OfficeMate แนะนำโต๊ะที่เหมาะสมสำหรับทำงาน โต๊ะทำงานที่ดีจะส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต ประสิทธิภาพในการทำงาน และบรรยากาศการทำงาน แนะนำโต๊ะทำงานเฟอร์ราเดค รุ่น ST120DA-P จาก OFM ช่วยปรับให้ท่านั่งให้ถูกต้อง ลดอาการปวดเมื่อย คุ้มค่าเกินราคา โต๊ะทำงานที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ  ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก: nbsp; 2. เก้าอี้ทำงาน เก้าอี้ทำงานที่เหมาะกับการนั่งทำงานตลอดวัน ควรมีพนักพิงที่รองรับส่วนโค้งตามธรรมชาติของหลังส่วนล่าง รองรับช่วงเอวให้กระดูกสันหลังของผู้นั่งอยู่ในแนวตรง และควรปรับระดับความสูง พนักพิง หรือที่วางแขนได้ เพื่อรองรับสรีระของผู้ใช้งาน ช่วยให้นั่งทำงานได้อย่างสบาย ลดอาการปวดหลัง คอ และลดความเมื่อยล้า นอกจากนี้ วัสดุของเก้าอี้ควรเป็นวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี และทำความสะอาดง่าย เช่น ผ้าตาข่าย ช่วยให้นั่งทำงานได้นานโดยไม่รู้สึกอึดอัด หรือเลือกเก้าอี้ที่มีฟังก์ชันโยกเอน ช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานได้ OfficeMate แนะนำเก้าอี้สุขภาพที่เหมาะสมสำหรับทำงาน การนั่งทำงานในท่าที่ถูกต้อง ช่วยให้มีสมาธิ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เก้าอี้ Haru ช่วยให้คุณนั่งทำงานได้อย่างสบายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาการปวดเมื่อย ส่งผลให้คุณมีสมาธิจดจ่อกับงานมากขึ้น เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานของคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก: nbsp; 3. ชั้นวางของ โต๊ะทำงานที่รก ไม่เป็นระเบียบ อาจสะท้อนถึงความคิด และการทำงานที่ยุ่งเหยิง การจัดระเบียบพื้นที่ทำงานด้วยลิ้นชักเก็บของที่เหมาะสม จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่งานที่มีประสิทธิภาพ และความคิดสร้างสรรค์ ฉะนั้น การมีลิ้นชักวางของดีๆ จะช่วยเก็บของให้เป็นระเบียบ หาง่าย และช่วยให้โต๊ะทำงานดูเรียบร้อยขึ้น เริ่มจากการเลือกลิ้นชักให้เหมาะสมกับพื้นที่ทำงาน โต๊ะทำงานขนาดเล็กควรเลือกตู้ลิ้นชักแบบกะทัดรัด สูงไม่เกินระดับสายตา ช่วยให้หยิบจับของสะดวก เช่น ตู้ลิ้นชัก 2-3 ลิ้นชัก วางซ้อนกัน หรือตู้ลิ้นชักแบบติดใต้โต๊ะ ส่วนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ให้เลือกตู้ลิ้นชักที่มีหลายลิ้นชัก เก็บของได้มากขึ้น เช่น ตู้ที่มี 4-5 ลิ้นชัก หรือตู้ลิ้นชักแบบตั้งพื้นความสูงเหนือโต๊ะ เป็นการเพิ่มพื้นที่ในการเก็บของไปในตัวด้วย ควรเลี่ยงลิ้นชักที่ใหญ่เทอะทะ กีดขวางการทำงาน และมีน้ำหนักมากจนเกินไป ทำให้ไม่สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย รวมถึงไม่ควรเลือกลิ้นชักที่แคบ ความจุไม่เพียงพอต่อการเก็บของ เพราะหากวางของจนแน่นเกินไป อาจทำให้ลิ้นชักพังเสียหาย หรือหยิบจับสิ่งของได้ไม่สะดวก OfficeMate แนะนำลิ้นชักใส่ของที่เหมาะสมสำหรับห้องทำงาน ลิ้นชักเปรียบเสมือนผู้ช่วยตัวจิ๋วสำหรับโต๊ะทำงาน ช่วยเก็บของให้เป็นระเบียบ หยิบจับสะดวก เพิ่มพื้นที่ทำงานให้กว้างขวางขึ้น การเลือกลิ้นชักที่เหมาะสม จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และราบรื่น OFM แนะนำตู้ลิ้นชักเหล็กล้อเลื่อน 3 ชั้น สีขาว เฟอร์ราเดค ตอบโจทย์คุณ! หมดปัญหาของรก หาของไม่เจอ พร้อมเพิ่มพื้นที่ทำงานได้อีกเยอะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก: nbsp; สรุป นอกจากเฟอร์นิเจอร์ 3 ชิ้นหลักแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน เช่น แสงสว่าง การระบายอากาศ และการตกแต่งพื้นที่ทำงาน ช่วยเพิ่มประสบการณ์การทำงานที่ดีขึ้น หากไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง อาจลองเอาคำแนะนำที่ OfficeMate นำมาฝากไปปรับใช้กับพื้นที่ทำงานของคุณได้  หากต้องการเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้พื้นที่ทำงานของคุณดูเป็นระเบียบ สะดวก สบาย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เข้ามาเลือกดูได้ที่ OfficeMate เมื่อกิจการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่จะช่วยสร้างพื้นที่การทำงานที่มีประสิทธิภาพเรียบร้อยแล้ว ต้องการบันทึกค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้เป็นรายจ่ายของบริษัทอย่างครบถ้วน ถูกต้อง แม่นยำแล้ว PEAK โปรแกรมบีญชีออนไลน์ คือ คำตอบของการทำงานบัญชีที่มีประสิทธิภาพ

