เมื่อมีการกดปุ่มส่ง e-Tax ให้กับทางคู่ค้า แล้วระบบขึ้นข้อความแจ้งเตือน “Description Error” (ตามรูปข้างล่าง) เกิดจากช่องคำอธิบายรายการแต่ละกล่องข้อความ อักขระมีความยาวเกิน 256 อักขระ

วิธีการแก้ไขข้อความแจ้งเตือน Description Error แบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้
     กรณีที่ 1  รูปแบบเอกสารใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี
     กรณีที่ 2 รูปแบบเอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี
     กรณีที่ 3 รูปแบบเอกสารใบกำกับภาษีแบบแยก

กรณีที่ 1 รูปแบบเอกสารใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี

ขั้นตอนที่ 1 : เข้าไปที่เอกสารใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี ที่กดส่ง e-Tax ขึ้นแจ้ง Description Error กดเครื่องหมาย Dropdown ตรงปุ่มตัวเลือก>> เลือกแก้ไข

ขั้นตอนที่ 2 : กดเพิ่มคำอธิบายที่ 2  แล้วทำการแบ่งคำจากคำอธิบายที่ 1 มาใส่คำอธิบายที่ 2 เพราะช่องคำอธิบายแต่ละช่อง ต้องระบุไม่เกิน 256 อักขระ เมื่อทำการแก้ไขเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่มอนุมัติรายการ

ขั้นตอนที่ 3 : กดเครื่องหมาย Drop down ตรงปุ่มส่งอีเมล เลือกส่ง e-Tax Invoice

กรณีที่ 2 รูปแบบเอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี

ขั้นตอนที่ 1 : 
เข้าไปที่เอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ที่กดส่ง e-Tax ขึ้นแจ้ง Description Error กดเครื่องหมาย Drop down ตรงปุ่มตัวเลือก >> Void
สาเหตุที่ Void เอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี เพราะเอกสารใบเสร็จรับเงินไม่สามารถแก้ไขข้อมูลใดๆได้ ต้องดำเนินการ Void แล้วออกใหม่เท่านั้น

เมื่อทำการ Void เอกสารเรียบร้อยแล้ว เอกสารจะอยู่ในถังขยะ

ขั้นตอนที่ 2 : ทำการสร้างเอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีใหม่ โดยสามารถคัดลอกเอกสารที่อยู่ในถังขยะขึ้นมาได้ โดยกดปุ่มตัวเลือก >> เลือกคัดลอก

ขั้นตอนที่ 3 : แก้ไขคำอธิบายข้อมูลเอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี
โดยกดเพิ่มคำอธิบายที่ 2  แล้วทำการแบ่งคำจากคำอธิบายที่ 1 มาใส่คำอธิบายที่ 2 เพราะช่องคำอธิบายแต่ละช่อง ต้องระบุไม่เกิน 256 อักขระ เมื่อทำการแก้ไขเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่มอนุมัติรายการ

หมายเหตุ : ก่อนทำการกดอนุมัติเอกสาร ตรวจสอบรายการวันที่ออก และเลขที่เอกสารก่อน
เลขที่เอกสาร สามารถใช้เลขที่เก่าที่ทำการ Void ไปได้ โดยให้ทำการ Copy เลขที่เอกสารเก่า มาใส่ในช่องเลขที่เอกสารของเอกสารใหม่

ขั้นตอนที่ 4 : กดเครื่องหมาย Drop down ตรงปุ่มส่งอีเมล เลือกส่ง e-Tax Invoice

กรณีที่ 3 รูปแบบเอกสารใบกำกับภาษีแบบแยก

ขั้นตอนที่ 1 : 
เข้าไปที่เอกสารใบกำกับภาษีแบบแยก >> กดปุ่มตัวเลือก >> เลือก Void

ระบบจะเด้ง Pop-Up ยืนยันการยกเลิกเอกสาร ให้ทำการกดปุ่มตกลง

ขั้นตอนที่ 2 : เข้าไปแก้ไขเอกสารที่นำมาทำการอ้างอิงการสร้างใบกำกับภาษี
2.1. หากอ้างอิงจากใบแจ้งหนี้ สามารถทำตามขั้นตอนที่ 1, 2 ตามรูปแบบที่ 1 เอกสารใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี
2.2. หากอ้างอิงจากใบเสร็จรับเงิน ให้ทำตามรูปแบบที่ 1, 2, 3 ตามรูปแบบที่ 2 เอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี

ขั้นตอนที่ 3 : เมื่อแก้ไขคำอธิบายในเอกสารที่นำมาอ้างอิงเรียบร้อยแล้ว ดำเนินการออกเอกสารใบกำกับภาษีแบบแยก โดยไปที่หน้ารายรับ >> ใบกำกับภาษีขาย >> กดปุ่มสร้าง >> ระบุเลขที่เอกสารที่ต้องการอ้างอิง

ขั้นตอนที่ 4 : ทำการกดปุ่มอนุมัติรายการใบกำกับภาษีแบบแยก

หมายเหตุ : ก่อนทำการกดอนุมัติเอกสาร ตรวจสอบรายการวันที่ออก และเลขที่เอกสารก่อน
เลขที่เอกสาร สามารถใช้เลขที่เก่าที่ทำการ Void ไปได้ค่ะ โดยให้ทำการ Copy เลขที่เอกสารเก่า มาใส่ในช่องเลขที่เอกสารของเอกสารใหม่

ขั้นตอนที่ 5 : กดเครื่องหมาย Drop down ตรงปุ่มส่งอีเมล เลือกส่ง e-Tax Invoice

ติดตามความรู้จาก โปรแกรมบัญชี PEAK ได้ที่ peakaccount.com
หรือเข้าใช้งานโปรแกรม คลิก เข้าสู่ระบบ PEAK

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

PEAK แตกต่างจากโปรแกรมบัญชีอื่นอย่างไร ?


