การเชื่อมต่อการส่ง e-Tax Invoice & e-Receipt ผ่านผู้ให้บริการ INET มีเงื่อนไขการการเชื่อมต่อดังนี้

  • ผู้ใช้งานต้องทำการสมัครบริการบน INET ก่อนทำการเชื่อมต่อกับ PEAK 
  • ขั้นตอนการเชื่อมต่อเข้าที่เมนูตั้งค่า > เชื่อมต่อ e-Tax Invoice > INET  
  • หากกิจการมีการเชื่อมต่อการส่งกับผู้ให้บริการอื่น (เช่น e-Tax Invoice by email) จะไม่สามารถเชื่อมต่อได้

​วิธีการเชื่อมต่อ INET มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 เข้าเมนูตั้งค่า > การเชื่อมต่อระบบภายนอก > เชื่อมต่อ E-Tax invoice

ขั้นตอนที่ 1 เข้าเมนูตั้งค่า >  การเชื่อมต่อระบบภายนอก  > เชื่อมต่อ E-Tax invoice

ขั้นตอนที่ 2 เลือก INET

ขั้นตอนที่ 2 เลือก INET

​ขั้นตอนที่ 3 กดเชื่อมต่อ

ขั้นตอนที่ 4: กรอกข้อมูลการเชื่อมต่อ

ข้อมูลที่ต้องใส่เพื่อเชื่อมต่อกับทาง INET จะได้รับมาจากเอกสารของทาง INET หลังสมัครสำเร็จดังนี้

  • ตัวอย่างแบบฟอร์มเอกสารที่ได้รับจากทาง INET ที่จะมาคีย์ข้อมูลการเชื่อมต่อใน PEAK จุดสังเกตข้อมูลให้ดูที่หัวเอกสารของ INET จะขึ้นแสดง “รายละเอียดที่ใช้ในการเชื่อมต่อ Service สำหรับระบบ Production”
รายละเอียดที่ใช้ในการเชื่อมต่อ Service สำหรับระบบ Production

1. เลขผู้เสียภาษี 13 หลัก = ระบบจะดึงจากหน้าตั้งค่ากิจการใน PEAK ให้ตรวจสอบกับแบบฟอร์ม INET ที่ช่อง SellerTaxId (1)
2. เลขที่สาขา = ระบบจะดึงจากหน้าตั้งค่ากิจการใน PEAK ให้ตรวจสอบกับแบบฟอร์ม INET ที่ช่อง SellerBranchId (2)
3. API Key = นำข้อมูลจากแบบฟอร์ม INET ที่ช่อง API Key มาคีย์ใน PEAK
4. User Code = นำข้อมูลจากแบบฟอร์ม INET ที่ช่อง User Code มาคีย์ใน PEAK
5. Access Key = นำข้อมูลจากแบบฟอร์ม INET ที่ช่อง Access Key มาคีย์ใน PEAK
6. Access Token (ถ้ามี) = นำข้อมูลจากแบบฟอร์ม INET ที่ช่อง Authorization Code มาคีย์ใน PEAK

เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว กดปุ่ม “ตกลง”​ ทางขวามือล่าง

ข้อมูลที่ต้องใส่เพื่อเชื่อมต่อกับทาง INET จะได้รับมาจากเอกสารของทาง INET หลังสมัครสำเร็จดังนี้

​ขั้นตอนที่ 5 ขั้นตอนการกดส่ง e- Tax invoice

เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ ให้เข้าเอกสารรายรับที่ต้องการส่งซึ่งจะต้องเป็นเอกสารที่เป็นใบกำกับภาษี จะแสดงตัวเลือก ส่งเอกสาร > e-Tax Invoice เพื่อใช้สำหรับส่งข้อมูลให้ทาง INET เพื่อทำ e-Tax Invoice

หากการส่งข้อมูลสำเร็จ ระบบจะทำการบันทึกเอกสารที่มีการลงลายมือชื่อดิจิทัลสำเร็จให้ที่หน้าเอกสาร และอัปเดตสถานะเอกสารเป็นส่ง e-Tax Invoice แล้ว
  • หากการส่งข้อมูลสำเร็จ ระบบจะทำการบันทึกเอกสารที่มีการลงลายมือชื่อดิจิทัลสำเร็จให้ที่หน้าเอกสาร และอัปเดตสถานะเอกสารเป็นส่ง e-Tax Invoice แล้ว
  • ตัวอย่างเอกสารที่มีการลงลายมือชื่อดิจิทัล จะมีข้อมูลช่วงเวลาและผู้ประทับตราแสดงที่มุมขวาบนของเอกสาร
ตัวอย่างเอกสารที่มีการลงลายมือชื่อดิจิทัล จะมีข้อมูลช่วงเวลาและผู้ประทับตราแสดงที่มุมขวาบนของเอกสาร

สามารถดูวิดิโอการเชื่อมต่อการส่ง e-Tax Invoice & e-Receipt ผ่านผู้ให้บริการ INET และ e-Tax Invoice By Email
ได้ที่ลิงก์ วิธีการเชื่อมต่อ e-Tax Invoice by Email และ e-Tax Invoice & e-Receipt

​- จบขั้นตอนการเชื่อมต่อการส่ง e-Tax Invoice & e-Receipt ผ่านผู้ให้บริการ INET –

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

PEAK แตกต่างจากโปรแกรมบัญชีอื่นอย่างไร ?