27 มี.ค. 2024

PEAK Account

7 min

ตู้เอกสาร จัดเก็บให้เป็นระเบียบได้อย่างไร

ประเด็นสำคัญ  5 เคล็ดลับจัดเก็บตู้เอกสารอย่างมืออาชีพ 1. คัดแยกเอกสาร การจัดระเบียบตู้เอกสารควรเริ่มต้นด้วยการคัดแยกเอกสาร แยกประเภทให้ชัดเจนว่าเอกสารไหนสำคัญ ควรเก็บไว้ เอกสารไหนไม่จำเป็น เช่น ใบปลิว โฆษณา เอกสารเก่าที่หมดอายุ ควรทิ้ง หรือนำไปรีไซเคิล รวมถึงควรแยกเอกสารตามวันที่ โดยเรียงลำดับจากเก่าไปใหม่ ไม่ควรเก็บไว้รวมกัน สำหรับเอกสารสำคัญ ก็ควรแยกประเภทให้ชัดเจนด้วยเช่นกัน เช่น ใบเสร็จรับเงิน แยกเป็นปี 2567, 2566 หรือหากเป็นเอกสารสัญญา ใบทะเบียน ประกัน ให้แยกเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน 2. ตั้งระบบการจัดเก็บให้หาง่าย สะดวก รวดเร็ว เลือกวิธีจัดเก็บเอกสารที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง และควรเลือกให้เหมาะกับชนิดของเอกสารที่จัดเก็บด้วย เช่น  เหมาะสำหรับเอกสารไม่หนามาก รวมถึงเอกสารที่หยิบเข้า-ออกบ่อยครั้ง เพื่อให้หาง่าย และสามารถหยิบออกมาใช้งานได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับเอกสารจำนวนมาก ไม่ควรใส่ซองบางๆ เนื่องจากเอกสารมีความหนา จึงต้องการความแข็งแรงของแฟ้มมารองรับปริมาณเอกสาร เหมาะสำหรับเอกสารเก่า ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือเอกสารที่ต้องกำจัด ที่สำคัญ อย่าลืมติดชื่อเอกสารไว้หน้ากล่อง เพื่อความสะดวกต่อการทำลาย หรือนำไปรีไซเคิล ทั้งนี้ ควรตั้งชื่อหมวดหมู่ให้ชัดเจน สื่อความหมายที่เข้าใจง่าย จัดเรียงเอกสารตามลำดับ เช่น ลำดับตัวอักษร และลำดับวันที่ 3. เก็บเอกสารในตู้ที่เหมาะสม ตู้เอกสารที่เหมาะสมควรจะปลอดภัย ให้เลือกตู้เอกสารที่มีขนาดพอเหมาะกับจำนวนเอกสาร ไม่เล็กจนแน่นเกินไป หรือใหญ่จนเหลือพื้นที่ว่างมากเกินไป และควรเลือกตู้ที่มีชั้นวาง มีพื้นที่แบ่งเป็นช่องสำหรับเก็บเอกสารแต่ละหมวดหมู่ 4. ทำความสะอาดตู้เอกสารเป็นประจำ สุขอนามัยดีของตู้เก็บเอกสาร ส่งผลต่อสุขภาพที่ดีของผู้ใช้งานด้วยเช่นกัน ดังนั้น ควรรักษาความสะอาดของตู้ รวมถึงบริเวณโดยรอบตู้เอกสารด้วยเป็นอย่างดี เช่น เช็ดฝุ่นทั้งด้านใน และด้านนอกตู้เอกสารอย่างน้อยเดือนละครั้ง จัดเก็บเอกสารให้เรียบร้อย ไม่วางซ้อนกันจนยุ่งเหยิง หมั่นกำจัดเอกสารที่ไม่จำเป็น และไม่ควรนำสิ่งของที่ไม่จำเป็นเข้าไปรวมกับเอกสาร เพื่อไม่ให้ตู้ล้น จนไม่มีพื้นที่จัดเก็บเอกสารจำเป็น 5. ใช้เทคโนโลยีช่วยจัดเก็บเอกสาร ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และชาญฉลาด ช่วยเก็บเอกสาร พร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน แถมยังมีให้เลือกหลากหลาย และใช้ฟรีอีกด้วย OfficeMate แนะนำให้เก็บเอกสารด้วยวิธีที่ง่าย และรวดเร็ว ด้วยการสแกนเอกสารสำคัญเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือ Cloud Storage เช่น Google Drive, Dropbox ตั้งชื่อไฟล์ให้ชัดเจน ค้นหาได้ง่าย ที่สำคัญควรสำรองข้อมูลไว้เป็นประจำ เพื่อป้องกันเอกสารเสียหาย หรือสูญหาย สรุป การจัดตู้เอกสารให้เป็นระเบียบ จะช่วยให้สามารถค้นหาเอกสารที่ใช้ในการทำงานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ดังนั้น เราจึงควรจัดระบบการจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ และเลือกวิธีการจัดเก็บเอกสารที่เหมาะสมกับการใช้งาน อย่ารอช้า! มาเริ่มจัดการตู้เอกสารของคุณให้เป็นระเบียบ เริ่มต้นด้วย 5 ขั้นตอนง่ายๆ จาก OfficeMate ได้เลย หรือใครยังหาตัวช่วยจัดเก็บเอกสารเพิ่มเติม OfficeMate ยังมีอุปกรณ์สำนักงาน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับคุณ พร้อมมอบประสบการณ์ในการจัดเก็บเอกสารที่คุณอาจไม่เคยพบมาก่อน สามารถเข้ามาเลือกดูได้ที่ OfficeMate นอกจากการจัดเก็บเอกสารอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การสร้างเอกสารสำคัญทางธุรกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ออกบิลเงินสด, ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารบัญชีต่างๆ ได้อย่าง สะดวก รวดเร็ว ในไม่กี่ขั้นตอน สร้างเอกสารทางธุรกิจ ครบถ้วน ถูกต้อง แม่นยำ ป้องกันปัญหาอย่างมืออาชีพ