1. เป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์

    สามารถเข้าถึงข้อมูลจากทุกที่และทุกเวลาโดยไม่ต้องกังวลการจ้างพนักงาน IT เพื่อดูแลเครื่อง server มีการ Back up ข้อมูลทุก ๆ 5 นาที

2. ฟังก์ชั่นครบจบตั้งแต่ออกเอกสารถึงปิดงบ

    ระบบจะบันทึกข้อมูลบัญชีโดยอัตโนมัติเมื่อคุณสร้างเอกสารธุรกิจ และแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสต็อก รายได้ ค่าใช้จ่าย กำไร ขาดทุน และงบการเงินแบบ Real Time นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ช่วยประหยัดเวลาของคุณอีกมากมาย

รายละเอียด PEAK Highlight Feature

ฟีเจอร์สำหรับ เจ้าของธุรกิจ นักบัญชี และพันธมิตรซอฟแวร์

3.การบริการสนับสนุนและการอบรม

    มีเจ้าหน้าที่นักบัญชีที่เชี่ยวชาญให้บริการการตอบคำถามทุกวันไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์และมีสัมมนาสอนการใช้งานฟรีทุกเดือน หรือสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เช่น บัญชีภาษี การเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ เป็นต้น

หากคุณสนใจโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK คลิกเพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หรือ คลิกดูโปรโมชั่นของ PEAK ได้หรือโทร 1485 กด 1 เพื่อพูดคุยกับทีมงานของ PEAK เพิ่มเติม

PEAK เก็บข้อมูลไว้กี่ปี ?


ระบบจะเก็บข้อมูลไว้ 5 ปี นับจากครั้งล่าสุดที่คุณเข้าสู่ระบบ(Log in) แต่หากคุณเข้ามาใช้งานโปรแกรมอยู่เรื่อยๆ ข้อมูลจะไม่หายไปแน่นอน นอกจากนี้ระบบสำรองข้อมูล(Back up)อัตโนมัติทุกๆ 5 นาทีเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลจะไม่สูญหายและยังมีการสำรองข้อมูลแบบ Real-time ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลามานั่ง Backup ข้อมูลเอง

PEAK เป็นโปรแกรมที่ซื้อขาดครั้งเดียวหรือไม่ ?


การซื้อหรือการต่ออายุโปรแแกรมเป็นแบบรายเดือน และรายปี

เนื่องจาก PEAK เป็นธุรกิจ SaaS (Software as a Service) ให้บริการผ่านระบบคลาวด์พร้อมการ backup ข้อมูลอัตโนมัติ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายการใช้ server รายเดือนเป็นต้นทุนของการให้บริการ (ต่างกับโปรแกรมออฟไลน์ซึ่งผู้ใช้งานต้องดูแลในส่วนของ backup และ server เอง) ทำให้แพ็กเก็จของ PEAK ไม่มีแบบซื้อขาด

นอกจากนี้การที่ PEAK ไม่มีแพ็คเกจแบบซื้อขาด ยังเป็นการทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า PEAK ต้องรักษามาตรฐานในการพัฒนาโปรแกรมให้ทันสมัย และใช้งานได้ดีอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความมั่นใจในการต่ออายุ

หากคุณสนใจโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK คลิกเพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หรือ คลิกดูโปรโมชั่นของ PEAK ได้หรือโทร 1485 กด 1 เพื่อพูดคุยกับทีมงานของ PEAK เพิ่มเติม

ฉันใช้หลายกิจการต้องจ่ายค่าแพ็กเกจยังไง ?


การชำระเงินค่าแพ็กเกจของ PEAK จะเป็นการจ่าย 1 กิจการต่อ 1 แพ็กเกจ หากมี 3 กิจการจะต้องจ่าย 3 แพ็กเกจ

หากคุณสนใจโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK คลิกเพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หรือ คลิกดูโปรโมชั่นของ PEAK ได้หรือโทร 1485 กด 1 เพื่อพูดคุยกับทีมงานของ PEAK เพิ่มเติม

ฉันต้องการย้ายข้อมูลจากโปรแกรมบัญชีเดิมมาโปรแกรม PEAK ทำอย่างไร ?


การเตรียมและย้ายข้อมูลจากโปรแกรมบัญชีเดิมมาที่โปรแกรม PEAK ง่ายๆ ด้วยตัวช่วยดังนี้

  1. เตรียมและย้ายข้อมูลด้วยตัวของคุณเองคลิกอ่านคู่มือที่ link https://bit.ly/3sKjMql การย้ายข้อมูลจากโปรแกรมเดิมมาที่ PEAK

  2. ย้ายข้อมูลด้วยคนจากสำนักงานบัญชีพาร์ทเนอร์ (มีค่าใช้จ่าย)

หากสนใจให้พาร์เนอร์ของ PEAK ช่วยย้ายข้อมูลให้ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ PEAK ที่เบอร์ 1485 กด 1 ได้เลย