1. เป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์

    สามารถเข้าถึงข้อมูลจากทุกที่และทุกเวลาโดยไม่ต้องกังวลการจ้างพนักงาน IT เพื่อดูแลเครื่อง server มีการ Back up ข้อมูลทุก ๆ 5 นาที

2. ฟังก์ชั่นครบจบตั้งแต่ออกเอกสารถึงปิดงบ

    ระบบจะบันทึกข้อมูลบัญชีโดยอัตโนมัติเมื่อคุณสร้างเอกสารธุรกิจ และแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสต็อก รายได้ ค่าใช้จ่าย กำไร ขาดทุน และงบการเงินแบบ Real Time นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ช่วยประหยัดเวลาของคุณอีกมากมาย

รายละเอียด PEAK Highlight Feature

ฟีเจอร์สำหรับ เจ้าของธุรกิจ นักบัญชี และพันธมิตรซอฟแวร์

3.การบริการสนับสนุนและการอบรม

    มีเจ้าหน้าที่นักบัญชีที่เชี่ยวชาญให้บริการการตอบคำถามทุกวันไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์และมีสัมมนาสอนการใช้งานฟรีทุกเดือน หรือสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เช่น บัญชีภาษี การเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ เป็นต้น

หากคุณสนใจโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK คลิกเพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หรือ คลิกดูโปรโมชั่นของ PEAK ได้หรือโทร 1485 กด 1 เพื่อพูดคุยกับทีมงานของ PEAK เพิ่มเติม

PEAK เก็บข้อมูลไว้กี่ปี ?


ระบบจะเก็บข้อมูลไว้ 5 ปี นับจากครั้งล่าสุดที่คุณเข้าสู่ระบบ(Log in) แต่หากคุณเข้ามาใช้งานโปรแกรมอยู่เรื่อยๆ ข้อมูลจะไม่หายไปแน่นอน นอกจากนี้ระบบสำรองข้อมูล(Back up)อัตโนมัติทุกๆ 5 นาทีเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลจะไม่สูญหายและยังมีการสำรองข้อมูลแบบ Real-time ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลามานั่ง Backup ข้อมูลเอง

PEAK เป็นโปรแกรมที่ซื้อขาดครั้งเดียวหรือไม่ ?


การซื้อหรือการต่ออายุโปรแแกรมเป็นแบบรายเดือน และรายปี

เนื่องจาก PEAK เป็นธุรกิจ SaaS (Software as a Service) ให้บริการผ่านระบบคลาวด์พร้อมการ backup ข้อมูลอัตโนมัติ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายการใช้ server รายเดือนเป็นต้นทุนของการให้บริการ (ต่างกับโปรแกรมออฟไลน์ซึ่งผู้ใช้งานต้องดูแลในส่วนของ backup และ server เอง) ทำให้แพ็กเก็จของ PEAK ไม่มีแบบซื้อขาด

นอกจากนี้การที่ PEAK ไม่มีแพ็คเกจแบบซื้อขาด ยังเป็นการทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า PEAK ต้องรักษามาตรฐานในการพัฒนาโปรแกรมให้ทันสมัย และใช้งานได้ดีอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความมั่นใจในการต่ออายุ

หากคุณสนใจโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK คลิกเพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หรือ คลิกดูโปรโมชั่นของ PEAK ได้หรือโทร 1485 กด 1 เพื่อพูดคุยกับทีมงานของ PEAK เพิ่มเติม

ฉันใช้หลายกิจการต้องจ่ายค่าแพ็กเกจยังไง ?


การชำระเงินค่าแพ็กเกจของ PEAK จะเป็นการจ่าย 1 กิจการต่อ 1 แพ็กเกจ หากมี 3 กิจการจะต้องจ่าย 3 แพ็กเกจ

หากคุณสนใจโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK คลิกเพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หรือ คลิกดูโปรโมชั่นของ PEAK ได้หรือโทร 1485 กด 1 เพื่อพูดคุยกับทีมงานของ PEAK เพิ่มเติม

ฉันต้องการย้ายข้อมูลจากโปรแกรมบัญชีเดิมมาโปรแกรม PEAK ทำอย่างไร ?


การเตรียมและย้ายข้อมูลจากโปรแกรมบัญชีเดิมมาที่โปรแกรม PEAK ง่ายๆ ด้วยตัวช่วยดังนี้

  1. เตรียมและย้ายข้อมูลด้วยตัวของคุณเองคลิกอ่านคู่มือที่ link https://bit.ly/3sKjMql การย้ายข้อมูลจากโปรแกรมเดิมมาที่ PEAK

  2. ย้ายข้อมูลด้วยคนจากสำนักงานบัญชีพาร์ทเนอร์ (มีค่าใช้จ่าย)

หากสนใจให้พาร์เนอร์ของ PEAK ช่วยย้ายข้อมูลให้ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ PEAK ที่เบอร์ 1485 กด 1 ได้เลย