27 มี.ค. 2024

PEAK Account

12 min

“นักบัญชี” บทบาทสำคัญที่ผู้ประกอบการควรรู้

ประเด็นสำคัญ  ในยุคสมัยที่ธุรกิจมีความซับซ้อน การเงินกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จ เจ้าของธุรกิจหลายคนจึงมองหานักบัญชีมืออาชีพเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ  แล้วธุรกิจขนาดเล็กล่ะ? จำเป็นต้องจ้างนักบัญชีด้วยหรือ? ก็ต้องบอกว่าหากเจ้าของธุรกิจที่ต้องการข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้องเพื่อใช้ในการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ ควรมีนักบัญชีมืออาชีพมาช่วยจัดการ แต่การจ้างนักบัญชีสักคน ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติหลายประการด้วยเช่นกัน นักบัญชีกับบทบาทในกิจการ บทความนี้ PEAK ร่วมกับ OfficeMate จะพาคุณไปรู้จักกับบทบาทที่หลากหลาย ทักษะที่จำเป็น รวมถึงประเภทของนักบัญชี เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้กับผู้ประกอบการที่กำลังมองหานักบัญชี นักบัญชีเปรียบเสมือนผู้ดูแลด้านการเงินของธุรกิจ หน้าที่หลักของพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่การบันทึกรายรับรายจ่ายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องสำคัญต่างๆ เหล่านี้ด้วยเช่นกัน 1. การจัดทำบัญชี นักบัญชีทำหน้าที่จัดทำงบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด และรายงานทางการเงินอื่นๆ เปรียบเสมือนภาพสะท้อนสถานะทางการเงินของธุรกิจ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจถึงสถานะทางการเงิน สามารถวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. การเสียภาษี นักบัญชีจะคำนวณภาษี เตรียมเอกสาร และยื่นแบบแสดงรายการภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจให้ครบถ้วน ถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยให้ธุรกิจไม่ต้องเสียค่าปรับ เงินเพิ่มจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องโดยไม่จำเป็นได้ 3. การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน นักบัญชีจะวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน เช่น อัตราส่วนทางการเงิน จุดคุ้มทุน กระแสเงินสด เพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การวิเคราะห์อัตราส่วนสภาพคล่อง ช่วยให้เจ้าของธุรกิจทราบว่าธุรกิจมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะชำระหนี้สินระยะสั้นหรือไม่ หรือหากมีความผิดปกติทางการเงินเกิดขึ้น นักบัญชีจะได้นำเสนอข้อมูลต่อผู้บริหาร เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที  4. การให้คำปรึกษาทางการเงิน นักบัญชีสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนภาษี การจัดการเงินทุน การลงทุน และอื่นๆ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักบัญชีมืออาชีพควรมีทักษะอะไรบ้าง นอกเหนือจากความรู้ด้านบัญชีซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญแล้ว นักบัญชีจำเป็นจะต้องมีทักษะบางประการที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการทำงานร่วมกับ ทีมอื่นๆ ในบริษัทได้เป็นอย่างดี ได้แก่ 1. การใช้โปรแกรมบัญชี นักบัญชีควรมีความเชี่ยวชาญในการใช้งานโปรแกรมบัญชีที่รองรับระบบบัญชีของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้ทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และลดความผิดพลาดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ 2. การสื่อสาร หน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่งของนักบัญชี ก็คือ การอธิบายข้อมูลทางการเงินให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจได้อย่างชัดเจน เช่น การนำเสนอผลประกอบการ อธิบายสาเหตุของกำไรหรือขาดทุน ดังนั้น นักบัญชีจึงควรมีทักษะในการสื่อสารที่ดี เพื่อถ่ายทอดข้อมูลดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. กฎหมาย นักบัญชีควรมีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน กฎหมายธุรกิจ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง 4. การคิดวิเคราะห์ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน หาสาเหตุของปัญหาและเสนอแนะแนวทางแก้ไข เช่น การวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน ปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนแนวทางแก้ไขที่ควรปฏิบัติ เป็นต้น  นักบัญชีกับประเภทงานบัญชีของกิจการ การจัดการงานบัญชีนั้นจะเกี่ยวข้องกับงานหลายส่วน จึงสามารถแบ่งงานบัญชีออกเป็นประเภทต่างๆ ซึ่งมีความรับผิดชอบการดำเนินงานที่แตกต่างกัน ดังนี้ 1. การบัญชีการเงิน เป็นงานบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชีและนำเสนอรายงานทางการเงิน ตลอดจนงบการเงินของกิจการที่จัดทำขึ้นภายใต้มาตรฐานบัญชี เพื่อนำข้อมูลต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและนอกองค์กร 2. การบัญชีบริหาร เป็นการจัดทำบัญชีและรายงานทางการเงินขององค์กรต่อฝ่ายบริหารเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการวางแผนการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ 3. การบัญชีต้นทุน เป็นวิธีการทางบัญชีที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลต้นทุนของธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำใช้ในการจัดทำรายงานทางการเงินตลอดจนวิเคราะห์และจำแนกข้อมูลเพื่อใช้ในการบริหารต้นทุนของกิจการ เพื่อให้ทราบถึงต้นทุนการผลิต ต้นทุนขาย ตลอดจนตีราคาสินค้าคงเหลือ เพื่อนำไปสู่การวางแผนบริหารจัดการต้นทุนต่อไป 4. การตรวจสอบบัญชี เป็นกระบวนการตรวจสอบรายการทางบัญชี ตลอดจนหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงบัญชีของบุคคลหรือองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่ารายการต่างๆ ได้มีการถูกบันทึกไว้อย่างถูกต้อง เหมาะสม  เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี และข้อบังคับของกฎหมาย โดยปกติการตรวจสอบบัญชีจะทำโดยผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) เพื่อขจัดปัญหาความลำเอียงในการปฏิบัติงานตรวจสอบ 5. การบัญชีภาษี เป็นกระบวนการจัดทำบัญชีของกิจการ โดยพิจารณาปรับเปลี่ยนข้อมูลทางบัญชีบางรายการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายภาษีอากร เพื่อให้ได้ข้อมูลที่นำไปใช้ในการคำนวณภาษีเงินได้ รวมทั้งการจัดทำรายการที่เกี่ยวข้องตามข้อกำหนดของกฎหมายภาษีอากร  6. ระบบสารสนเทศทางการบัญชี จะเกี่ยวข้องกับการพัฒนา ติดตั้ง ใช้งาน และตรวจสอบขั้นตอนการบัญชี ตลอดจนระบบที่ใช้ในกระบวนการบัญชี รวมถึงทิศทางบุคลากรทางการบัญชี และการจัดการซอฟต์แวร์ ข้อดี vs ข้อจำกัดของการจ้างนักบัญชี ข้อดีของการจ้างนักบัญชี ข้อจำกัดของการจ้างนักบัญชี สรุป ข้อมูลข้างต้น เป็นการวิเคราะห์เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังวางแผนจัดการด้านการเงิน หรือพัฒนาระบบบัญชีของกิจการ อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ถี่ถ้วน หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ หากเป็นเรื่องอุปกรณ์จำเป็นในการจัดการบัญชี ไม่ว่าจะเป็นแฟ้มเก็บเอกสาร แบบฟอร์มหนังสือรับรองการหักภาษี บิลเงินสด ใบเสร็จรับเงิน ใบส่งของ หรือแบบฟอร์มเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ แนะนำที่ มีสินค้าที่ช่วยให้นักบัญชีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7 ก.พ. 2024

admincontent

2 min

BeNeat มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รับส่วนลดสูงสุด 7%

BeNeat แอปพลิเคชันเรียกคุณแม่บ้านมืออาชีพ สะดวก ใช้งานง่าย เลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ บริการทำความสะอาดแบบรายชั่วโมง ให้บ้านน่าอยู่ขึ้นได้ในพริบตา คุณแม่บ้านบีนีทมืออาชีพไปพร้อมอุปกรณ์และน้ำยาทำความสะอาดแบบครบครัน พร้อมทั้งรับประกันความพึงพอใจ พิเศษ! ลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รับส่วนลดสูงสุด 7% เมื่อจองบริการทำความสะอาดรายชั่วโมงแบบแพ็กเกจ 5 ครั้งขึ้นไป เพียงแจ้งโค้ดส่วนลดรับสิทธิ์ ผ่าน LINE @BeNeat เงื่อนไขในการรับสิทธิ์ – ระยะเวลาโปรโมชั่น วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2567 – จำกัดเพียง 200 แพ็กเกจเท่านั้น ตลอดรายการส่งเสริมการขาย หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด – สามารถจองบริการไว้ล่วงหน้าได้ ไม่มีวันหมดอายุ – รหัสส่วนลดสามารถใช้ได้ 1 ครั้ง/ รหัสผู้ใช้งาน – พื้นที่ให้บริการ : กรุงเทพ ปริมณฑล เชียงใหม่ และชลบุรี – สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยน/ทอนเป็นเงินสด หรือใช้ร่วมกับส่วนลดอื่นๆ ได้ – เงื่อนไขการให้บริการเพิ่มเติมเป็นไปตามนโยบายทางบริษัทฯ หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2113-1138, [email protected] หรือ LINE @BeNeat

31 ม.ค. 2024

PEAK Account

2 min

ลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ จาก empeo ระบบบริหารงานบุคคลครบวงจร

empeo โปรแกรมบริหารงานบุคคลที่มีความทันสมัยและครบวงจร ฟีเจอร์ครบถ้วนสามารถจัดการบุคลากรอย่างเป็นระบบ  ใช้งานง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ ตอบโจทย์ด้าน HR รองรับการคำนวณเงินเดือนแบบอัตโนมัติ พร้อมรายงานด้าน HR และ Payroll ที่ครบถ้วน สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK เมื่อเริ่มใช้งาน empeo ต่อที่ 1 ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน! ต่อที่ 2 รับสิทธิ์ใช้งานเพิ่มฟรี 1 เดือน เมื่อสมัครใช้บริการรายปี ต่อที่ 3 รับสิทธิ์แลกซื้อ พร้อมลดส่วน 30% เมื่อซื้อ IOMO รุ่น FGA-1500/FGA-2000 จำนวน 1 สิทธิ์ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. – 15 เม.ย. 2567 คลิก (ใส่รหัสคูปอง : empeoxPEAK ) หรือติดต่อฝ่ายขาย empeo โทร. 02-784-5855 สอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ PEAK Call Center : 1485

26 ม.ค. 2024

PEAK Account

2 min

Venio มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้ม ให้กับลูกค้า PEAK

ลูกค้า PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รับสิทธิ์ใช้งาน Venio โปรแกรม SalesCRM บริหารทีมขายอย่างมืออาชีพ ดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง เพิ่มยอดขาย เพิ่มฐานลูกค้าอย่างยั่งยืน ฟรี 30 วัน! พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 10%  Venio โปรแกรม Sales CRM สำหรับธุรกิจ B2B พัฒนาบนแนวคิด Customer Centric ช่วยคุณบริหารทีมขาย เก็บข้อมูล และดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง เห็นภาพรวมของทีมขายและลูกค้า ครอบคลุมยิ่งกว่าระบบ CRM ทั่ว ๆ ไป เพราะ Venio มาพร้อม Sales Assistant เพิ่มประสิทธิภาพในการปิดการขายได้อย่างตรงจุด ใช้งานง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า PEAK รับสิทธิ์ทดลองใช้งาน Venio ฟรี 30 วัน! และรับส่วนลด 10% เมื่อสมัครใช้บริการรายปี ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม – 15 เมษายน 2567 เท่านั้น คลิก (ใส่รหัสคูปอง : VenioxPEAK) หรือติดต่อฝ่ายขาย Venio โทร. 02-784-5855 สอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ PEAK Call Center : 1485